ก่อนอื่นก็ต้องขอแสดงความยินดีกับสาวน้อยนักแสดงและสาวน้อยหน้าบานที่ผ่านการสอบปกป้องวิทยานิพนธ์เมื่อบ่ายวันนี้ไปได้ด้วยดีแม้ว่าจะมีการมั่วคำตอบแบบสุด
ๆ อยู่บ้าง ซึ่งเรื่องนี้จำเป็นต้องกล่าวถึงใน
Memoir
ฉบับถัดไป
ตอนนี้เราก็ยังเหลืออีกเพียง
๒ คนที่ต้องรออีก ๑๐ วัน
ผ่านเรื่องหนัก
ๆ มาหลายเรื่องแล้ว
คราวนี้ก็มายังเรื่องเบา
ๆ ย้อน ประวัติศาสตร์บ้าง
แต่ก็ยังเกี่ยวกับรถไฟอยู่ดี
เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมาบังเอิญได้มีโอกาส
(อย่างไม่ตั้งใจ)
ไปค้างที่โรงแรมแห่งหนึ่งใกล้กับสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำแคว
ทำให้นึกถึงการเดินทางไปเที่ยวที่นั่นเมื่อสองปีก่อนหน้า
คือตอนนั้นได้ไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์สงครามที่อยู่ริมแม่น้ำใกล้
ๆ กับเชิงสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำแควฝั่งตัวจังหวัดกาญจนบุรีด้วย
และที่ข้างในพิพิธภัณฑ์นั้นบริเวณริมฝั่งแม่น้ำก็มีซากคอสะพานข้ามแม่น้ำแควอยู่ด้วย
ตรงนั้นเขาบอกว่าเป็นซากสะพานเก่าที่สร้างขึ้นจากไม้
ก่อนจะถูกรื้อถอนออกไป
รูปที่
๑ หน้าปกหนังสือ "พันเอกแห่งท่ามะขาม
Philip
Toosey และสะพานข้ามแม่น้ำแคว)
การไปเที่ยววันนั้นทำให้ผมนึกถึงหนังสือเล่มหนึ่งที่ซื้อมาจากร้านขายหนังสือลดราคาที่อยู่ชั้นใต้ดินอาคารจตุรัสจามจุรี
หนังสือดังกล่าวชื่อ "The
colonel of Tamarkan : Philip Toosey and the bridge on the river Kwai"
ซึ่งผมของแปลเป็นไทยว่า
"พันเอกแห่งท่ามะขาม
Philip
Toosey และสะพานข้ามแม่น้ำแคว)
หนังสือดังกล่าวเขียนโดยJulie
Summers ผู้เป็นหลานของพันเอก
Toosey
เนื้อหาในหนังสือเป็นอย่างไรนั้นผมยังไม่มีเวลาอ่าน
เพราะต้องอ่านเล่มอื่นอีกสามสี่เล่มให้จบก่อนจึงจะได้คิวอ่านหนังสือเล่มนั้น
แต่ในหนังสือเล่มนั้นมีรูปหนึ่งที่ผมชอบก็คือภาพถ่ายทางอากาศของสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำแควซึ่งแสดงให้เห็นแนวทางรถไฟและบริเวณที่พักเชลยศึกอย่างชัดเจน
ตอนที่ญี่ปุ่นสร้างสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำแควนั้นได้สร้างสะพานขึ้นสองสะพาน
สะพานหนึ่งเป็นสะพานไม้สร้างเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ปีค.ศ.
๑๙๔๓
(พ.ศ.
๒๔๘๖)
ส่วนสะพานเหล็กสร้างเสร็จในเดือนเมษายนปีเดียวกัน
รูปที่
๒ การทิ้งระเบิดสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำแควในช่วงต้นปีค.ศ.
๑๙๔๕
(พ.ศ.
๒๔๘๘)
สะพานเหล็กจะอยู่ทางด้านหน้า
ส่วนสะพานไม้จะอยู่ทางด้านหลัง
(รูปจาก
http://www.awm.gov.au/collection/item/P01433.003)
รูปที่
๓ สะพานเหล็กหลังโดยระเบิดทำลาย
เข้าใจว่าเป็นภาพต่อเนื่องจากรูปที่
๑
(รูปจาก
http://www.awm.gov.au/collection/item/P00502.001)
รูปที่
๔ ภาพถ่ายทางอากาศของกองทัพอากาศอังกฤษในปีค.ศ.
๑๙๔๕
(พ.ศ.
๒๔๘๘)
แสดงสะพานเหล็กและสะพานไม้
และบริเวณที่ตั้งค่ายเชลยศึกซึ่งในหนังสือบอกว่าอยู่ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ของสะพานไม้
แต่เมื่อเทียบกับแผนที่ที่ถูกต้องแล้วพบว่าภาพที่แสดงในหนังสือเป็นภาพกลับหัว
รูปนี้ได้ทำการหมุนภาพเพื่อให้ได้ทิศที่ถูกต้องแล้วคือด้านบนของรูปคือทิศเหนือ
(รูปที่
๙ จากหนังสือ)
รูปที่
๕ ภาพถ่ายดาวเทียมของบริเวณเดียวกันกับรูปที่
๒ เมื่อเทียบกับรูปที่ ๒
แล้วคิดว่าแนวเส้นทางรถไฟชั่วคราวที่วิ่งผ่านสะพานไม้ควรจะเป็นแนวตามเส้นประสีเหลืองที่แสดงในรูป
โดยฟากตัวจังหวัดกาญจนบุรีนั้นน่าจะอยู่บนแนวถนนนิวซีแลนด์
สะพานดังกล่าวพอสร้างเสร็จก็เป็นเป้าหมายของการทิ้งระเบิดทำลาย
กองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรประสบความสำเร็จในการทิ้งระเบิดทำลายสะพานเหล็ก
(รูปที่
๒ และ ๓)
แต่สะพานไม้ยังคงอยู่
ดังนั้นผมคิดว่าการส่งเสบียงของกองทัพญี่ปุ่นนั้นน่าจะยังดำเนินต่อไปได้อีก
เส้นทางรถไฟสายนี้วางแนวเลียบไปตามลำแม่น้ำแควน้อย
น่าจะเป็นเพราะต้องการใช้แม่น้ำเป็นเส้นทางลำเลียงแรงงานและวัตถุดิบในการสร้างทางรถไฟ
ที่เอาเรื่องนี้มาเล่าเพราะเห็นว่าตอนนี้เวลาที่ใคร
ๆ ไปเที่ยวสะพานข้ามแม่น้ำแควที่กาญจนบุรี
ก็จะไปเยี่ยมชมเฉพาะสะพานรถไฟข้ามแม่น้ำแควที่เป็นสะพานเหล็กเท่านั้น
เรื่องของสะพานไม้สำหรับรถไฟที่สร้างขึ้นมาคู่กันและเสร็จก่อนนั้นมักไม่ค่อยถูกกล่าวถึง
Memoir
ฉบับนี้ก็เลยถือโอกาสเปลี่ยนบรรยากาศหารูปภาพเก่าบ้างใหม่บ้างมาให้ดูเปรียบเทียบกัน
ถือว่าเป็นการพักผ่อนสำหรับผู้ที่สอบเสร็จแล้ว
และเป็นการคลายเครียดสำหรับผู้ที่รอสอบอยู่ก็แล้วกัน
รูปที่ ๖ รูปด้านซ้ายมาจากหนังสือหน้า
๑๔๓ บอกว่าเป็นภาพของสะพานเหล็กเมื่อสร้างเกือบเสร็จสมบูรณ์แล้ว
บอกว่าถ่ายเอาไว้โดยคนไทยคนหนึ่ง
(ไม่มีการระบุชื่อ)
ในช่วงฤดูใบไม้ผลิปีค.ศ.
๑๙๔๓
(พ.ศ.
๒๔๘๖)
และนำมาให้กับ
Arthur
Osborne (ทหารรับใช้ของพันเอก
Philip
Toosey) หลังสงครามสิ้นสุด
ส่วนรูปด้านขวาเป็นรูปที่ผมถ่ายเอาไว้เอง
พอเทียบแล้วคิดว่ารูปด้านซ้ายน่าจะเป็นมุมมองจากทางด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้
(ฝั่งเส้นทางไปไทรโยค)
ไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือ
(ฝั่งตัวสถานีจังหวัดกาญจนบุรี)