มันเป็นการทดลองง่าย
ๆ ที่มองดูเผิน ๆ มันไม่ยากหรอกครับ
แต่พอลองทำจริงแล้วปรากฏว่าทำไม่ได้สักที
เริ่มจากสัปดาห์ที่แล้วที่ให้ลงมือปฏิบัติด้วยเรื่องง่าย
ๆ ด้วยการให้ขันนอต ๖ ตัวเพื่อปิด
autoclave
จากนั้นก็อัดแก๊สไนโตรเจนเข้าไป
5
barg แล้วทดสอบดูว่ารั่วหรือไม่
ปล่อยให้ทำกันเองพักใหญ่
ก็ปรากฏว่าทำกันไม่สำเร็จ
ขันยังไงก็รั่ว
ก็เลยต้องบอกวิธีการที่ถูกต้องให้ทำ
การขันนอตมันไม่ใช่สักแต่ว่าใช้แรงบิดอัดลงไป
มันต้องมีการสังเกตและใช้ความรู้สึกด้วย
ว่าควรจะขันเท่าใด
และทำอย่างไรจึงจะให้นอตขันแน่นเท่ากันทุกตัว
(เป็นเพียงแค่นอตตัวเล็ก
ๆ ที่ไม่มีประแจทอร์คให้ใช้)
การทดลองต่อไปก็คือให้นำเอา
autoclave
ไปต้มในน้ำที่อุณหภูมิ
80ºC
ใช้เพียงหม้อกับ
hot
plate โดยให้คงอุณหภูมิไว้ให้ได้ที่
80ºC
นาน
1
ชั่วโมง
ให้ทำกันตั้งแต่ก่อนเที่ยง
ปรากฏว่า ๔ ชั่วโมงผ่านไปก็ยังทำไม่สำเร็จ
คือ ถ้าไม่สูงเกินไปก็ต่ำเกินไป
พอมาบ่นให้ผมฟัง
ผมก็บอกว่าพวกคุณมีกันตั้ง
๔ คน ให้ปรับอุณหภูมิให้นิ่งเพียงแค่ชั่วโมงเดียวยังทำไม่ได้
แล้วก็ชี้ให้ดูรุ่นพี่ที่กำลังทำแลปอยู่ว่า
คนนั้นเขาทำแลปคนเดียว
เฝ้ากัน ๓ วัน ๒ คืน เขายังทำได้
ในใจคิดว่าเพียงแค่นี้ยังทำไม่ได้
แล้วจะไปทำการทดลองที่เป็นวิทยานิพนธ์ของตัวเองได้อย่างไร
ในเมื่อการทดลองของการทำวิทยานิพนธ์นั้นมันใช้เวลานานกว่านี้อีก
และตัวเองต้องรับผิดชอบการทดลองทั้งหมด
โดยอาจไม่มีคนอื่นคอยช่วยเหลือด้วย
การเรียนรู้ภาคปฏิบัตินั้นมันไม่ใช่สักแต่ว่าทำตามขั้นตอนที่ระบุ
แต่มันยังรวมถึงการสังเกตการเปลี่ยนแปลงต่าง
ๆ ด้วยการใช้ประสาทสัมผัสต่าง
ๆ รับรู้ว่าสภาพแวดล้อมของการทำการทดลองนั้นส่งผลใด
ๆ หรือไม่ต่อการทดลองของเรา
สภาพการทำงานปรกตินั้นเป็นอย่างไร
(เช่นเสียงการทำงานของอุปกรณ์ที่ทำงานตามปรกติ
การทำงานของสวิตช์ควบคุมอุณหภูมิ
ฯลฯ)
มันไม่ใช่แค่เปิดเครื่องทิ้งไว้แล้วก็หายหัวไปโดยไม่สนใจดูแล
(มันทำได้ก็ต่อเมื่อมันเป็นระบบที่มีการควบคุมอัตโนมัติและผ่านการทดสอบมาแล้วว่ามีความไว้วางใจได้สูง
แต่ถึงกระนั้นก็ยังต้องมีการตรวจสอบเป็นระยะว่าทุกอย่างยังทำงานปรกติอยู่)
กะว่ากลับมาอีกทีก็เก็บผลการทดลองเลย
ในกรณีนี้ความร้อนจาก
hot
plate นั้นจ่ายให้กับน้ำในหม้อ
น้ำในหม้อก็รับความร้อนมาจาก
hot
plate และสูญเสียความร้อนออกสู่บรรยากาศรอบข้าง
แต่บรรยากาศรอบข้างนั้นมันเปลี่ยนไปตามช่วงเวลาต่าง
ๆ ของวัน (ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิหรือกระแสลมที่พัดผ่าน)
และแต่ละวันก็ไม่เหมือนกัน
ดังนั้นระดับการเปิด hot
plate ที่เหมาะสมในวันหนึ่งอาจจะใช้ไม่ได้ในวันอื่น
ๆ ที่มีสภาพอากาศที่แตกต่างไป
มันต้องมีการปรับแต่ง
ช่วงที่ผ่านมาสังเกตเห็นว่าพอเปิด
hot
plate แล้วก็เข้าไปนั่งจับกลุ่มกันอยู่ในห้องพักที่เป็นห้องแอร์
(ที่อยู่อีกฟากหนึ่งของห้องทดลอง)
อีกสักครึ่งชั่วโมง
(บางครั้งดูเหมือนจะนานกว่านั้น)
ก็ค่อยโผล่ออกมาดูว่าอุณหภูมิได้ที่หรือยัง
ถ้ายังไม่ได้ที่ก็ทำการปรับ
hot
plate แล้วก็กลับเข้าไปนั่งแช่กันต่อในห้องแอร์ใหม่
ก็เพราะทำแลปกันแบบนี้
ก็เลยทำการทดลองไม่สำเร็จสักที
การทดลองนี้มันเสร็จสิ้นได้ง่ายเพียงแค่ยอมมา
"นั่งเฝ้าหน้าเครื่อง"
แล้วคอยสังเกตการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิ
จากนั้นก็ทำการปรับระดับการให้ความร้อนของ
hot
plate ให้เหมาะสม
เช่นถ้าพบว่าอุณหภูมิเพิ่มเร็วเกินไปก็ลดระดับการให้ความร้อนของ
hot
plate ถ้าพบว่าอุณหภูมิตกลงอย่างช้า
ๆ ก็ค่อย ๆ เพิ่มระดับการให้ความร้อนของ
hot
plate ทีละน้อย
ๆ เพื่อหยุดการลดลงของอุณหภูมิ
ฯลฯ
การทำเช่นนี้เป็นสิ่งจำเป็นในการเรียนรู้พฤติกรรมของระบบที่เราทำการศึกษา
จะได้รู้ว่าอัตราเร็วในการตอบสนองของระบบนั้นช้า-เร็วเพียงใด
และมีสิ่งรบกวนใดบ้างที่ส่งผลต่อการควบคุมการทำงานของระบบ
และส่งผลรบกวนนั้นมากน้อยเพียงใด
การทำเช่นนี้มันไม่ได้เป็นเพียงแค่
"สิ่งจำเป็น"
และ
"สำคัญ"
สำหรับ
"มือใหม่"
ผมเองขนาดทำงานกับแก๊สโครมาโทกราฟมานานกว่า
๒๐ ปี
ยังต้องมานั่งเฝ้าหน้าเครื่องอยู่เป็นระยะเวลาที่เปลี่ยนแปลงสภาวะของการทดลอง
ทีนี้ก็เหลือแต่เพียงแค่ผู้ที่ต้องทำการทดลองต้องเลือกเอาเองแล้วว่า
จะทำอย่างไรต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น