สังคมบ้านเรายังยกย่องคนที่เป็นอาจารย์ในมหาวิทยาลัยหรือผู้ใช้คำนำหน้าชื่อว่า
"ด๊อกเตอร์"
ว่าเป็นคนเก่ง
เป็นผู้มีความรู้สูง
โดยเฉพาะด๊อกเตอร์ทางด้านสายวิทยาศาสตร์ที่คนจำนวนมากในบ้านเรา
(หรือส่วนใหญ่
?)
มีความรู้ความเข้าใจพื้นฐานที่ไม่ดี
แต่พอเข้าสู่ยุคสังคมออนไลน์นี่
เชื่อว่าคนจำนวนไม่น้อยคงเริ่มสงสัยในเรื่องความรู้ความสามารถของบุคคลเหล่านี้กันบ้างแล้วว่า
"รู้จริง"
หรือไม่
เพราะช่วงหลัง ๆ
มานี้เห็นมีทั้งการโพสข้อความ
กดแชร์ และกดไลค์ สิ่งที่
(ต้องขอบอกตามตรงว่า)
แสดงให้เห็นว่าการกระทำนั้นเกิดจาก
ความไม่รู้จริง
หรือไม่ได้พิจารณาเนื้อหาว่ามันถูกต้อง
หรือมันสมควรหรือไม่ที่จะแสดงการกระทำสนับสนุนเนื้อหาดังกล่าว
เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาเห็นมีการโพสข้อความ
(โดยใครก็ไม่รู้ซึ่งผมไม่รู้จัก)
และก็มีคนกดไลค์ตามเป็นพรวน
เข้าใจว่าทั้งคนโพสและส่วนหนึ่งของคนที่กดไลค์ก็เป็นผู้ที่ทำงานในสถาบันการศึกษา
แต่บังเอิญเรื่องที่เขาโพสนั้นผมพอจะมีความรู้อยู่บ้างเพราะก็ศึกษามาในวงการนี้
ทำให้ทราบว่าข้อความที่เขาโพสนั้นมันมีความ
"ไม่ถูกต้อง"
ผสมอยู่
ส่วนการที่เขาโพสข้อความที่มี
"ความไม่ถูกต้อง"
นั้นจะเกิดจาก
"ความไม่รู้จริง"
หรือ
"เพื่อทำให้ผู้อ่านคิดว่ารู้จริง"
หรือด้วยเหตุผลใดก็ตามแต่
ผมไม่สามารถทราบได้
อันที่จริงอีกอาชีพหนึ่งที่มีบทบาทสำคัญในการ
"ตัดตอน"
หรือ
"ส่งเสริม"
การแพร่กระจายข้อมูลที่ไม่ถูกต้องก็คือ
"สื่อมวลชน"
แต่ปัจจุบันนี้ดูเหมือนว่าทำงานกันโดยไม่พิจารณาเลยว่าข้อมูลที่นำมาจากแหล่งข่าวและเผยแพร่ต่อนั้นมันมีความถูกต้องหรือน่าเชื่อถือเพียงใด
หรือสักแต่เพียงว่าถ้ามันทำให้เกิดความ
"ตื่นตระหนก"
ในสังคมได้ก็ถือว่าเป็นผลงานชิ้นเอกก็พอ
ภาพข่าวที่นำมาให้ดูในวันนี้เป็นภาพข่าวที่เคยเห็นเมื่อเกือบสองปีที่แล้ว
เนื้อหาเป็นอย่างไรก็เชิญอ่านเอาเองก่อนก็แล้วกัน
อันที่จริงตัวข่าวมันยาวกว่านี้
แต่เป็นส่วนของรูปภาพประกอบ
ผมนำมาเฉพาะส่วนที่เป็นข้อความเนื้อข่าวเท่านั้น
(ไม่ได้มีการตัดต่อ)
เชื่อว่าพวกคุณทั้งหลายพออ่านแล้วคงจะแยกแยะได้ว่าข้อมูลไหนเป็นจริงข้อมูลไหนเป็นเท็จตามหลักวิทยาศาสตร์
เหล็กเป็นโลหะที่มีการนำมาใช้ประโยชน์ในทางวิศวกรรมมากที่สุด
เนื่องด้วยมันมีอยู่มากและผลิตได้ง่ายในราคาถูก
แต่ข้อเสียของเหล็กก็คือขึ้นสนิม
สนิมเหล็กก็คือสารประกอบออกไซด์ของเหล็ก
แต่เจ้าสารประกอบตัวนี้มันไม่ได้เกิดแบบเป็นชั้นฟิลม์เคลือบผิวเหล็กเอาไว้
ทำให้การเกิดสนิมสามารถกินลึกเข้าไปในเนื้อเหล็กได้เรื่อย
ๆ ด้วยเหตุนี้จึงได้มีการคิดค้นวิธีการต่าง
ๆ เพื่อป้องกันหรือลดการขึ้นสนิมของเหล็ก
เช่นการทาสี
การเคลือบผิวเหล็กด้วยโลหะชนิดอื่นที่ให้ฟิล์มออกไซด์ที่ป้องกันไม่ให้โลหะเหล็กข้างใต้ทำปฏิกิริยากับน้ำและออกซิเจนจนเกิดสนิม
การให้โลหะอีกชนิดหนึ่งเป็นตัวจ่ายอิเล็กตรอนแทนเหล็ก
เป็นต้น
และโลหะตัวหนึ่งที่นำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในสองกรณีหลังก็คือสังกะสี
(Zn)
เหล็กที่ผ่านการอาบสังกะสีด้วยกระบวนการ
Hot-dip
galvanization นี้เราเรียกว่าเหล็กกัลวาไนซ์
(galvanized
steel) เหล็กกัลวาไนซ์นี้ต่างจากการชุบสังกะสีไฟฟ้าด้วยกระบวนการ
electroplating
(หรือ
electrogalvanization)
โดยเหล็กกัลวาไนซ์นี้มีความต้านทานการเกิดสนิมมากกว่า
จึงเหมาะสำหรับการใช้งานกลางแจ้งได้ดีกว่าพวกชุบสังกะสีด้วยไฟฟ้า
ตัวอย่างของเหล็กกัลวาไนซ์ที่นำมาใช้งานในชีวิตประจำวันที่เห็นกันทั่วไปก็มี
สังกะสีมุงหลังคา
ท่อน้ำประปาที่เป็นท่อเหล็ก
ถังเก็บน้ำทรงสี่เหลี่ยมที่ทำจากเหล็ก
รวมไปถึงโครงสร้างเช่นเสาไฟฟ้าแรงสูง
(เสาไฟฟ้าแรงต่ำใช้เสาคอนกรีต)
โคมไฟส่องสว่างตามถนนหนทาง
เป็นต้น
ภาพข่าวจาก http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9570000107598
ภาพข่าวจาก http://www.manager.co.th/Home/ViewNews.aspx?NewsID=9570000107598
วิธีการหนึ่งที่ปัจจุบันเห็นมีใช้กันบ่อยครั้งขึ้นในการพยายามแทรกผลิตภัณฑ์ตัวใหม่เข้าไปแทนของเดิมคือการโจมตีของเดิมด้วยข้อมูลที่ทำให้ผู้รับข่าวสารนั้นเข้าใจผิดได้
ก่อนหน้านี้ก็มีกรณีของโฟมกับชานอ้อยที่ผมเคยชี้ประเด็นว่าฝ่ายที่เขาต้องการอย่างยิ่งที่จะให้มีการใช้กล่องชานอ้อยแทนกล่องโฟม
เลี่ยงที่จะกล่าวโจมตีบรรจุภัณฑ์ที่ทำจากโฟมที่ใช้ในการใส่อาหารที่มีน้ำในปริมาณมาก
ไม่ว่าจะเป็นน้ำแข็งใส
ก๋วยจั๊บ กระเพาะปลา
หรือก๋วยเตี๋ยว (สามอันหลังนี่ของร้อนนะ)
จะมุ่งไปที่อาหารแห้งหรือพวกผัดทอดเท่านั้น
ทั้งนี้เป็นเพราะอะไรเข้าใจว่าพวกคุณเองก็คงจะพอเข้าใจได้
อะไรที่คิดว่ามันไม่ดี
ก็ควรต้องทำการตรวจสอบด้วยกระบวนการมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับกัน
ถ้าพบว่ามันไม่ดีก็ควรผลักดันให้ออกเป็นกฎหมายไปเลยครับ
แบบเดียวกับการออกกฎหมายควบคุมการสูบบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ไม่ควรใช้วิธีการอ้างโน่นอ้างนี่ที่หาที่มาของแหล่งข้อมูลหรือตรวจสอบการได้มาซึ่งข้อมูลนั้นไม่ได้
ไม่รู้ว่าต่อไปจะมีการรณรงค์ให้เลิกใช้สังกะสีมุงหลังคาบ้านหรือเปล่า
ด้วยเกรงว่าจะมีโลหะหนักหลุดปลิวมาตามลมจากสังกะสีที่ก่อให้เกิดอันตรายได้ถ้าหายใจเอาอากาศเหล่านั้นเข้าไป
(แต่ถ้าเป็นสังกะสีมุงหลังคาทั้งแผ่นหลุดปลิวมาตามลมจนได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการที่มันหล่นใส่นั้นไม่ใช่เรื่องแปลก
เพราะพายุฤดูร้อนมาทีไรก็มีข่าวทำนองนี้ทุกที)
หรือห้ามการใช้ท่อกัลวาไนซ์ในระบบน้ำประปา
(จะว่าไปตอนนี้ก็ใช้กันน้อยลงไปมากเหมือนกัน
เปลี่ยนไปใช้ท่อพีวีซีกันเยอะ
แต่ก็ไม่เห็นมีการตามไปโจมตีท่อพีวีซีว่าทำให้เกิดมะเร็ง)
ห้ามการใช้แทงค์น้ำที่เป็นเหล็กในการกักเก็บน้ำ
ห้ามใช้หม้อหุงข้าวไฟฟ้าเพราะตัวหม้อชั้นในที่สัมผัสข้าวนั้นทำจากอะลูมิเนียม
(มีใครเคยเห็นยี่ห้อไหนในบ้านเราที่ผลิตหม้อหุงข้าวไฟฟ้าโดยตัวหม้อข้าวทำจากสแตนเลสบ้างไหมครับ
ถ้าพบเห็นรบกวนช่วยแจ้งด้วย)
อันที่จริง
Memoir
ฉบับนี้มันก็ไม่มีอะไร
เพียงแต่เห็นข่าวมันแปลกดีก็เลยนำมาบันทึกเอาไว้ซะหน่อยแค่นั้นเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น