คำว่า
"ฉิมพลี"
พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน
พ.ศ.
๒๕๒๕
ให้ความหมายเอาไว้ว่า
[ฉิมพะลี]
น.
ไม้งิ้ว
พอเอามาตั้งเป็นชื่อหมู่บ้าน
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นการบ่งบอกถึงต้นไม้ที่ขึ้นอยู่เยอะในท้องถิ่นหรือเปล่า
แต่ในอีกความหมายหนึ่งที่ทางสำนักงานราชบัณฑิตยสภาให้ความหมายไว้ก็คือ
ครุฑมีวิมานที่สวยงามอยู่บนต้นงิ้วที่ยากที่ผู้ใดจะสามารถไปถึง
ก็เลยมีการเปรียบเปรยสถานที่ที่สวยงามที่ยากที่ผู้ใดจะไปถึงได้นั้นว่า
"วิมานฉิมพลี"
ที่ถ้าแปลออกมาเป็นภาษาง่าย
ๆ แบบไม่ยึดติดเรื่องเล่าก็น่าจะเป็น
"บ้านบนต้นงิ้ว"
แต่เวลากล่าวถึงต้นงิ้วทีไร
เราก็มักจะคิดถึงเรื่องราวทำนองชู้สาวเป็นประจำ
และจะว่าไปเรื่องเล่าเกี่ยวกับครุฑก็มีการลักพาเมียคนอื่นไปเป็นเมียตัวเองด้วยเหมือนกัน
รูปที่ ๑ แผนที่ทหารกรุงเทพฝั่งตะวันตก จัดทำโดยกองทัพอังกฤษที่ประจำอยู่ในอินเดีย (British-India) ฉบับพิมพ์เมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. ๑๙๔๕ (พ.ศ. ๒๔๘๘) โดยใช้ข้อมูลที่มีการสำรวจในเดือนธันวาคม ค.ศ. ๑๙๔๔ (พ.ศ. ๒๔๘๗) ประกอบการทำ สถานีรถไฟบ้านฉิมพลีอยู่ในกรอบสี่เหลี่ยมสีเหลือง จุดดำ ๆ เล็ก ๆ ที่กระจายอยู่ทั่วไปในแผนที่คือบริเวณที่ต้องของอาคารบ้านเรือน ซึ่งจะเห็นว่าจะเรียงตัวไปตามแนวคลองต่าง ๆ
แต่ก่อน
ถ้าจะเดินทางโดยรถยนต์มายังบริเวณริมคลองมหาสวัสดิ์
ก็คงต้องใช้ถนนเพชรเกษม
จากนั้นจึงค่อยตัดขึ้นเหนือโดยใช้ถนนพุทธมณฑลสายต่าง
ๆ ที่มาสุดทางที่ชุมชนบริเวณริมคลองมหาสวัสดิ์
แต่พอมีถนนบรมราชชนนีและถนนสิรินธรตัดผ่าน
บริเวณแถวนี้ก็เข้าถึงโดยรถยนต์จากทั้งสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าและสะพานกรุงธนฯได้ง่ายขึ้น
และเมื่อก่อนน้ำท่วมใหญ่ปี
๒๕๕๔
ก็มีการสร้างถนนเลียบทางรถไฟทั้งสองฝั่งจากทางขึ้นสะพานพระราม
๖ ไปจนถึงวงแหวนรอบนอก
ตามด้วยการสร้างทางด่วนตามแนวทางรถไฟอีก
ทำให้พื้นที่ที่เคยเป็นที่อยู่ห่างไกลจากถนนใหญ่และตัวเมืองกลายเป็นเส้นทางคมนาคมที่สะดวกขึ้นมาทันที
สถานนีรถไฟบางสถานีที่เคยเป็นสถานีหลักสำหรับให้คนท้องถิ่นอาศัยเดินทางเข้าเมืองก็เลยหมดความสำคัญไป
อย่างเช่นสถานีรถไฟบ้านฉิมพลีนี้
ที่ตอนนี้กลายเป็นเพียงแค่ป้ายหยุดรถ
แต่ก็ไม่แน่เหมือนกัน
ถ้าหากระบบรถไฟขนส่งมวลชนที่ตอนนี้มาสิ้นสุดที่ตลิ่งชัน
เกิดในอนาคตมีการขยายเส้นทางออกมา
สถานีนี้ก็อาจจะรุ่งเรืองกลับมาอีกก็ได้
เพราะมีสถานที่ราชการตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามสถานี
รูปที่ ๒ แผนที่แนบท้ายราชกิจจานุเบกษาเล่ม ๗๘ ตอนที่ ๙๕ วันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ๒๕๐๔ เรื่อง "ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องจัดตั้งสุขาภิบาลตลิ่งชัน จังหวัดธนบุรี" หน้า ๒๓๘๓-๒๓๘๔ ปรากฏสถานีรถไฟฉิมพลีในกรอบสี่เหลี่ยมในรูป ดูจากแผนที่แล้วจะเห็นว่าการเดินทางทางบกเข้ามายังบริเวณนี้ในเวลานั้นคงต้องอาศัยรถไฟเป็นหลัก สถานีนี้ตั้งอยู่ใกล้กับคลองมหาสวัสดิ์และยังใกล้กับจุดบรรจบของคลองบางตาลและคลองบัว ดูจากตำแหน่งการกระจายตัวของบ้านเรื่อน การที่มีสถานีตำรวจ และร้านค้าอยู่ใกล้ ๆ ก็แสดงว่าน่าในอดีตนั้นน่าจะมีคนอยู่บริเวณนี้เยอะอยู่เหมือนกัน
เมื่อวานตอนกลับบ้านเลยถือโอกาสแวะไปถ่ายรูปเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึกหน่อย
อันที่จริงตอนไปถึงดวงอาทิตย์ก็ลับขอบฟ้าแล้ว
แต่ที่เห็นภาพมันสว่างเพราะใช้กล้องดิจิตอล
(Nikon
D3500) ถ่ายโดยตั้งโปรแกรม
P
มันก็เลยเพิ่มความไวแสงให้อัตโนมัติไปที่
ISO
25600 ภาพมันก็เลยออกมาสว่างเกินจริงไปมาก
Memoir
ฉบับนี้ก็ถือว่าเป็นการบันทึกสถานที่ธรรมดาแห่งหนึ่งเอาไว้ก็แล้วกัน
ก่อนที่มันจะเปลี่ยนแปลงไปจนไม่เหลือเค้าเดิม
รูปที่ ๓ ป้ายบอกชื่อสถานีด้านทิศตะวันออก รูปนี้เป็นการมองไปยังเส้นทางที่มาจากสถานีศาลาธรรมสพน์ (มองไปยังทิศตะวันตก)
รูปที่ ๔ เดินเลยป้ายชื่อสถานีมาหน่อย ยังเหลือม้านั่งเก่า ๆ สำหรับคนนั่งรอรถไฟ กับป้ายบอกชื่อสถานีถัดไป
รูปที่ ๕ ป้ายบอกชื่อสถานีที่อยู่ถัดไฟ ป้ายข้างหลังที่เป็นป้ายโลหะน่าจะเป็นป้ายที่เก่ากว่าป้ายด้านหน้าที่เป็นคอนกรีต
รูปที่ ๖ ป้ายนี้สนิมเขรอะแล้ว ไม่รู้ว่าต่อไปจะโดนถอดออกไปขายเป็นเศษเหล็กหรือเปล่า
รูปที่ ๗ อาคารศาลานี้ดูแล้วน่าจะเป็นตัวที่ทำการสถานีเก่า ที่รื้อเอาผนังกั้นห้องออกไป
รูปที่ ๘ ข้ามมายังชานชาลาที่อยู่ตรงกลาง เดินเลยมาจนเกือบสุดชานชาลาด้านทิศตะวันตก
รูปที่ ๙ ระหว่างเดินกลับย้อนกลับไปทางทิศตะวันออก ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกเสียหน่อย คิดว่าถ้าหากมีการตัดหญ้าให้มันเรียบร้อยไม่รก ก็น่าจะใช้เป็นสวนหย่อมพักผ่อนสำหรับผู้ที่อยู่บริเวณนั้นได้
รูปที่ ๑๐ อาคารเก่าที่ยังคงสภาพอยู่ ไม่รู้ว่าเป็นอาคารอะไร ดูจากการที่มันไม่มีหน้าต่างด้านข้างก็เลยสงสัยว่าเป็นห้องน้ำหรือเปล่า
รูปที่ ๓ ป้ายบอกชื่อสถานีด้านทิศตะวันออก รูปนี้เป็นการมองไปยังเส้นทางที่มาจากสถานีศาลาธรรมสพน์ (มองไปยังทิศตะวันตก)
รูปที่ ๔ เดินเลยป้ายชื่อสถานีมาหน่อย ยังเหลือม้านั่งเก่า ๆ สำหรับคนนั่งรอรถไฟ กับป้ายบอกชื่อสถานีถัดไป
รูปที่ ๕ ป้ายบอกชื่อสถานีที่อยู่ถัดไฟ ป้ายข้างหลังที่เป็นป้ายโลหะน่าจะเป็นป้ายที่เก่ากว่าป้ายด้านหน้าที่เป็นคอนกรีต
รูปที่ ๖ ป้ายนี้สนิมเขรอะแล้ว ไม่รู้ว่าต่อไปจะโดนถอดออกไปขายเป็นเศษเหล็กหรือเปล่า
รูปที่ ๗ อาคารศาลานี้ดูแล้วน่าจะเป็นตัวที่ทำการสถานีเก่า ที่รื้อเอาผนังกั้นห้องออกไป
รูปที่ ๘ ข้ามมายังชานชาลาที่อยู่ตรงกลาง เดินเลยมาจนเกือบสุดชานชาลาด้านทิศตะวันตก
รูปที่ ๙ ระหว่างเดินกลับย้อนกลับไปทางทิศตะวันออก ถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกเสียหน่อย คิดว่าถ้าหากมีการตัดหญ้าให้มันเรียบร้อยไม่รก ก็น่าจะใช้เป็นสวนหย่อมพักผ่อนสำหรับผู้ที่อยู่บริเวณนั้นได้
รูปที่ ๑๐ อาคารเก่าที่ยังคงสภาพอยู่ ไม่รู้ว่าเป็นอาคารอะไร ดูจากการที่มันไม่มีหน้าต่างด้านข้างก็เลยสงสัยว่าเป็นห้องน้ำหรือเปล่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น