นี่เป็นภารกิจที่เชื่อว่า
ไม่มีอาจารย์คนไหน
อยากจะให้มันเกิด
แต่เมื่อเกิดแล้ว
ก็เป็นการยากเหมือนกัน
ที่จะหาผู้ปฏิบัติ
นั่นคือการเขียน
คำไว้อาลัย ให้กับลูกศิษย์
ผู้จากไปก่อนวัยอันควร
ความทรงจำของอาจารย์แต่ละคน
ที่มีต่อนิสิตแต่ละรุ่นนั้น
แตกต่างกันไป
ความทรงจำของอาจารย์แต่ละคน
ต่อนิสิตแต่ละคน ในแต่ละรุ่นนั้น
ก็ "มักจะ"
แตกต่างกันไป
แต่ก็มีเหมือนกัน
นาน ๆ ครั้ง ที่จะมีนิสิต
"บางคน"
ใน
"บางรุ่น"
นั้น
สร้างความทรงจำที่
"เหมือน
ๆ กัน"
ให้กับอาจารย์ทุก
ๆ คน
ภาควิชาวิศวกรรมเคมี
รับนิสิตเข้าภาควิชา
เมื่อนิสิตเหล่านั้นขึ้นชั้นปีที่สอง
ภาควิชาไม่ได้เป็นคนเลือกนิสิต
แต่นิสิตเป็นคนเลือก
ที่จะเรียนกับเรา
นั่นนับเป็นเกียรติ
ที่อาจารย์ของภาควิชาได้รับ
จากนิสิตที่เลือก ที่จะมาเรียนกับเรา
การดูแลนิสิตกว่า
๗๐ คน ในรุ่นใดรุ่นหนึ่ง
จากหลากหลายที่มา
จากพื้นเพที่แตกต่างกัน
ให้หล่อหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน
ไม่ใช่ภารกิจที่อาจารย์ฝ่ายเดียว
จะเป็นผู้กระทำได้
ตัวนิสิตเองต่างหาก
ที่มีบทบาทสำคัญ ที่จะเลือกว่า
จะอยู่กันแบบต่างคนต่างอยู่
ต่างคนต่างไป
หรือจะอยู่ร่วมกัน
รักษาความสัมพันธ์กันไว้
นับตั้งแต่สมัยเรียน
ไปจวบจนสิ้นอายุขัย ของแต่ละคน
การที่นิสิตรุ่นใดรุ่นหนึ่งจะรวมตัวกันได้นั้น
จำเป็นต้องที่นิสิตรุ่นนั้นต้องมี
บุคคลที่
"เป็นที่ยอมรับ"
ในหมู่เพื่อนฝูง
การเป็นบุคคลที่
"เป็นที่ยอมรับ"
นี้
ไม่ได้หมายความว่า ได้มาจาก
"เสียงข้างมากจากการเลือกตั้ง"
แต่เป็นการ
ได้มาจาก "ฉันทามติ"
ที่ได้รับจาก
"มิตรภาพและน้ำใจ"
ที่เขาผู้นั้น
มีให้แก่เพื่อน ๆ ทุกคน
นิสิตรหัส
๕๐ นั้น นับได้ว่าโชคดี
ที่ในรุ่นของเขานั้น
มีบุคคลหลายคน
ที่เปี่ยมไปด้วย
"มิตรภาพและน้ำใจ"
ให้กับเพื่อน
ๆ ของเขาทุกคน
"พลลภัตม์"
ก็เป็นหนึ่งในนิสิตเหล่านั้น
"พลลภัตม์ ? คนไหน ? นึกหน้าไม่ออก" อาจารย์บางท่าน (รวมทั้งผมด้วย) รู้สึกเช่นนี้ เมื่อได้ยินชื่อ
"หน้าดำ
ฟันขาว ยิ้มเก่ง ช่วยทำกิจกรรมอยู่เสมอไง
คนนั้นแหละ"
หลายท่านนึกหน้าออกทันที
"เกิดอะไรขึ้น"
"เป็นไปได้อย่างไร"
..... สารพันคำถามที่ตามมา
ช่วงชีวิตสี่ปี
ในมหาวิทยาลัยนั้น อาจเรียกได้ว่า
เป็นช่วงชีวิตที่
พ่อและแม่ของนิสิตผู้นั้น
มีโอกาสน้อยมาก
ที่จะรับทราบเรื่องราว
และพฤติกรรมต่าง ๆ
ของลูกในขณะเรียนหนังสือ
ในฐานะหนึ่งในอาจารย์
ผู้ได้มีโอกาสสอน และได้รับมอบหมาย
ให้เป็นตัวแทนคณาจารย์ของภาควิชา
ผมขอกราบเรียน
ให้คุณพ่อคุณแม่ ของ "พลลภัตม์"
ทราบว่า
ในช่วงเวลาที่บุตรของท่าน
ใช้ชีวิตอยู่ในมหาวิทยาลัยนั้น
เขาไม่ได้กระทำการใด
ๆ อันจะก่อให้เป็นที่เสื่อมเสีย
ต่อตัวเขาเองและวงศ์ตระกูล
ท่านได้มีบุตร
ที่เป็นที่รักยิ่งของเพื่อนฝูง
และของคณาจารย์
สิ่งที่พลลภัตม์กระทำไป
ในช่วงที่เรียนในภาควิชานั้น
แม้ว่าจะไม่ได้ทำให้เขาได้รับใบประกาศ
เอาไว้ไปโชว์ตอนไปสอบสัมภาษณ์
ไม่ได้มีเงิน หรือเหรียญรางวัลตอบแทน
ไม่ได้ทำให้เขาเป็นดารา
ไม่ได้ทำให้เป็นนิสิตดีเด่นของมหาวิทยาลัย
แต่เขาได้ทำให้คนรอบข้างเขา
ได้มีความทรงจำดี ๆ เล็ก ๆ
ซุกเอาไว้ในก้นบึ้งของหัวใจ
ว่าในช่วงเวลาหนึ่งของชีวิตนั้น
โชคดีที่ได้มีโอกาสได้รู้จัก
และใช้ชีวิตร่วมกับบุคคลผู้นี้
ในฐานะตัวแทนของคณาจารย์
ต้องขอแสดงความเสียใจ
ต่อคุณพ่อคุณแม่
ที่ท่านต้องสูญเสียบุตรอันเป็นที่รักยิ่งของท่านไป
ในฐานะอาจารย์
ต้องขอแสดงความเสียใจ
ต่อเพื่อน ๆ ของ "พลลภัตม์"
ที่ต้องสูญเสีย
เพื่อนที่ดีที่สุดคนหนึ่งไป
ในฐานะอาจารย์
เรารู้สึกเสียใจ ที่ต้องสูญเสีย
ลูกศิษย์ที่ดี
และเป็นที่รักคนหนึ่งของเราไป
แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเชื่อว่าจะยังคงอยู่
กับทุกท่านในที่นี้
และจะไม่วันสูญเสียไป ก็คือ
"ความทรงจำเกี่ยวกับรอยยิ้ม
ของคนหน้าดำ ฟันขาว ยิ้มเก่ง
คนนั้น"
ด้วยความเคารพ
ในนามของตัวแทนคณาจารย์ภาควิชา
ภาควิชาวิศวกรรมเคมี
คณะวิศวกรรมศาสตร์
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
เขียนเนื่องในงานฌาปนกิจศพนาย
พลลภัตม์ สัลละพันธ์ (ใหม่)
นิสิตวิศวกรรมเคมีรหัส
๕๐ (รุ่น
๙๑)
ณ
วัดพระสิงห์ วรมหาวิหาร
ถนนสามล้าน ตำบลพระสิงห์
อำเภอเมืองจังหวัดเชียงใหม่
วันพุธที่
๓๐ ตุลาคม ๒๕๕๖ เวลา ๑๓.๐๐
น.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น