แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ โคนัน แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ โคนัน แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2567

ถนนโคนัน MO Memoir : Monday 1 January 2567

เริ่มต้นวันแรกของปีพ.ศ. ใหม่ก็ขอนำรูปเก่า ๆ ที่ไปเที่ยวมาตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมมาลงเอาไว้หน่อย เรียกว่าเป็นชุดเดียวกับบทความเรื่อง "สถานีรถไฟ Yura (สถานีรถไฟโคนัน)" และ "สถานีรถไฟ Kurayoshi" ที่นำลง blog ไปเมื่อปีที่แล้ว (อันที่จริงก็เมื่อ ๒ สัปดาห์ที่แล้ว)

จากการ์ตูนธรรมดา ๆ เรื่องหนึ่ง ที่พอมีผู้อ่านชื่นชอบแผ่ไปทั่วโลก ก็ทำให้เมืองเล็ก ๆ เมืองหนึ่งที่ (ดูเหมือนว่า) ไม่มีแหล่งท่องเที่ยวใด ๆ ที่จะดึงดูดให้คนญี่ปุ่นเองหรือนักท่องเที่ยวต่างชาติมาเยือน แต่ด้วยความเป็นบ้านเกิดของผู้เขียนการ์ตูน ก็เลยทำให้ถนนเส้นจากสถานีรถไฟมายังพิพิธภัณฑ์ผู้เขียนการ์ตูนเรื่องนี้ กลายเป็นเส้นทางเดินท่องเที่ยวสำหรับผู้เป็นแฟนการ์ตูนเรื่องนี้ไป ทั้ง ๆ ที่สองข้างทางมันไม่มีอะไรเลย ซึ่งจะว่าไปการท่องเที่ยวในสถานที่ที่สองข้างทางมันไม่มีอะไรเลยก็ทำให้เราได้เห็นการใช้ชีวิตของผู้คนในเมืองแห่งนั้น ว่าเขาใช้ชีวิตกันอย่างไรในเมืองที่ไม่ได้มีร้านอาหารหรือห้างสรรพสินค้าแฟรนไชส์ขนาดใหญ่เต็มไปหมด (มีบ้างคือร้านสะดวกซื้อ)

แล้วระยะทางกว่ากิโลเมตรที่ไปเดินมาระหว่างนั้นได้อะไรบ้างหรือ อย่างน้อยสิ่งที่ได้ก็คือความสงบภายในจิตใจที่ไม่เหมือนกับการเดินในเมืองใหญ่ ๆ ที่ต้องคอยระวังคนเดินสวนไปมาและพลัดหลงกับเพื่อร่วมทาง ทำให้ได้มีโอกาสพิจารณาสิ่งธรรมดาต่าง ๆ ที่อยู่รอบตัวเรามากขึ้น (ผมเองเวลาไปไหนมาไหนก็ไม่ชอบให้มีอะไรมาอุดหูเพื่อป้องกันเสียงจากภายนอกเข้าสู่โสตประสาทยกเว้นเสียงที่มาจากมือถือของตัวเองแบบที่ปัจจุบันคนจำนวนไม่น้อยนิยมกัน) ส่วนเส้นทางนี้อยู่ที่ไหนก็ไปดูได้ในรูปแรกของบทความเรื่อง "สถานีรถไฟ Yura (สถานีรถไฟโคนัน)"

และเช่นเคย ต้อนรับปีพ.ศ. ใหม่ก็ต้องขอบันทึกไว้หน่อยว่าช่วงปีที่ผ่านมามีผู้เข้ามาเยี่ยมชม blog มากน้อยเท่าใด สถิติที่ blogger บันทึกไว้ก็คือ ๑๓๓๓๘๙ ครั้งหรือเฉลี่ย ๓๖๕.๔๕ ครั้งต่อวัน ซึ่งเป็นการลดลงอย่างต่อเนื่องติดต่อกันเป็นปีที่ ๕ สาเหตุหลักคงเป็นเพราะมีผู้เขียนบทความทำนองเดียวกันเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ (อย่างเช่นเรื่อง "วาล์วและการเลือกใช้" ที่เขียนไว้เมื่อกว่า ๑๔ ปีที่แล้ว) ซึ่งถือว่าเป็นสิ่งที่ดี และรูปแบบการรับข้อมูลนั้นเปลี่ยนไป คือการอ่านข้อเขียนในรูปบทความน่าจะลดน้อยลง แต่เน้นไปที่ภาพ infographic ที่สรุปเป็นข้อความสั้น ๆ ไม่กี่ประโยคกันมากขึ้น แต่ตัว blog นี้เองคงไม่ปรับเปลี่ยนไปเป็นแบบนั้น เพราะไม่ต้องการให้ผู้อ่านเป็น "วิศวกรสูตรสำเร็จ" คือคิดว่าทุกปัญหานั้นมีวิธีทางแก้เพียงวิธีทางเดียวที่ใช้ได้กับทุกสถานการณ์ และเชื่อข้อความสั้น ๆ ใน infographic ที่ส่งต่อกันมา (และบ่อยครั้งก็หาต้นตอไม่ได้ด้วยว่าผู้เขียนเป็นใครและเอาข้อมูลจากไหนมาเขียน) โดยไม่คิดว่ามันสมเหตุสมผลหรือไม่

ท้ายนี้ขอให้ผู้อ่านทุกท่านมีแต่ความสุขกายสบายใจ สุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์ปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ ตลอดปี ๒๕๖๗ กันทุกคน


รูปที่ ๑ ออกจากสถานี Yura ก็เจอรถแท๊กซี่คันหนึ่งจอดอยู่ในโรงรถ แม้แต่ตัวรถยังเป็นรูปโคนัน

รูปที่ ๒ ถัดจากเด็กที่ยืนชี้หน้าคนที่ออกมาจากสถานี ก็เจอกับเด็กผู้หญิงคนนี้


รูปที่ ๓
ห้องสมุดประจำเมือง ก็ยังมีคนเข้ามาใช้บริการอยู่

รูปที่ ๔ หนึ่งในการ์ตูนตัวโปรดที่ชอบ

รูปที่ ๕ คนนี้มายืนอยู่ริมทางเท้า มองไปยังสถานีรถไฟ

รูปที่ ๖ ร้านหนังสือเล็ก ๆ ที่อยู่ใกล้ทางแยก ตอนที่แวะเข้าไปก็มีคนท้องถิ่นเข้ามาซื้อของเหมือนกัน

รูปที่ ๗ บนทางเท้าก็จะมีรูปทำนองนี้เป็นระยะ

รูปที่ ๘ แยกนี้ต้องเดินเลี้ยวซ้ายไปพิพิธภัณฑ์ มีปั๊มน้ำมันอยู่ตรงหัวมุม

รูปที่ ๙ ตรงแยกนี้มีเด็กแว่นนั่งกินแตงโมแบบไม่สนใจใครอยู่หนึ่งราย

รูปที่ ๑๐ เลี้ยวลงมา เห็นสะพานข้ามแม่น้ำอยู่ข้างหน้า

รูปที่ ๑๑ จากเด็กกินแตงโมมาเป็นเด็กเล่นน้ำพร้อมห่วงยาง

รูปที่ ๑๒ วิวแม่น้ำอีกฟากของสะพาน

รูปที่ ๑๓ คู่โปรดที่ขอบมากกว่าตัวเอกของเรื่อง

รูปที่ ๑๔ บ้านธรรมดาหลังหนึ่งที่อยู่มุมสี่แยก

รูปที่ ๑๕ ลุงที่มานั่งหลับอยู่ที่ป้ายรถเมล์

รูปที่ ๑๖ ถึงแล้วพิพิธภัณฑ์ มีบุคคลสำคัญมายืนรอต้อนรับอยู่ด้านหน้า

วันอาทิตย์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2566

สถานีรถไฟ Yura (สถานีรถไฟโคนัน) MO Memoir : Sunday 17 December 2566

ถ้าไม่ใช่แฟนการ์ตูนเรื่องนี้ ก็คงไม่มีการเดินทางมายังสถานที่นี้ สถานที่ที่ไม่มีอะไรเลย นอกจากพิพิธภัณฑ์ของนักเขียนการ์ตูนคนหนึ่ง โชคดีที่ตัวการ์ตูนตัวที่มีชื่อเสียงของเขานั้นไม่อยู่ที่บ้าน ก็เลยไม่เจอเรื่องเลวร้าย เพราะเด็กรายนี้ไม่ว่าจะไปที่ไหน ต้องมีคนตายเกือบทุกที่ จนมีคนเขาขนานนามให้เล่น ๆ ว่าเป็น "ตัวกาลกิณีประจำเกาะ"

งานนี้เรียกว่านั่งรถไฟเที่ยวชมบ้านเรือนเขาก็ได้ เพราะขาไปได้เปลี่ยนรถไฟถึง ๔ ชบวน จากที่พักต้องไปขึ้นด่วน Shinkansen ที่สถานี Shin Osaka (เจอรถไฟญี่ปุ่นเสียเวลาหลายนาทีที่สถานีแรก ต้องเปลี่ยนแผนกระทันหัน ไม่งั้นไปขึ้นรถไฟด่วนไม่ทัน) เลยมีโอกาสแวะชิมกาแฟร้อนกับนั่งชมวิวจากรถไฟความเร็วสูง (เป็นครั้งแรกที่ได้นั่งรถไฟความเร็วสูงของญี่ปุ่น ก่อนหน้านี้ที่เคยนั่งก็มีของอังกฤษ (สมัยเรียนหนังสือ) และของเยอรมัน (ตอนแวะไปเยี่ยมมหาวิทยาลัย Aachen) เพื่อไปเปลี่ยนรถที่สถานี Okayama เป็นรถไฟท้องถิ่นนั่งไปยังสถานี Kurayoshi เพื่อรอเปลี่ยนอีกขบวนไปสถานีรถไฟ Yuri ระหว่างรอก็เลยมีเวลาเดินเล่นรอบสถานีและหาข้าวเที่ยงกิน (โชคดีที่มีร้านขายของกินเปิด เป็นร้านของคนอินเดียแต่มีข้าวกะเพราขายด้วย ก็เลยลองสั่งมากิน) ตอนแรกก็คิดว่าที่ Kurayoshi นี้เป็นเมืองที่เงียบแล้ว แต่ที่ Yuri เงียบกว่าอีก

เมืองนี้เป็นบ้านเกิดของผู้เขียนการ์ตูนโคนัน เมื่อการ์ตูนเขามีชื่อเสียง ก็มีความพยายามดึงรายได้กลับมาสู่บ้านเกิด ด้วยการตั้งพิพิธภัณฑ์ผู้เขียนที่นี่ นอกจากคนญี่ปุ่นที่ขับรถมาเที่ยวแล้ว ผู้โดยสารรถไฟที่เดินทางมาที่นี่จำนวนไม่น้อยเลยก็เป็นคนต่างชาติ (เรียกได้ว่าเป็น soft power ของจริง) ลงรถเสร็จก็เดินตาม ๆ กันไปยังพิพิธภัณฑ์ ขากลับมาขึ้นรถไฟ ก็มีชาวต่างชาติรอรถไฟกันเต็มไปหมด ที่พิพิธภัณฑ์มีจักรยานให้เช่าขี่ชมเมืองด้วย คงเหมาะสำหรับปั่นเล่นชมความสงบของเมืองเล็ก ๆ

รูปที่ ๑ จุดแดงข้างล่างคือตัวสถานี เส้นสีเหลืองคือเส้นทางเดินไปยังพิพิธภัณฑ์ของนักเขียนการ์ตูนโคนัน ระยะทางกิโลเมตรเศษ ๆ ที่ไม่มีร่มเงาให้หลบแดดหรือฝน

รูปที่ ๒ โผล่ออกจากสถานีก็จะเจอเด็กคนนี้ยืนชี้หน้าคนที่เดินออกมา

รูปที่ ๓ หาป้ายชื่อสถานี Yura ภาษาอังกฤษไม่เจอ มีแต่ป้ายสถานีโคนัน

รูปที่ ๔ ออกจากสถานีเดินไปทางซ้าย จะเป็นลานมีรูปปั้นเด็กยืนชี้นิ้ว

รูปที่ ๕ เด็กคนนี้ไง

รูปที่ ๖ ภาพกว้างของบริเวณตัวสถานี

รูปที่ ๗ ถนนตรงหน้าสถานีเขาตั้งชื่อให้เป็นถนนโคนันตามตัวการ์ตูนเลย

รูปที่ ๘ ตัวสถานีเมื่อมองใกล้ ๆ ด้านซ้ายเป็นร้านขายของที่ระลึก ประตูที่อยู่ด้านขวาคือเข้าตัวสถานี

รูปที่ ๙ ห้องขายของที่ระลึกที่เป็นส่วนหนึ่งของตัวสถานี

รูปที่ ๑๐ จากตัวสถานีมองไปยังฝั่งทิศตะวันออก (ที่มาจากเมือง Tottori) สถานีนี้มี ๓ ชานชาลาด้วยกัน

รูปที่ ๑๑ ปลายชานชาลาฝั่งทิศตะวันออก

 

รูปที่ ๑๒ จากชานชาลา ๑ มองไปยังฝั่งทิศตะวันตก

รูปที่ ๑๓ ปลายขานชาลาฝั่งมุ่งตะวันตก

รูปที่ ๑๔ จากสถานีนี้ไปทางซ้ายคือกลับไปยังเมือง Tottori ส่วนทางขวาไปสิ้นสุดที่ไหนก็ไม่รู้

รูปที่ ๑๕ ป้ายบอกว่าชานชาลา ๑ ส่วนอีกป้ายบอกว่าอะไรก็ไม่รู้ เพราะอ่านภาษาญี่ปุ่นไม่เป็น

รูปที่ ๑๖ ห้องพักผู้โดยสารฝั่งชานชาลา ๒ และ ๓

รูปที่ ๑๗ รถไฟขบวนที่จะนั่งกลับ Tottori กำลังเข้าจอดที่สถานี

รูปที่ ๑๘ ตั๋วรถไฟของขบวนเที่ยวกลับมายัง Tottori