หลังจากที่ได้เห็นเหตุการณ์ในวันนี้แล้ว
จากเรื่องที่เคยคิดว่าเป็นเรื่องธรรมดาน่าจะรู้กันอยู่แล้ว
ก็เลยกลายเป็นว่าเป็นเรื่องที่ต้องขอเขียนบันทึกเอาไว้สักหน่อย
เพราะมันอาจถึงตายได้
นั่นคือเรื่องการใช้มัลติมิเตอร์และไขควงเช็คไฟ
มัลติมิเตอร์ถ้าเป็นแบบเข็ม
(ดังรูปที่
๑)
ก็จะมีแบตเตอรี่อยู่ข้างใน
(ปรกติก็ขนาด
9
V 1 ก้อน)
เพื่อใช้สำหรับการวัดความต้านทาน
ก่อนการใช้งานแต่ละครั้งก็ควรต้องทดสอบก่อนด้วยการปรับไปที่ตำแหน่งวัดความต้านทานต่ำสุด
และนำขาทั้งสองข้างของสายวัดมาแตะกัน
(ดูรูปที่
๑)
ซึ่งควรจะเห็นเข็มวัดตีขึ้นอ่านค่าได้
0
โอห์ม
รูปที่ ๑ ก่อนใช้มัลติมิเตอร์ ควรปรับไปที่เลือกวัดความต้านทานก่อน จากนั้นนำปลายของสายวัด (หรือโพรบ) มาแตะกัน (ลูกศรสีเขียวชี้) ซึ่งควรจะอ่านได้ค่าความต้านทานเป็นศูนย์หรือใกล้ศูนย์ การทดสอบนี้เพื่อดูว่ามัลติมิเตอร์ยังทำงานได้หรือเปล่า ส่วนไขควงเช็คไฟนั้นจะมีส่วนหัวหรือคลิปที่เป็นโลหะ (ลูกศรสีเหลืองชี้) เวลาใช้งานต้องเอานิ้วแตะที่ส่วนหัวหรือคลิป
ถ้าแตะแล้วเข็มวัดไม่กระดิกขึ้น
ก็แสดงว่าแบตเตอรี่หมดหรือไม่ก็มัลติมิเตอร์เสีย
ก็อย่าเพิ่งเอาไปใช้วัดไฟ
220
V เพราะอุปกรณ์พวกนี้ถ้ามันเสีย
มันจะแสดงค่าเป็น 0
V เหมือนกับว่าไม่มีไฟ
ทั้ง ๆ ที่อาจมีไฟอยู่ครบ
220
V
ส่วนการใช้ไขควงเช็คไฟนั้น
เวลาใช้งานต้องเอานิ้วแตะที่ส่วนหัวหรือไม่ก็คลิปที่เป็นโลหะ
เพื่อให้ไฟฟ้ามันครบวงจร
(มันเอาตัวเราเป็น
ground)
ถ้าจิ้มไปที่ช่อง
neutral
มันก็จะไม่มีไฟติด
แต่ถ้าจิ้มไปที่ช่อง line
ที่มีไฟ
หลอดไฟในไขควงก็จะสว่างให้เห็น
(ดูรูปที่
๒)
รูปที่ ๒ (บน) เวลาใช้ไขควบเช็คไฟต้องให้นิ้วหรือมือของเราสัมผัสกับส่วนที่เป็นหัวโลหะหรือคลิปโลหะ เพื่อให้ไฟฟ้าครบวงจร เวลาจิ้มไปที่ช่องที่เป็นสาย line หลอดไฟก็จะสว่าง (ล่าง) แต่ถ้าไม่มีส่วนใดของร่างกายสัมผัสกับหัวโลหะหรือคลิปโลหะ หลอดไฟก็จะไม่สว่าง ทั้ง ๆ ที่รูปลั๊กนั้นเป็นรูของสาย line
สรุปว่าไขควงไม่ได้เสียหรอก
คนซื้อใช้ไม่เป็นต่างหาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น