แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ หัวหวาย แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ หัวหวาย แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2561

เส้นทางรถไฟที่หายไป (๒) (ก่อนจะเลือนหายไปจากความทรงจำ ตอนที่ ๑๔๔) MO Memoir : Thursday 27 December 2561

พักหลัง ๆ นี้เห็นมีรูปแบบการส่งต่อข้อความแบบหนึ่งเกิดขึ้น ก็คือการบอกว่าสิ่งที่ใครต่อใครเชื่อกันอยู่นั้นมันผิด ที่ถูกต้องเป็นอย่างนี้ ประเภทที่เรียกว่าพอใครสักคนไปเจอเรื่องอะไรบางอย่างที่ไม่เหมือนกับที่เคยได้ยินมาหรือที่เคยเชื่อกันอยู่ ก็จะรีบแชร์ต่อว่าเป็นข้อมูลใหม่ โดยไม่ได้มีการตรวจสอบความถูกต้องของสิ่งที่ได้เห็นนั้นว่ามันถูกต้องหรือไม่
 
ถ้าเป็นการศึกษาประวัติศาสตร์ก็ยิ่งยากเข้าไปอีก เพราะนอกจากต้องอ่านตัวผู้บันทึกแล้ว ก็ยังต้องพิจารณากันอีกว่า สิ่งที่บันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรนั้นคือความจริงทั้งหมดที่ผู้บันทึกนั้นต้องการส่งต่อ หรือมีการซ่อนข้อเท็จจริงอันอื่นที่ไม่อาจกล่าวออกมาโดยตรงได้ หรือในบางครั้งข้อมูล ณ เวลาที่ทำการรวบรวมนั้นมีการเปลี่ยนแปลงไปจากสภาพความเป็นจริง ณ เวลาที่ตีพิมพ์เอกสารฉบับดังกล่าว ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดในกรณีหลังนี้คือแผนที่ต่าง ๆ
 
หน่วยทำแผนที่หลักในอดีตคงหนีไม่พ้นหน่วยแผนที่ของทางทหาร ในส่วนภูมิภาคอินโดจีนนี้ยังสามารถหาแผนที่ทหารที่จัดทำโดยกองทัพสหรัฐได้ทางอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นแผนที่ที่จัดทำเมื่อสหรัฐเริ่มเข้ามามีบทบาทในสงครามเวียดนาม ประเทศไทยในฐานะที่ตั้งฐานทัพหลายแห่งของสหรัฐก็เลยได้รับการแผนที่ไปด้วย แผนที่ชุดหนึ่งที่มีการจัดทำในช่วงเวลาดังกล่าวเห็นจะเป็นชุดที่มีรหัส L509 ที่มีทั้งฉบับที่กองทัพสหรัฐจัดพิมพ์ และกรมแผนที่ทหารของไทยจัดพิมพ์ซ้ำโดยมีการให้ชื่อสถานที่เป็นภาษาไทยกำกับ และยังมีการปรับปรุงข้อมูลบางจุดให้ตรงกับความเป็นจริง (คงในฐานะเจ้าของพื้นที่) โดยเฉพาะสิ่งก่อสร้างที่สามารถสร้างขึ้นใหม่ได้รวดเร็วและรื้อถอนออกไปได้รวดเร็ว ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือเส้นทางรถไฟ ดังนั้นใน Memoir ฉบับนี้ถือเสียว่าเป็นการรวบรวมแผนที่ที่พบจากแหล่งต่าง ๆ ส่วนที่ว่าข้อมูลของฉบับไหนจะถูกต้องมากกว่ากันนั้นคงต้องให้ผู้อ่านพิจารณาเพิ่มเติมเอาเอง เพราะความเห็นของผมก็ใช่ว่าจะต้องถูกต้องเสมอไป ผมทำเพียงแค่ตั้งประเด็นคำถามเท่านั้นเอง

รูปที่ ๑ แผนที่ทหารรหัส L509 จัดทำโดยกองทัพสหรัฐ ฉบับจัดพิมพ์ครั้งแรก (เข้าใจว่าเป็นดังนี้) บอกว่ามีการใช้ข้อมูลตั้งแต่ปีค.ศ. ๑๙๕๒ (พ.ศ. ๒๔๙๕) และนำมาประมวลผลในปีค.ศ. ๑๙๕๘ (พ.ศ. ๒๕๐๑)
 
ตัวอย่างแรกคือแผนที่ทหารชุด L509 ที่จัดพิมพ์โดยกองทัพสหรัฐ (รูปที่ ๑ และ ๒) บริเวณจังหวัดสระบุรี ที่บอกว่าใช้ข้อมูลที่การเก็บรวบรวมเอาไว้ตั้งแต่ปีค.ศ. ๑๙๕๒ (พ.ศ. ๒๔๙๕) และนำมาประมวลผลในปีค.ศ. ๑๙๕๘ (พ.ศ. ๒๕๐๑) ในแผนที่นี้ยังปรากฏเส้นทางรถไฟเล็กสายพระพุทธบาท (จากบ้านท่าเรือไปยังพระพุทธบาท) โดยในเครื่องหมายในแผนที่ระบุว่าเป็นรางกว้างของ meter gauge (เส้นสีดำมีขีดขวาง) แต่ในประวัติศาสตร์ที่มีบันทึกไว้นั้นเส้นทางสายนี้มีความกว้างของรางแคบกว่า ๑ เมตร (อันที่จริงยุคนั้นมันมีข้อกำหนดด้วยว่าไม่ต้องการให้เอกชนสร้างทางรถไฟที่มีขนาดความกว้างเดียวกันกับของรถไฟหลวงด้วย)

รูปที่ ๒ แผนที่ ทหารรหัส L509 จัดทำโดยกองทัพสหรัฐ ฉบับจัดพิมพ์ครั้งแรก (รูปที่ ๑) บริเวณจังหวัดสระบุรี ระบุว่ายังมีเส้นทางรถไฟสายพระพุทธบาท (แนวเส้นประสีแดง) ที่มีขนาดรางกว้าง ๑ เมตร
  
แผนที่ในรูปที่ ๓ และ ๔ ก็เป็นแผนที่ชุด L509 เช่นกัน แต่จัดพิมพ์ใหม่โดยกรมแผนที่ทหารของไทย ในแผนที่ฉบับบริเวณจังหวัดสระบุรี (รูปที่ ๔) ปรากฏว่าเส้นทางรถไฟสายพระพุทธบาทหายไปแล้ว มีถนนปรากฏขึ้นแทน อันนี้ก็เป็นตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่า การอ้างอิงข้อมูลของอดีตนั้น แม้ว่ามองดูเผิน ๆ แล้วมันน่าจะเหมือนกัน (เพราะใช้ข้อมูลชุดเดียวกันแต่เป็นการพิมพ์ซ้ำ) แต่พอลงรายละเอียดไปยังผู้จัดพิมพ์แล้วกลับพบว่ามีความแตกต่างกันในบางจุด นั่นอาจเป็นเพราะว่าผู้ที่จัดพิมพ์ใหม่ (คือกรมแผนที่ทหาร) มีข้อมูลท้องถิ่นที่ถูกต้องมากกว่า ก็เลยทำการปรับแก้ข้อมูลเดิมในบางจุดให้ตรงกับความเป็นจริง กรณีของรถไฟเล็กลากไม้สายตะวันออก (ศรีราชา) ที่เคยนำมาแสดงให้ดูใน Memoir ฉบับเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๑ ก็เป็นแบบเดียวกัน (รูปที่ ๓ และ ๔ ใน Memoir ฉบับนั้น)

รูปที่ ๓ แผนที่ทหารรหัส L509 จัดพิมพ์ใหม่โดยกรมแผนที่ทหารของไทย (เป็นครั้งแรก)


รูปที่ ๔ แผนที่ทหารรหัส L509 บริเวณจังหวัดสระบุรีที่จัดพิมพ์ใหม่โดยกรมแผนที่ทหารของไทย (รูปที่ ๓) ในแผนที่นี้ไม่ปรากฏเส้นทางรถไฟสายพระพุทธบาทแล้ว แต่ปรากฏเป็นถนนแทน เส้นทางรถไฟย่อยอีกเส้นหนึ่งที่ปรากฏอยู่บริเวณเดียวกันคือเส้นทางรถไฟสายบ่อดินขาวที่ อ.บ้านหมอ (Ban Mo)
 
เส้นทางรถไฟอีกเส้นหนึ่งที่พบว่าข้อมูลที่ปรากฏในแผนที่ต่าง ๆ มีความขัดแย้งก็คือสาย หัวหวาย-ท่าตะโก ที่จังหวัดนครสวรรค์ (รูปที่ ๕-๑๐) เดิมเส้นทางรถไฟสายนี้เป็นเส้นทางรถไฟเล็กขนฟืน (ดู Memoir ปีที่ ๖ ฉบับที่ ๗๓๕ วันศุกร์ที่ ๒๔ มกราคม ๒๕๕๗ เรื่อง "รถไฟสายหัวหวาย-ท่าตะโกนครสวรรค์ (ก่อนจะเลือนหายไปจากความทรงจำ ตอนที่ ๕๕)") ที่ดูเหมือนว่ามีความพยายามที่จะปรับปรุงให้กลายเป็นรางขนาดควากว้าง ๑ เมตร แต่สุดท้ายโครงการก็ถูกยกเลิกไปและรางก็ถูกรื้อทิ้ง
  
รูปที่ ๕ และ ๖ เป็นแผนที่ฉบับเดียวกัน (แยกส่วนมาขยาย) ตัวแผนที่ระบุว่าเป็น "แผนที่ยุทธการร่วม (ของหน่วยทางอากาศ)" ส่วนแผนที่ในรูปที่ ๗ นั้นต่อเนื่องกับแผนที่ในรูปที่ ๕ และ ๖ แต่ดูเหมือนว่าจะมีการจัดทำขึ้นภายหลังประมาณ ๑๐ ปี และไม่ได้มีการระบุว่าเป็นแผนที่สำหรับ "หน่วยทางอากาศ" แต่กลับบอกว่าสำหรับ "กิจการพลเรือน" แทน
 
รูปที่ ๕ เส้นทางรถไฟสาย หัวหวาย-ท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ คือแนวเส้นประสีแดงในกรอบสี่เหลี่ยมสีแดงด้านบน แผนที่ชุดนี้นำมาจาก https://911gfx.nexus.net/mapnd4703.html มีการระบุว่าเป็น "แผนที่ยุทธการร่วม (ของหน่วยทางอากาศ)" ข้อมูลภูมิประเทศมีการระบุว่าประมวลผลในเดือนสิงหาคม ค.ศ. ๑๙๗๔ (พ.ศ. ๒๕๑๗) และมีตราประทับเป็นภาษาไทยว่า "ข่าวสารเกี่ยวกับการบินถูกต้องถึง 23 JANURAY 1976" (พ.ศ. ๒๕๑๙)
  
รูปที่ ๖ แผนที่ฉบับเดียวกับรูปที่ ๕ แต่เป็นภาพขยายช่วงตอนบน แนวเส้นทางรถไฟสายนี้จะทอดไปทางตะวันออกจนตกขอบด้านขวาของรูปนี้ ก็จะวกกลับมาทางตะวันตกเพื่อกลับเข้ามายังท่าตะโกใหม่ ในแผนที่ระบุว่าเส้นทางในช่วงแรกจากหัวหวายนั้นก่อสร้างเสร็จแล้ว (เห็นได้จากแสดงด้วยเส้นทึบ) ส่วนเส้นทางในช่วงตอนกลางไปจนถึงท่าตะโกนั้นอยู่ระหว่างการก่อสร้าง (เห็นได้จากการแสดงด้วยเส้นประ) ในแผนที่นี้ หมายเลขเส้นทางหลวงที่ปรากฏระบุว่าอิงจากแผนที่ทางหลวงปีค.ศ. ๑๙๗๒ (พ.ศ. ๒๕๑๕)

รูปที่ ๗ แผนที่ชุดเดียวกันกับรูปที่ ๕ และ ๖ แสดงส่วนที่ตกขอบด้านขวาของรูปที่ ๖ โดยมีการระบุว่าเส้นทางอยู่ระหว่างการก่อสร้าง (นำมาจาก https://911gfx.nexus.net/mapnd4704.html) มีการระบุเอาไว้ว่า "จัดทำโดยกรมแผนที่ทหาร กองบัญชาการทหารสูงสุด เพื่อใช้ในกิจการพลเรือน รวบรวมในปีพ.ศ. 2526 จากข้อมูลล่าสุดที่มีอยู่" อันที่จริงหน้าเว็บหลักที่นำแผนที่เหล่านี้มา ดูเหมือนว่าจะใช้แผนที่ชุดเดียวกันแต่มีการจัดทำต่างเวลากัน (มีการปรับปรุง) ทำให้ข้อมูลระหว่างแผนที่นั้นไม่ต่อเนื่องกัน ตัวอย่างหนึ่งที่ผมพบจากหน้าเว็บนี้ก็คือแผนที่บริเวณจังหวัดชลบุรีที่ยังปรากฏว่ามีเส้นทางรถไฟเล็กลากไม้ (ศรีราชา) แต่ไม่ปรากฏเส้นทางรถไฟที่แยกจากฉะเชิงเทราไปยังสัตหีบ แต่แผนที่ต่อเนื่องช่วงสัตหีบระยองนั้นกลับปรากฏว่ามีเส้นทางรถไฟสร้างเสร็จเรียบร้อยไปจนถึงท่าเรือน้ำลึกสัตหีบแล้ว 

ส่วนแผนที่ในรูปที่ ๘ นั้นเป็นชุดที่มีการระบุว่าเป็น "TACTICAL PILOTAGE CHART" ซึ่งคงเน้นไปที่ความถูกต้องของขอบเขตการควบคุมการจราจรทางอากาศ ดังนั้นจึงอาจไม่ให้ความสำคัญกับสิ่งก่อสร้างที่ไม่ได้เป็นจุดเด่นขนาดใหญ่บนพื้นดิน (เช่นแนวทางรถไฟย่อยที่ไม่ใช่เส้นทางหลัก) 

รูปที่ ๘ แผนที่ TACTICAL PILOTAGE CHART TPC K9-B (นำมาจาก http://legacy.lib.utexas.edu/maps/tpc/txu-pclmaps-oclc-22834566_k-9b.jpg) ภาพขยายส่วนบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ ในแผนที่นี้ปรากฏแนวเส้นทางรถไฟจากหัวหวายออกไป แต่ไปไม่ถึงท่าตะโก อนึ่งดูเหมือนว่าแผนที่ชุดนี้จะไปที่เน้นความถูกต้องของข้อมูลการเดินอากาศมากกว่าสิ่งก่อสร้างที่ปรากฏจริงบนพื้นผิว


รูปที่ ๙ เป็นรูปที่พิมพ์เผยแพร่ในหนังสือ "แผนที่ ๗๑ จังหวัดของประเทศไทย" เรียบเรียงโดย เจษฎา โลหะอุ่นจิต พิมพ์ที่ เอเซียการพิมพ์ ๕๓๗-๗ ถนนสันติภาพ วงเวียน ๒๒ กรกฎา พระนคร โทร ๒๓๐๑๙ นายบุญศักดิ์ ปิยะธนาพงษ์ ผู้พิมพ์โฆษณา พ.ศ. ๒๕๐๘ ในแผนที่ฉบับนี้ระบุเอาไว้ว่าเส้นทางรถไฟสายหัวหวาย-ท่าตะโก กำลังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และดูเหมือนแนวทางที่ลากไว้นั้นจะเป็นแนวทางคร่าว ๆ (คือแทบจะลากตรงเชื่อมสองจุด)


 
รูปที่ ๙ แผนที่จังหวัดนครสวรรค์จากหนังสือ แผนที่ ๗๑ จังหวัดของประเทศไทย เรียบเรียงโดย เจษฎา โลหะอุ่นจิต พิมพ์ที่ เอเซียการพิมพ์ ๕๓๗-๗ ถนนสันติภาพ วงเวียน ๒๒ กรกฎา พระนคร โทร ๒๓๐๑๙ นายบุญศักดิ์ ปิยะธนาพงษ์ ผู้พิมพ์โฆษณา พ.ศ. ๒๕๐๘ ในแผนที่ฉบับนี้บอกว่าเส้นทางรถไฟสายหัวหวาย-ท่าตะโก (แนวเส้นประสีแดง) อยู่ระหว่างการก่อสร้าง

ส่วนรูปที่ ๑๐ นั้นถ่ายมาจาก "แผนที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดข้างเคียง" (เป็นแผนที่สำหรับติดผนัง) ที่จัดทำโดยศูนย์แผนที่พรานนกวิทยา ที่ติดไว้ที่ผนังห้องทำงานผม (ตั้งแต่ปีพ.ศ. ๒๕๔๐) แผนที่ฉบับนี้ผมซื้อมาจากงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ แล้วก็นำมาติดไว้ที่ผนังห้องทำงาน พอลองสังเกตดูก็พบว่ามีการระบุว่ามีเส้นทางรถไฟแยกจากหัวหวายไปยังท่าตะโก ข้อมูลในแผนที่ฉบับนี้ปรากฏว่ามีเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์แล้ว
 
แผนที่ประเทศไทยอีกฉบับหนึ่ง (ไม่ได้นำรูปมาแสดง) จัดทำโดยศูนย์แผนที่พรานนกวิทยาเช่นกัน และซื้อมาพร้อมกับแผนที่ฉบับในรูปที่ ๑๐ (และคิดว่าน่าจะจัดพิมพ์ในปีเดียวกันด้วย) กลับไม่ปรากฏแนวเส้นทางรถไฟจากหัวหวายไปยังท่าตะโก ทั้ง ๆ ที่ข้อมูลในแผนที่ฉบับนี้น่าจะเก่ากว่าอีก เพราะว่ายังไม่มีเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ปรากฏในแผนที่
 
นั่นแสดงว่าเอกสารที่จัดทำเผยแพร่ในเวลาเดียวกัน อาจใช้ข้อมูลที่มีความเก่า-ใหม่แตกต่างกันได้ ดังนั้นการดูเพียงแค่เวลาที่เอกสารนั้นออกเผยแพร่ จึงไม่เพียงพอที่จะยืนยันได้ว่าข้อมูลที่เห็นนั้นตรงกับความเป็นจริงในขณะนั้น

รูปที่ ๑๐ นำมาจาก "แผนที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดข้างเคียง" (เป็นแผนที่สำหรับติดผนัง) จัดทำโดยศูนย์แผนที่พรานนกวิทยา แผนที่นี้มีการระบุว่ามีเส้นทางรถไฟแยกจากหัวหวายไปยังท่าตะโก

รูปที่ ๑๑ เป็นแผนที่เส้นทางรถไฟขนอ้อยเข้าโรงงานน้ำตาลที่ อ.เกาะคา จังหวัดลำปาง ที่มีปรากฏใน "แผนที่ยุทธการร่วม (ของหน่วยทางอากาศ)" (รูปที่ ๑๐) แผนที่นี้ระบุว่าข้อมูลภูมิประเทศทำการประมวลผลในปีพ.ศ. ๒๕๑๖ แต่ข้อมูล ข่าวสารเกี่ยวกับการบินถูกต้องถึง ๒๔ ตุลาคม ๒๕๑๘ นั่นแสดงว่าแผนที่ประเภทนี้ เวลาปรับปรุงความถูกต้องจะเน้นไปที่วัตถุประสงค์การใช้งาน (คือเกี่ยวกับขอบเขตการควบคุมการจราจรทางอากาศ) เป็นหลัก ส่วนรายละเอียดปลีกย่อยต่าง ๆ ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องโดยตรงกับการควบคุมการจราจรทางอากาศคงไม่ได้รับการปรับแก้ไขให้ถูกต้องบ่อยนัก

Memoir ฉบับนี้คงเป็นฉบับปิดท้ายปีพ.. ๒๕๖๑ ซึ่งถ้าหากไม่มีอะไรพิเศษก็คงจะออกฉบับต่อไปหลังปีใหม่เลย ท้ายสุดนี้ก็ขอให้ผู้ที่ติดตามอ่านหรือบังเอิญแวะผ่านเข้ามาเห็น มีความสุข สดชื่น สมหวังในสิ่งที่ดี ในปีหน้าก็แล้วกันครับ สวัสดีปีใหม่ครับ :) :) :)


รูปที่ ๑๑ "แผนที่ยุทธการร่วม (ของหน่วยทางอากาศ)" (นำมาจาก https://911gfx.nexus.net/mapne4707.html) บริเวณจังหวัดลำปาง มีตราประทับเป็นภาษาไทยว่า "ข่าวสารเกี่ยวกับการบินถูกต้องถึง 24 OCTOBER 1975" (พ.ศ. ๒๕๑๘) ข้อมูลภูมิประเทศในแผนที่มีการระบุว่าทำการประมวลในเดือนกันยายน ค.ศ. ๑๙๗๓ (พ.ศ. ๒๕๑๖)

วันศุกร์ที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2557

รถไฟสายหัวหวาย-ท่าตะโก นครสวรรค์ (ก่อนจะเลือนหายไปจากความทรงจำ ตอนที่ ๕๕) MO Memoir : Friday 24 January 2557

ท่าตะโก อำเภอ ขึ้น จ. นครสวรรค์ ตั้งที่ว่าการ ต. ท่าตะโก อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของ อ. หนองบัว อยู่ทางทิศตะวันตกของ อ. วิเชียรบุรี จ. เพชรบูรณ์ อยู่ทางทิศเหนือของ อ. ตาคลี อยู่ทางทิศตะวันออกของ อ. เมืองนครสวรรค์ คมนาคมจากเมืองไปอำเภอโดยทางหลวงจังหวัด ผ่านสถานีรถไฟนครสวรรค์ (หนองปลิง) ระยะทาง ๔๕ กม. ภูมิประเทศตอนเหนือเป็นที่ลุ่ม ตอนอื่น ๆ ลุ่มบ้าง ดอนบ้าง ทำนาได้ทั่ว ๆ ไป แต่ที่ดอนต้องทำนาน้ำฝน พลเมือง ๗๕,๒๐๖ คน (.. ๒๕๑๘) นำนาเป็นพื้น
  
อ. ท่าตะโก มี ๙ ตำบล คือ ๑. ท่าตะโก ๒. เขาพนมเศษ ๓. ดอนคา ๔. ทำนบ ๕. พนมรอก ๖. วังมหากร ๗. วังใหญ่ ๘. สายลำโพง ๙. หัวถนน .. (อักขรานุกรมภูมิศาสตร์ไทย ฉบับราชบัณฑิตสถาน)
  
ข้อความข้างต้นนำมาจาก "สารานุกรมไทยฉบับราชบัณฑิตยสถาน เล่ม ๑๔ ทะเบียน-ธรรมราชา" พิมพ์ครั้งที่ ๒ พ.ศ. ๒๕๒๗-๒๕๒๘ โดยบริษัท ประยูรวงศ์ จำกัด หน้า ๘๕๘๙ แผนที่หน้า ๘๕๙๐ (รูปที่ ๑)
  
ที่หยิบเอาอำเภอนี้ขึ้นมาก็เพราะตอนที่ทำการย้ายหนังสือของพ่อไปเก็บอีกบ้าน เพื่อยกชั้นวางหนังสือให้กับลูก ได้มีโอกาสเอาหนังสือดังกล่าวมาพลิกดูรูปต่าง ๆ ข้างใน บังเอิญเล่มนี้กล่าวถึงอำเภอต่าง ๆ ในประเทศไทยไว้หลายอำเภอ และมีแผนที่ประกอบด้วย ทำให้รู้ว่าแต่ก่อนนั้นพื้นที่ในแต่ละอำเภอเป็นอย่างไร และในส่วนของ อ. ท่าตะโก จ. นครสวรรค์ นั้น แผนทีก็แสดงให้เห็นด้วยว่าเคยมีรถไฟเดินทางไปถึง (รูปที่ ๒)
 
รูปที่ ๑ หนังสือสารานุกรมไทยฉบับราชบัณฑิตยสถานเล่ม ๑๔ (เล่มซ้าย) ที่นำข้อมูลเกี่ยวกับอำเภอท่าตะโกมาเล่าให้ฟัง ส่วนเล่ม ๑๘ (ขวา) เคยนำเอาเรื่อง "ปลุกผี" มาเล่าให้ฟังไปเมื่อต้นเดือนนี้เอง

รูปที่ ๒ แผนที่อำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ จากหนังสือสารานุกรมไทยฉบับราชบัณฑิตยสถาน เล่ม ๑๔ ทะเบียน-ธรรมราชา พิมพ์ครั้งที่ ๒ พ.ศ. ๒๕๒๗-๒๕๒๘ โดยบริษัท ประยูรวงศ์ จำกัด หน้า ๘๕๙๐ ปรากฏเส้นทางรถไฟเล็กหัวหวาย-ท่าตะโกมาสิ้นสุดที่ตำบลท่าตะโก ไม่มีเส้นทางต่อขึ้นไปเหนืออีก แผนที่ที่แสดงนี้คงเป็นแผนที่เก่าที่ใช้ในการพิมพ์ครั้งแรก (หนังสือไม่ยักบอกว่าพิมพ์ครั้งแรกเมื่อใด) แต่ในเวลาที่พิมพ์ครั้งที่ ๒ เส้นทางรถไฟนี้ได้หายไปแล้ว (บ้านเราใช้ขนาดรางกว้างมาตรฐาน 1 เมตร (metre gauge) ถ้าใช้รางแคบกว่านี้จะเรียกว่ารถไฟเล็ก)

รูปที่ ๓ แผนที่เส้นทางรถไฟสายเหนือช่วงจังหวัดนครสวรรค์ แสดงแนวเส้นทางรถไฟสายหัวหวาย-ท่าตะโก ซึ่งปัจจุบันเป็นถนนไปแล้ว B.R. Whyte ทำเครื่องหมายไว้ว่าสงสัยว่าเส้นทางนี้จะมีต่อขึ้นเหนือเลยอำเภอท่าตะโกขึ้นไปอีก แผนที่นี้อยู่ในส่วนท้ายของหนังสือ "The Railway Atlas of Thailand, Laos and Cambodia" โดย B.R. Whyte

รูปที่ ๔ แผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตต์ที่ดินในบริเวณที่จะเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่อำเภอตาคลีและอำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ ๒๔๘๔ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๕๘ วันที่ ๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๔ หน้า ๖๑๔-๖๑๖ ขณะนั้นเป็นช่วงประเทศไทยจะเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ ๒ เพียงไม่กี่เดือน

รถจักรไอน้ำของประเทศไทยนั้นใช้ฟืนเป็นเชื้อเพลิงหลัก ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการลำเลียงไม้ที่ตัดจากป่ามายังสถานีรถไฟ ด้วยเหตุนี้จึงมีการสร้างทางรถไฟเพื่อขนไม้ฟืนจากป่าในบริเวณข้างเคียงมายังสถานีรถไฟที่อยู่บนเส้นทางหลัก สถานีรถไฟหัวหวายก็เป็นหนึ่งในสถานีนั้น ในราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๔๑ น่า ๓๐๕ วันที่ ๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๖๗ ประกาศพระบรมราชโองการ พระราชทานพระบรมราชาณุญาต ให้ใช้รถไฟหลวงทางขนาดย่อมที่ตำบลหัวหวาย เพื่อรับส่งสินค้า (สมัยรัชกาลที่ ๖) ได้ให้รายละเอียดว่าเดิมเป็นทางรถไฟขนาดรางกว้าง ๖๐ เซนติเมตร ระยะทางยาวถึง ๒๘ กิโลเมตร จากเดิมที่ใช้เฉพาะการรถไฟเพื่อบรรทุกไม้ ก็อนุญาตให้ชาวบ้านใช้เป็นเส้นทางลำเลียงสินค้าด้วย เส้นทางนี้ในหนังสือของ B.R. Whyte ระบุว่าสร้างและเปิดใช้ในปีค.ศ. ๑๙๐๗ (พ.ศ. ๒๔๕๐ หรือปลายรัชกาลที่ ๕)
  
ที่น่าเสียดายคือ แผนที่ที่แสดงแนวเส้นทางรถไฟลำเลียงไม้เส้นนี้กลับยังไม่มีปรากฏ

รูปที่ ๕ แผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตต์ที่ดินในบริเวณที่จะเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่อำเภอตาคลีและอำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ พ.ศ. ๒๔๘๙ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ ๒๕ เล่ม ๖๓ วันที่ ๓๐ เมษายน พ.ศ. ๒๔๘๙ หน้า ๒๔๙-๒๕๑ เหมือนเป็นการเอาประกาศตอนพ.ศ. ๒๔๘๔ มาปัดฝุ่นใช้ใหม่ เพราะยังใช้รูปเดิมแนวทางเดิม แสดงว่าช่วงสงครามนั้นคงไม่มีการก่อสร้างใด ๆ แต่ตอนนี้เป็นช่วงสงครามเพิ่งจะสิ้นสุดใหม่ ๆ

ที่พอจะหาได้กลับเป็นแผนที่ที่แสดงแนวเส้นทางรถไฟสายหัวหวาย-ท่าตะโก อีกเส้นหนึ่ง (ไม่ใช้เส้นรถขนฟืน) ดังที่นำมาแสดงในรูปที่ ๒, ๗ และ ๘ เส้นทางนี้เป็นเส้นทางที่สร้างหลังสงครามโลกครั้งที่ ๒ สิ้นสุด แต่ก็ดูเหมือนว่ามีอายุใช้งานอยู่ไม่นานก่อนที่จะถูกรื้อทิ้งไป ขนาดความกว้างของรางรถไฟสายนี้ แผนที่ในรูปที่ ๒ บอกว่าเป็นรถไฟเล็ก (ความกว้างของรางน้อยกว่า 1 เมตร) แต่แผนที่ในรูปที่ ๗ และ ๘ นั้นแสดงเป็นใช้เครื่องหมายแบบเดียวกับทางรถไฟปรกติ ส่วน "ถนนไปบ้านหนองหลวง" นั้นคงเป็นแนวทางรถไฟขนฟืนเส้นเดิม
  
ใน "http://th.wikipedia.org/wiki/สถานีรถไฟหัวหวาย" บอกว่าเส้นทางแยกไปท่าตะโกนี้มีการเปลี่ยนขนาดรางเป็น 1 เมตรในปีพ.ศ. ๒๔๘๓ และเปลี่ยนแนวทางใหม่ แต่ดูจากราชกิจจานุเบกษาที่ค้นได้แล้วคิดว่าไม่น่าจะใช่ เพราะปีพ.ศ. ๒๔๙๔ ก็ยังมีการประกาศเวนคืนที่ดินเพื่อสร้างทาง ดังนั้นการสร้างทางใหม่ควรจะเกิดหลังจากปีพ.ศ. ๒๔๙๔
  
รูปที่ ๖ แผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตต์ที่ดินในบริเวณที่จะเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่อำเภอตาคลีและอำเภอท่าตะโก จังหวัดนครสวรรค์ พ.ศ. ๒๔๙๔ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ตอนที่ ๖๖ เล่ม ๖๘ วันที่ ๓๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๔๙๔ หน้า ๑๔๙๒-๑๔๙๔ ก็เป็นเสมือนการเอาประกาศในปี ๒๔๘๙ มาปัดฝุ่นใช้ใหม่ เพราะยังคงใช้แผนที่เดิมและแนวเดิมอยู่ แต่ครั้งนี้ดูเหมือนว่าจะมีการลงมือสร้างจริง เพราะแผนที่ที่ปรากฏในอีกไม่กี่ปีถัดมา (รูปที่ ๗) ก็มีเส้นทางรถไฟให้เห็นแล้ว

ที่ผมคิดว่าเส้นทางนี้แปลกก็คือมันมีแนวทางรถไฟเล็กเดิมอยู่แล้ว แต่แทนที่จะปรับปรุงเส้นทางเดิมให้เป็นทางมาตรฐาน กลับเลือกที่จะสร้างเส้นทางใหม่ แต่ก็เปิดใช้งานได้ไม่นานก่อนจะถูกยกเลิกไปในปีพ.ศ. ๒๕๐๗
 
เรื่องของทางรถไฟสายนี้นี้มีผู้ถกเถียงเอาไว้เยอะแล้ว ลองใช้ google หาโดยใช้คำ "รถไฟเล็กหัวหวาย" แล้วไปอ่านในเว็บ portal.rotfaithai.com ได้ (ผมขอไม่คัดลอกลิงค์มาเต็ม ๆ เพราะชื่อลิงค์มันยาวมาก)
ฉบับนี้ออกมาก็เพื่อไม่ให้เป็นเรื่องราววิชาการหรือการเมืองต่อเนื่องมากเกินไป :)
   
รูปที่ ๗ แผนที่แสดงแนวเขตป่าสงวนท้ายกฎกระทรวงฉบับที่ ๒๑ (พ.ศ. ๒๕๐๑) ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ ๗๕ ตอนที่ ๗๙ วันที่ ๑๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๐๑ หน้า ๕๕๙-๕๖๑ มีเส้นทางรถไฟปรากฏให้เห็นแล้ว
 
รูปที่ ๘ แผนที่แสดงแนวเขตป่าสงวนที่เพิกถอนท้ายกฎกระทรวงฉบับที่ ๑๕๑ (พ.ศ. ๒๕๐๕) ประกาศในราชกิจจานุเบกษาเล่มที่ ๗๙ ตอนที่ ๑๑๕วันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๐๕ หน้า ๘๖-๘๘ ยังคงใช้รูปเดิมจากประกาศพ.ศ. ๒๕๐๑ (รูปที่ ๘) แต่ทำในสิ่งที่ตรงข้ามกัน คือฉบับนี้เป็นการเพิกถอนสภาพความเป็นป่าสงวนที่ประกาศในพ.ศ. ๒๕๐๑