แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ มะเฟือง แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ มะเฟือง แสดงบทความทั้งหมด

วันเสาร์ที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2559

นกแก้วกินมะเฟือง (๓) MO Memoir : Saturday 9 January 2559

ดูดฝุ่นในรถเสร็จกำลังคิดว่าจะล้างรถก่อนออกเดินทางดีหรือเปล่า ก็บังเอิญมีฝนตกลงมาพอดี ทำให้ได้เลื่อนการล้างรถออกไปอีกวัน
 
หลังฝนหยุดตกก็มีลมเย็นพัดเอื่อย ๆ มาคลายความร้อนอบอ้าว แต่สักพักก็มีเสียงดังปังบนหลังคาโรงรถ พร้อมกับลูกมะเฟืองที่ยังดิบอยู่กลิ้งตกลงมา ยังไม่ทันใดก็มีเสียงดังขึ้นมาอีก ตามด้วยมีลูกมะเฟืองตกตามมาอีก เลยเดาได้ว่ามีผู้มาเยือนมาเก็บมะเฟืองกินอีกแล้ว
 

คราวนี้มากันสองตัวเหมือนคราวที่แล้ว แต่วันนี้ลูกมะเฟืองมีไม่เยอะ และอันที่จริงเพิ่มจะตัดแต่งกิ่งต้นมะเฟืองที่มีผลดกไปเมื่อไม่กี่วันก่อนหน้านี้ ต้นที่ไม่ได้ตัดแต่งกิ่งก็ยังไม่ค่อยออกผลซะด้วย นกแก้วสองตัวนั้นแวะมากินไปครู่เดียวก็บินจากไป เลยถ่ายรูปมาให้ดูได้เพียงสองรูปของนกแก้วเพียงตัวเดียว
 

เช้าวันเด็กด้วยเรื่องเบา ๆ ไม่มีสาระ ว่าถิ่นใจกลางกรุงเทพ (ในปัจจุบัน) ในเขตบางพลัด
กลางวันมีนกแก้วมาเยือน
กลางคืนมีหิ่งห้อยมาบิน

วันเสาร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

นกแก้วกินมะเฟือง (๒) MO Memoir : Saturday 16 May 2558

เรื่องไร้สาระในวันที่ตื่นเช้ามาพบว่ากระต่ายตัวสุดท้ายที่เหลืออยู่ (เจ้าโกโก้) นอนตายอยู่ในกรง แต่บนต้นมะเฟืองมีนกแก้วมาเยือนพร้อมกัน ๒ ตัว
  
ตอนแรกที่ได้ยินเสียงของตกกระทบกับหลังคาและพื้นดินยังนึกว่าเป็นเสียงหยดน้ำฝน เพราะเห็นเมฆเริ่มตั้งเค้า แต่พอฟังดี ๆ พบว่าไม่ใช่ กลายเป็นเสียงของเศษลูกมะเฟืองตกกระทบหลังคาไม่ก็ตกกระทบพื้น พอมองตามทิศทางที่เศษมะเฟืองตกลงมาก็พบว่ามีนกแก้ว ๒ ตัวมาเก็บมะเฟืองกิน ต่างตัวต่างกินอยู่กันคนละมุมของต้น ไม่แย่งกัน
  
ปีที่แล้วก็ราว ๆ ช่วงเวลานี้ที่มีนกแก้วมาแวะกินมะเฟือง และได้เขียนเรื่อง "นกแก้วกินมะเฟือง" เอาไว้เป็นครั้งแรก มะเฟืองต้นนี้ออกลูกดกเป็นประจำ แต่ที่บ้านไม่มีใครกิน ปล่อยให้มันร่วงหล่นเอง กระรอกก็ไม่เก็บกิน (เจ้าตัวนี้มันเน้นไปที่มะม่วง มะละกอ และกล้วย เรียกว่าถ้าปล่อยให้สุกคาต้นเมื่อใดเป็นอันเสร็จเจ้ากระรอกทุกที) และไม่เห็นนกอะไรจะมากินด้วย จะมีก็แต่นกแก้วเท่านั้นที่เห็นมาเก็บกินอยู่เรื่อย
  
อีกไม่นานแถวบ้านก็จะมีทั้งระบบรถไฟขนส่งมวลชน และระบบทางด่วนมาผ่านใกล้ ๆ แล้ว สวนต่าง ๆ ที่เคยไปซื้อต้นไม้มาปลูกก็แปรสภาพเป็นหมู่บ้านจัดสรรไปเกือบหมดแล้ว หมู่บ้านจัดสรรที่สร้างขึ้นใหม่ก็มักจะปลูกบ้านกันเต็มพื้นที่ไม่เหลือที่ให้ปลูกไม้ใหญ่ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเหล่านกพวกนี้จะมีที่พักอาศัยและแหล่งอาหารให้กินไปอีกนานเท่าใด ที่เขียนเรื่องนี้ก็เพื่อเป็นการบันทึกไว้ว่าในปีนี้ก็ยังเห็นนกแก้วบินเล่นอยู่ ตอนมาอยู่ใหม่ ๆ เมื่อเกือบสามสิบปีที่แล้วก็ยังมีนกหัวขวานบินมาเจาะต้นไม้ให้เห็น แต่ก็หายหน้าหายตาไปนานแล้ว
  
รูปที่ ๑ แขกสองตัวผู้มาเยือนตั้งแต่เช้าตรู่ สีขนกลมกลืนกับใบและกิ่งมะเฟืองมาก มีส่วนปากที่เห็นเด่นชัด
 


รูปที่ ๒ ตัวที่อยู่มุมด้านซ้ายของรูปที่ ๑
  
รูปที่ ๓ ตัวที่อยู่มุมด้านขวาของรูปที่ ๑
  
รูปที่ ๔ เศษซากมะเฟืองที่เหลือจากการแทะกินของนกแก้วทั้งสองตัว

วันอาทิตย์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2557

รังนกปรอดบนปลายกิ่งมะเฟือง MO Memoir : Sunday 27 July 2557

พื้นที่บริเวณที่ผมอาศัยอยู่มันก็ไม่ได้ใหญ่ไปกว่าพื้นที่ของหน่วยงานที่ผมทำงานอยู่ ต้นไม้ขนาดใหญ่ก็มีจำนวนน้อยกว่า แต่กลับมีสัตว์หลากหลายชนิดมากกว่า นั่นคงเป็นเพราะมีต้นไม้หลากหลายสายพันธุ์มากกว่า
  
นกแถวบ้านผมไม่ต้องหากินโดยการเก็บเศษอาหารที่คนกินเหลือไว้ที่โรงอาหาร กระรอกกับกระแตก็ไม่ต้องรอผลไม้ที่มีคนใจดีมาแขวนไว้ตามต้นไม้เพื่อเป็นอาหารเหมือนดังเช่นที่ทำงานของผม มองจากหน้าต่างข้างโต๊ะคอมพิวเตอร์ที่ผมนั่งทำงานที่บ้าน มันก็วิ่งไต่รั้วกลับไปกลับมาให้เห็นอยู่ทั้งวัน เดี๋ยวก็ไปกระโดดขึ้นต้นมะตูมบ้าง กระถินบ้าง ต้นไผ่บ้าง เวลามันนึกสนุกวิ่งไล่กันก็กระโจนข้ามไปมาระหว่างต้นประดู ต้นไผ่ และต้นมะพร้าว
  
ช่วงประมาณกลางเดือนที่ผ่านมาผมมีโอกาสได้เดินทางไปยังมาเลเซียและสิงคโปร์อีกครั้ง แม้ว่าจะไม่ใช่ครั้งแรกและห่างจากครั้งสุดท้ายที่ผมได้ไปประเทศทั้งสองเกือบสิบปี แต่สิ่งหนึ่งที่ไม่ได้เปลี่ยนไปเลยก็คือ แม้ว่าประเทศทั้งสองจะดูมีต้นไม้เยอะ แต่ลักษณะต้นไม้ที่ขึ้นอยู่ก็แสดงให้เห็นว่าเป็นไม้ปลูกใหม่ เพราะมันมีขนาดเล็กและมีการวางแนวการปลูกเป็นเส้นตรง แต่ที่สำคัญก็กลับไม่เห็นสัตว์จำพวกนกหรือกระรอกเลย นั่งรถผ่านภูเขาในมาเลเซียมองไม่เห็นนกบินไปมาตลอดการเดินทางเป็นชั่วโมง ทั้งนี้อาจเป็นเพราะในการปลูกต้นไม้ของเขานั้นเขาอาจเน้นไม้โตเร็ว หรือเลือกปลูกเฉพาะต้นไม้สายพันธุ์เดียวเพื่อที่ (คนส่วนใหญ่มักคิดเช่นนี้) จะได้ดูเป็นระเบียบสวยงาม
  
และการปลูกนั้นก็มักจะเน้นไม้ที่ให้ดอกสวยงาม (จะได้หากินกับการท่องเที่ยว) หรือไม่ก็ไม้โตเร็วที่คาดหวังจะใช้ประโยชน์จากลำต้น แต่ไม่ค่อยคำนึงถึงต้นไม้ที่สัตว์ใช้เป็นอาหารได้


รูปที่ ๑ นกปรอดคู่หนึ่งเริ่มทำรังบนปลายกิ่งมะเฟือง (รูปนี้ถ่ายเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๕๗) วัน-เวลา ที่ถ่ายรูปปรากฏอยู่ที่มุมของรูปทุกรูปอยู่แล้ว
  
"ปรับปรุงภูมิทัศน์" ดูเหมือนว่าเป็นสิ่งที่ใครต่อใครที่ได้เข้ามาบริหารหน่วยงานมักจะลงมือทำเป็นอย่างแรก การปรับปรุงนี้ไม่ใช่ว่าภูมิทัศน์ของเดิมมันไม่ดี แต่มักทำด้วยเหตุผลที่ว่ามันเป็นสิ่งที่คนที่เดินผ่านไปมาภายนอกหน่วยงานมองเห็นว่าเขาได้มีการทำงาน ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง (แม้ว่าคนเหล่านั้นเพียงแต่เดินผ่าน ไม่ได้มาติดต่อกับหน่วยงานนั้นเลย) และงานปรับปรุงภูมิทัศน์ที่เห็นชอบทำกันก็คือ ตัดต้นไม้ใหญ่ที่มีอยู่เดิม ปลูกต้นไม้ใหม่ โดยต้นไม้ที่นำมาปลูกใหม่มักเน้นไปที่ "ชื่อ" ต้นไม้ที่ตนเองคิดว่าปลูกแล้วจะช่วยเสริมบารมี ทำให้บริหารงานในหน่วยงานนั้นได้สบาย จะทำอะไรก็ได้ ตรงไหนเป็นสนามหญ้าก็ปูอิฐ ตรงไหนเป็นพื้นปูอิฐก็เทปูน จนผมคิดเล่น ๆ ว่าสงสัยผู้บริหารในยุคถัดไปคงต้อง "ปูพรม" ให้คนเดินกันในมหาวิทยาลัยแล้ว เพราะพื้นที่ที่เป็นดินหรือสนามหญ้าที่จะเหลือให้ปูอิฐและเทปูนคงไม่เหลือแล้ว
  
แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นเป็นประจำที่ผู้บริหารมักจะไม่ใส่ใจ ทั้ง ๆ ที่เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้ที่ทำงานในหน่วยงานเหล่านั้นก็คือ "ห้องน้ำ" ซึ่งตรงนี้ผมคิดว่ามันเป็นสิ่งที่สถานที่ราชการกับบริษัทเอกชนมองตรงข้ามกัน ในขณะที่สถานที่ราชการจะเน้นไปที่ภาพลักษณ์ปรากฏข้างนอกเป็นหลัก แต่สภาพในห้องน้ำเองกลับไม่ได้เรื่อง แต่ในส่วนของบริษัทเอกชนที่ได้แวะไปหลายแห่งกลับพบว่า แม้ว่าการจัดสวนด้านนอกอาคารจะดูไม่เลิศเลอเหมือนกับสถานที่ราชการ แต่การดูแลห้องน้ำของเขานั้นไม่ว่าจะเป็นด้านความสะอาด หรืออุปกรณ์ที่ใช้การได้นั้น เหนือกว่าสถานที่ราชการมาก
  
สิ่งหนึ่งที่ผมได้เรียนรู้จากการปลูกต้นไม้ในบ้านตัวเองและจากสวนที่อยู่รอบ ๆ บ้านก็คือ ความหลากหลายของสายพันธุ์พืชนั้นส่งผลต่อสัตว์ที่จะมาใช้ชีวิตอยู่ในบริเวณนั้น การมีไม้ดอกที่ออกดอกตลอดทั้งปีหรือออกดอกสลับกันแต่มีดอกออกทั้งปี จะเป็นอาหารให้กับแมลงหรือนกที่กินน้ำหวานจากเกสรดอกไม้เหล่านั้น และแมลงเหล่านี้ก็จะกลายเป็นอาหารให้กับนกที่กินแมลงอีกทีหนึ่ง พืชบางชนิดก็มีใบที่ผีเสื้อชอบมาวางไข่และเพราะมันใช้เป็นอาหารของหนอนผีเสื้อได้ ไม้ผลขนาดเล็ก (เช่นลูกตะขบ ลูกไทร) ก็เป็นอาหารของนกขนาดเล็ก แต่ดูเหมือนถ้าเป็นพวกกระรอก กระแต มันจะนิยมผลไม้ที่ลูกใหญ่กว่า เช่น มะม่วง มะละกอ และกล้วย (ที่บ้านโดนมันมาแย่งกินเป็นประจำ) หรือไม่ก็ขโมยไข่นกกิน และเวลากลางคืนก็ต้องพยายามทำให้บริเวณรอบบ้านตรงส่วนที่ไม่จำเป็นนั้นให้มีความมืดให้มากที่สุด จะได้ไม่รบกวนหิ่งห้อยที่ออกมาบินเล่นตอนหัวค่ำ
  
รูปที่ ๒ รังนกขณะที่เริ่มสร้างรัง (รูปนี้ถ่ายเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๕๗)

รูปที่ ๓ ตำแหน่งที่ตั้งของรังนกอยู่ในกรอบสีเหลืองในรูป (รูปนี้ถ่ายเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๕๗)


รูปที่ ๔ เจ้าของรังขณะที่กำลังสร้างรัง (รูปนี้ถ่ายเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๕๗)

รูปที่ ๕ เพียงแค่สองวันถัดมา นกคู่นี้ก็สร้างรังเสร็จแล้ว ที่นี้ก็เหลือเพียงแค่การวางไข่ รูปนี้เป็นรูปด้านบนของรังที่สร้างเสร็จแล้ว (รูปนี้ถ่ายเมื่อวันอังคารที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗)


รูปที่ ๖ รูปด้านล่างของรังที่สร้างเสร็จแล้ว จะเห็นว่านกไม่ได้เก็บเพียงแค่กิ่งไม้เล็ก ๆ (อันที่จริงคือก้านของใบไม้) มาทำรัง มันเจออะไรที่เป็นเส้นเล็ก ๆ ที่มันคาบได้มันก็คาบเอามาหมด เส้นสีฟ้า ๆ ในรูปคือเชือกพลาสติกที่มันเอาทำทำรังด้วย (รูปนี้ถ่ายเมื่อวันอังคารที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗)



รูปที่ ๗ สร้างรังเสร็จก็มาวางไข่ วันนี้เห็นเพียงแค่ฟองเดียว แต่ไม่กี่วันถัดมามาแอบดูตอนแม่นกไม่อยู่ ก็พบว่ามันมีการวางไข่เพิ่มอีกเป็นสองฟอง (รูปนี้ถ่ายเมื่อวันศุกร์ที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๕๗)

ที่บ้านมีมะเฟืองอยู่สองต้น ออกผลเป็นประจำ แต่ก็ไม่มีใครกินมะเฟือง ก็เลยปล่อยให้มันสุกและร่วงหล่นลงสู่พื้น วันดีคืนดีก็เห็นมีนกแก้วมาเก็บกินดังที่เคยถ่ายภาพและวิดิโอมาให้ดูก่อนหน้านี้ (Memoir ปีที่ ๖ ฉบับที่ ๗๘๗ วันพฤหัสบดีที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๕๗ เรื่อง "นกแก้วกินมะเฟือง") มะเฟืองนี่ดีอยู่อย่างก็คือมันมีใบเขียวทั้งปี และใบมันก็เล็ก ใบร่วงหล่นลงมาก็เอาไปกองใส่โคนต้นไม้อื่นให้มันเป็นปุ๋ยได้ง่าย ไม่เหมือนใบใหญ่ ๆ เช่นมะม่วงหรือการเวก
  
เมื่อปลายเดือนที่แล้วมีนกปรอดคู่หนึ่งแวะเวียนมาทำรังอยู่ที่ปลายกิ่งต้นมะเฟือง ต้นเดียวกับที่มีนกแก้วมาเก็บมะเฟืองกิน ไม่กี่ปีก่อนหน้านี้ก็เห็นมันมาทำรังอยู่บนต้นมะตูมแขกหลังบ้าน แต่ไม่รู้ตัวอะไรมาแอบขโมยไข่กินไปก่อน แม่นกก็เลยต้องทิ้งรังไป คราวนี้ก็เลยต้องเฝ้าดูหน่อยว่าจะมีตัวอะไรมาขโมยกินไข่อีกหรือเปล่า กิ่งมะเฟืองที่มันเลือกทำรังนั้นก็ไม่ใช่กิ่งใหญ่อะไร ไม่ได้อยู่สูงจากพื้นมากนัก เวลาลมพัดแรงก็แกว่งไปมา แต่รังนกก็ยังคงอยู่ได้
  
รูปที่ถ่ายมาก็คัดมาบางรูป เป็นรูปตั้งแต่วันที่เห็นนกคู่นี้มาสร้างรัง จนกระทั่งออกไข่ ตอนแรกก็ออกมาฟองเดียวก่อน จากนั้นก็ออกเพิ่มอีกเป็นสองฟอง แม่นกก็จะมานั่งกกไข่อยู่เกือบตลอดเวลา เว้นแต่เวลาที่บินออกไปหาอาหาร ส่วนตัวผู้นั้นก็เห็นแวะเวียนมาหาบ้างเหมือนกัน เวลาจะเข้าไปถ่ายรูปก็ต้องหาจังหวะเวลาที่แม่นกไม่อยู่ที่รัง เอาบันไดพับมากางแล้วปีนขึ้นไปถ่ายรูป พยายามจะไม่ไปยุ่งกับกิ่งที่มันทำรังอยู่ แต่บังเอิญช่วงกลางเดือนที่ผ่านมาต้องไปต่างประเทศซะหลายวัน ไม่ได้กลับมาดูเพียงแค่ ๕-๖ วันก็ปรากฏว่าหายไปทั้งรังแล้ว หวังว่าช่วงเวลาดังกล่าวไข่คงฟักออกเป็นตัวและลูกนกก็คงจะโตพอที่จะบินออกไปหากินเองได้แล้ว
  
ในเวลาเดียวกันที่อีกมุมหนึ่งของบ้าน ตรงหน้าต่างห้องนอนลูกสาวคนเล็กบนชั้นสอง หน้าต่างมุมนี้เป็นบานเลื่อนที่ไม่ค่อยได้เปิดเท่าใดนัก และมีผ้าม่านบังอยู่อีก ช่วงกลางเดือนที่ผ่านมาก็ไปพบรังนกอีกรังพร้อมไข่อีกฟองหนึ่งอยู่ที่ขอบหน้าต่าง (ดูรูปที่ ๑๐) แต่พออ้อมไปดูอีกมุมหนึ่งก็เห็นว่าไข่ฟองดังกล่าวถูกเจาะเป็นรูเรียบร้อยแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าตัวอะไรมาเจาะกิน แต่ที่รู้สึกสงสัยก็คือนกอะไรมาทำรังในที่แบบนี้ ไม่มีการหลบซ่อนสายตาจากสัตว์อื่นเลย และตัวอะไรที่มาเจาะกินไข่นกฟองดังกล่าว

รูปที่ ๘ หลังออกไข่แล้ว แม่นกก็มานั่งเฝ้ารังกกไข่ (รูปนี้ถ่ายเมื่อวันเสาร์ที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๕๗)


รูปที่ ๙ ท้ายสุดพบว่าออกไข่ไว้ ๒ ฟอง แสดงว่าแม่นกไม่ได้ออกไข่ทีเดียว ๒ ฟอง แต่ออกทีละครั้ง ครั้งละ ๑ ฟอง เสียดายที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศ เลยไม่ได้อยู่เฝ้าดูเพียงแค่ ๕-๖ วัน ทั้งแม่นกและไข่นกก็หายไปหมดแล้ว ไม่รู้ว่าฟักออกเป็นตัวหรือโดนขโมยไปกิน เพราะบริเวณรอบข้างและในรังเองก็ไม่เห็นมีเปลือกไข่ตกอยู่ (รูปนี้ถ่ายเมื่อวันศุกร์ที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๕๗)


รูปที่ ๑๐ อันนี้เป็นรังนกอีกรังหนึ่ง มาพบทีหลัง มาทำรังอยู่ริมขอบหน้าต่างห้องนอนลูกสาวคนเล็ก ปรกติหน้าต่างบานนี้ก็ไม่ค่อยได้เปิด และมีผ้าม่านบังอยู่อีก ก็เลยไม่รู้ว่ามีนกอะไรมาทำรังเอาไว้เมื่อใด แต่พอดูให้ดีก็พบว่าไข่ถูกเจาะกินเรียบร้อยไปแล้ว รูที่เจาะอยู่อีกด้านหนึ่ง ชำเลืองดูจะมองเห็นแต่ถ่ายรูปไม่ได้ ในรูปจะเห็นคราบเหลือง ๆ (ตรงลูกศรสีเหลืองชี้) ที่คิดว่าเกิดจากการที่มีสัตว์บางชนิดมาเจาะไข่นกกิน (ภาพนี้ถ่ายเมื่อวันเสาร์ที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๕๗)

คลิปที่แนบมาเป็นคลิปที่ถ่ายไว้ในวันที่เห็นนกคู่นี้มาทำรัง (วันอาทิตย์ที่ ๒๙ มิถุนายน ๒๕๕๗) เนื่องจากนกเลือกมุมทำรังที่ค่อนข้างจะหลบซ่อนสายตาสักหน่อย ก็เลยเห็นรังมันไม่ค่อยชัด

 
ระหว่างที่นั่งพิมพ์ Memoir ฉบับนี้ก็ได้ยินเสียงนกร้องอยู่รอบ ๆ บ้าน ฟังจากเสียงก็บอกได้ว่าคงไม่ต่ำกว่า ๔-๕ ชนิด เดี๋ยวพอหัวค่ำก็คงมีตุ๊กแกออกมาร้องอีก ช่วงนี้มีอยู่ตัวหนึ่งมันหากินอยู่รอบ ๆ ตัวบ้านข้างนอก พอกลางวันมันก็หลบไปซุกอยู่ตรงซอกระหว่างชายคากับตัวบ้าน พอตกค่ำมันก็ออกมาซ่อนอยู่หลังประตู เวลาดี ๆ มันก็ส่งเสียงร้องออกมาทีหนึ่ง นี่ยังสงสัยอยู่เหมือนกันว่าอีกสองสัปดาห์จะมีนักเรียนแลกเปลี่ยนมาค้างที่บ้านหนึ่งคืน ไม่รู้ว่าเขาจะกลัวตุ๊กแกหรือเปล่า เพราะห้องที่คิดว่าจะจัดให้เขาพักนั้นมันอยู่ตรงมุมที่ตุ๊กแกชอบมาอยู่ซะด้วย

วันพฤหัสบดีที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2557

นกแก้วกินมะเฟือง MO Memoir : Thursday 17 April 2557

พี่สะใภ้ผมเขาบอกว่าเขาเห็นมันมาหลายปีแล้ว ชอบมากินมะเฟืองที่ต้นที่ปลูกอยู่ที่หน้าบ้าน ส่วนผมเองเพิ่งจะมีโอกาสเห็นชัด ๆ เมื่อวานนี้เอง ก็เลยถือโอกาสถ่ายรูปและนำคลิปวิดิโอมาฝาก
  
จะว่าไปมะเฟืองก็เป็นต้นไม้ที่โตเร็วเหมือนกัน ตัดกิ่งออกไม่ทันไรก็แตกออกเป็นพุ่มใหม่ได้เร็ว แม้ว่าใบมะเฟืองจะร่วงเป็นประจำ แต่ใบมันก็เป็นใบเล็ก ๆ เก็บกวาดแต่ละครั้งก็เอาไปใส่ในกระถางหรือโค้นต้นไม้ต้นอื่นเพื่อให้เป็นปุ๋ยไป ส่วนผลก็ออกดกซะด้วย แต่น่าเสียดายที่ที่บ้านไม่มีใครกิน นาน ๆ จึงจะเก็บมากินสักที ปรกติก็ปล่อยให้มันสุกและร่วงคาต้นไป และที่แปลกก็คือพวกกระรอก กระแต ที่ชอบไปแทะมะม่วง กล้วย มะละกอ ที่บ้านกินอยู่เสมอ กลับไม่มายุ่งอะไรกับผลมะเฟืองเลย
  
เพิ่งจะเห็นมีก็นกแก้วตัวนี้นี่แหละ ที่บินมากินมะเฟืองที่ต้น การกินของมันก็เริ่มจากการใช้ปากไปเด็ดผลมะเฟืองออกมาก่อน จากนั้นก็ใช้เท้าข้างหนึ่งจับผลมะเฟืองเอาไว้ แล้วก็จิกกินอย่างเอร็จอร่อย กินเสร็จก็ปล่อยส่วนที่เหลือทิ้งไว้ข้างใต้ต้นนั่นแหละ
  
รูปที่ถ่ายมานั้นซุ่มถ่ายจากระยะไกลหน่อย ภาพมัวไปหลายภาพเพราะซูมค่อนข้างมากแถมที่ยืนยังไม่ค่อยมั่นคงอีก หลังจากที่ถ่ายรูปมันกินผลแรกเสร็จก็ถ่ายวิดิโอตอนที่มันกินผลที่สอง แต่ไปตั้งกล้องไว้ในโหมด HD ก็เลยได้ไฟล์ขนาดเกือบ 80 MB (คลิปยาวเพียงแค่นาทีเดียว) ที่แนบมาเป็นไฟล์ที่ผ่านการแปลงให้เล็กลงและตัดเวลาเหลือเพียงแค่ครึ่งเดียว Memoir ฉบับนี้ถือเสียว่าเป็นบันทึกเหตุการณ์ความเป็นอยู่ของสัตว์ตามธรรมชาติที่ปัจจุบันหาดูได้ยากในท้องที่กรุงเทพมหานคร
  
รูปที่ ๑ นกแก้วบินมาเกาะบนกิ่งต้นมะเฟืองแล้ว สีขนกลมกลืนมาก ถ้าไม่อาศัยปากสีแดงเป็นที่สังเกตก็คงจะเห็นยาก
  
รูปที่ ๒ ค่อย ๆ ไต่มายังพวงลูกมะเฟืองที่อยู่ที่ปลายกิ่ง ลูกที่กำลังจะถูกเด็ดเอาไปคือลูกที่ลูกศรสีแดงชี้
  
รูปที่ ๓ ได้ไปแล้วลูกนึง คาบเอาไว้ที่ปาก เวลากินมันก็เอาเท้าข้างหนึ่งจับผลมะเฟืองเอาไว้ แล้วค่อยจิกกิน ตัวนี้หางยาวดี ไม่รู้เหมือนกันว่าบินมาจากถิ่นไหน บริเวณแถวบ้านที่เคยเห็นก็คือสวนเขตบางกรวย แต่บางกรวยกับบางพลัดมันก็ติดกัน นกมันไม่สนอยู่แล้ว ขอให้มีของกินอยู่ที่ไหนมันก็บินไปที่นั่น

รูปที่ ๔ กินทั้งทีก็กินไม่หมด แทะเอาเฉพาะตรงกลางไปกิน
  
รูปที่ ๕ บางลูกก็กินซะเยอะ บางลูกก็กินเพียงแค่บางส่วน ไม่รู้เหมือนกันว่าเลือกกินหรือมันหลุดจากอุ้งเท้าร่วงหล่นลงมาก่อนจะกินเสร็จ


คลิปวิดิโอ "นกแก้วกินมะเฟือง"