ถ้าจะกล่าวว่าหมู่ไวนิล
(vinyl)
H2C=CH- คือเอทิลีนที่อะตอม
H
หายไปหนึ่งอะตอม
ดังนั้นในทำนองเดียวกันก็อาจจะกล่าวได้ว่าหมู่อัลลิล
(ally)
H2C=CH-CH2- ก็คือโพรพิลีนที่อะตอม
H
(ของอะตอม
C
ที่ไม่ใช่พันธะคู่)
หายไปหนึ่งอะตอมได้เช่นกัน
ส่วนหมู่เบนซิล (benzyl)
C6H5-CH2-
ก็จะเปรียบเสมือนโทลูอีนที่อะตอม
H
ของหมู่เมทิลหายไปหนึ่งอะตอม
พันธะ
C-H
ของอะตอม
C
ที่อยู่ถัดจากพันธะคู่
(ตัวสีแดง
ซึ่งอาจเป็น H2C=CH-CH2-
ในกรณีของหมู่อัลลิลหรือ
C6H5-CH2-
ในกรณีของหมู่เบนซิล)
มีความแข็งแรงที่อ่อนกว่าพันธะตรงตำแหน่งอื่น
และมีแนวโน้มที่จะถูกออกซิไดซ์ได้ง่ายกว่า
และได้มีการนำความรู้นี้มาใช้ประโยชน์ในการสังเคราะห์สารประกอบที่ต้องการแทรกโมเลกุล
N
เข้าไปในโครงสร้าง
โดยอาศัยการออกซิไดซ์ไฮโดรคาร์บอนตัวนั้นกับแอมโมเนีย
(NH3)
และออกซิเจน
ในปฏิกิริยาที่มีชื่อว่า
"ammoxidation"
สารเคมีตัวหนึ่งที่มีการสังเคราะห์ขึ้นเป็นจำนวนมาโดยอาศัยปฏิกิริยาดังกล่าวเป็นหลักเห็นจะได้แก่
อะคลิโรไนไตรล์ (acrylonitrile
H2C=CH-CN
ตรงพันธะระหว่าอะตอม
C
กับ
N
เป็นพันธะสาม)
ที่สังเคราะห์โดยใช้โพรพิลีนทำปฏิกิริยากับแอมโมเนียและออกซิเจนในเฟสแก๊สโดยมีตัวเร่งปฏิกิริยาช่วย
ในทำนองเดียวกัน เบนโซไนไตรล์
(benzonitrile
C6H5-CN)
ก็สามารถเกิดได้จากปฏิกิริยาระหว่างโทลูอีนกับแอมโมเนียและออกซิเจนในเฟสแก๊สโดยมีตัวเร่งปฏิกิริยาช่วยเช่นเดียวกัน
โดยตัวเร่งปฏิกิริยาที่เหมาะสมสำหรับปฏิกิริยาดังกล่าวจะเป็นสารประกอบโลหะออกไซด์ของโลหะวาเนเดียม
V
หรือโมลิบดีนัม
Mo
เป็นหลัก
รูปที่
๑ ตัวอย่างสิทธิบัตรประเทศสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับการผลิต
benzonitrile
จากปฏิกิริยาระหว่างโทลูอีนกับแอมโมเนีย
ที่สำคัญก็คือสารประกอบโลหะออกไซด์ของโลหะ
V
หรือ
Mo
ก็เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาที่ใช้ในกระบวนการ
Selective
Catalytic Reduction (SCR) ที่ใช้กำจัดแก๊ส
NO
ในแก๊สปล่อยทิ้ง
(จากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล)
ด้วย
NH3
ด้วย
ดังนั้นในกรณีที่แก๊สปล่อยทิ้งนั้นมีไฮโดรคาร์บอนไม่อิ่มตัวหรือ
alkyl
substituted benzene (เบนซีนที่อะตอม
H
ถูกแทนที่ด้วยหมู่อัลคิล)
ปะปนอยู่
ก็ต้องคำนึงถึงโอกาสที่จะเกิดปฏิกิริยาข้างเคียงที่ไม่ต้องการนี้ด้วย
รูปที่
๒
อีกตัวอย่างหนึ่งของสิทธิบัตรประเทศสหรัฐอเมริกาที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเบนโซไนไตรล์โดยอาศัยปฏิกิริยา
ammoxidation
ระหว่างโทลูอีนกับแอมโมเนียและออกซิเจน
รูปที่
๓
อีกตัวอย่างหนึ่งของสิทธิบัตรประเทศสหรัฐอเมริกาที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเบนโซไนไตรล์โดยอาศัยปฏิกิริยา
ammoxidation
ระหว่างโทลูอีนกับแอมโมเนียและออกซิเจน
รูปที่
๔
ตัวอย่างสิทธิบัตรประเทศสหรัฐอเมริกาที่เกี่ยวข้องกับการเตรียมตัวเร่งปฏิกิริยาวาเนเดียมออกไซด์
(V2O5)
บนตัวรองรับไทเทเนียมออกไซด์
(TiO2)
เพื่อใช้ในปฏิกิริยา
ammoxidation
หมู่
-CN
นี้สามารถเกิดปฏิกิริยาไฮโดรไลซิส
(hydrolysis)
ด้วยน้ำ
โดยมีกรดหรือเบสเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา
กลายเป็นหมู่เอไมด์ (amide
-C(O)-NH2)
ที่สามารถเกิดปฏิกิริยาไฮโดรไลซิสต่อไปเป็นหมู่คาร์บอกซิล
(carboxyl
-COOH) ได้ถ้าไม่ได้รับการควบคุมที่ดี
รูปที่
๕
ตัวอย่างบทความเกี่ยวกับปฏิกิริยาไฮโดรไลซิสเบนโซไนไตรล์ที่ใช้กรดเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา
(บทความตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสาร
J.
Chem. Soc., Perkin Trans. 2, ปีค.ศ.
1973 หน้า
223-227)
Memoir
ฉบับนี้เขียนขึ้นเนื่องจากระหว่างทำการศึกษาปฏิกิริยา
SCR
ในแก๊สปล่อยทิ้งที่มีโทลูอีนประปนอยู่
ดันไปเจอเข้ากับปฏิกิริยานี้โดยบังเอิญแบบไม่ได้คาดการณ์ล่วงหน้ามาก่อน
ก็เลยลองนำมาคิดดูเล่น ๆ
ว่าถ้าจะเอาปฏิกิริยานี้มาใช้ประโยชน์โดยใช้โทลูอีนเป็นสารตั้งต้น
มันจะไปทางไหนได้บ้าง
เส้นทางแรกสุด
(เส้นบนในรูปที่
๖)
เริ่มจากการเปลี่ยนโทลูอีนไปเป็นเบนโซไนไตรล์ด้วยปฏิกิริยา
ammoxidation
ก่อน
จากนั้นจึงทำการไฮโดรไลซ์เบนโซไนไตรล์ไปเป็นเบนซาไมด์
(benzamide)
จากนั้นจึงนำเบนซาไมด์มาทำปฏิกิริยา
nitration
และเนื่องด้วยหมู่เอไมด์
-C(O)-NH2
เป็น
meta
directing group ดังนั้นการแทนที่ด้วยหมู่
NO2
จึงควรเกิดขึ้นที่ตำแหน่ง
meta
เป็นหลัก
ได้ผลิตภัณฑ์คือ 3-Nitrobenzamide
จากนั้นทำการรีดิวซ์หมู่ไนโตร
-NO2
ให้กลายเป็นหมู่อะมิโน
-NH2
ก็จะได้สารประกอบ
3-Aminobenzamide
อีกเส้นทางหนึ่งนั้น
(เส้นล่างในรูปที่
๖)
เริ่มจากการนำโทลูอีนมาทำปฏิกิริยา
hydroxylation
กับ
H2O2
โดยมีตัวเร่งปฏิกิริยาตระกูล
TS-1
ช่วย
(งานนี้ทางกลุ่มเราเคยทำเอาไว้แล้ว)
ผลิตภัณฑ์ที่ได้คือ
o-Cresol
และ
p-Cresol
(เพราะหมู่
-CH3
เป็น
ortho
และ
para
directing group) จากนั้นนำ
o-Cresol
มาทำปฏิกิริยา
ammoxidation
ก็จะได้สารประกอบ
2-Hydroxylbenzonitrile
ที่เมื่อนำไปทำปฏิกิริยาไฮโดรไลซิลต่อก็จะได้
Salicylamide
ตัว
Salicylamide
นี้ถ้าแทนที่อะตอม
H
ของหมู่
-OH
ด้วยหมุ่เอทิล
-CH2CH3
(ปฏิกิริยานี้อยู่ในเรื่องการสังเคราะห์อีเทอร์)
ก็จะได้สารประกอบที่มีชื่อว่า
Ethanzamide
(ตรงนี้ผมยังสงสัยอยู่เหมือนกันว่า
ในขั้นตอนการเปลี่ยน
Salicylamide
ไปเป็น
Ethanzamide
นั้น
หมู่เอไมด์จะทำปฏิกิริยาด้วยหรือไม่
หรือควรต้องเปลี่ยนหมู่เอไมด์เป็นหมู่อื่นก่อน
(เช่นหมู่คาร์บอกซิล)
จากนั้นจึงเปลี่ยนหมู่
hydroxyl
ไปเป็นหมู่
ethoxy
แล้วจึงค่อยเปลี่ยนหมู่เอไมด์ที่ถูกเปลี่ยนไปเป็นหมู่อื่นนั้นให้กลับมาเป็นหมู่เอไมด์เหมือนเดิม)
รูปที่
๖ แผนผังความเป็นไปได้ในการใช้ประโยชน์โทลูอีนผ่านปฏิกิริยา
ammoxidation
และ
hydroxylation
ข้อมูลใน
wikipedia
บอกว่า
3-Aminobenzmide
ได้รับความสนใจในฐานะสารตัวหนึ่งที่มีความเป็นไปได้ในการนำมาใช้เป็นยารักษาโรคมะเร็ง
Salicylamide
มีการนำมาใช้เป็นยาแก้ปวดและลดไข้
ส่วน Ethenzamide
นั้นมีการนำมาใช้เป็นยาแก้ปวดและต้านการอักเสบ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น