เมื่อกลางเดือนที่แล้วผมนำลิงค์ข่าวเรื่อง
"ให้น้ำหนักอะไรมากกว่า...วิจัยสร้างความรู้หรือสร้างเงิน?"
ที่นำมาจาก
http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9570000105124
ไปโพสบน
facebook
ของผมพร้อมกับทิ้งข้อความไว้ว่า
"ความเห็นน่าสนใจนะ
:)"
ไม่กี่วันต่อมาก็มีพี่คนหนึ่งถามผมว่า
"ทำไมไปโพสอย่างนั้นบน
facebook
น้อง
ๆ เขาเสียใจที่ไปว่าเขา"
ตอนแรกผมก็งงว่าเรื่องอะไร
คุยไปคุยมาก็ทราบว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับโพสข้างบน
ผมก็บอกพี่เขาไปว่าสงสัยว่าคงมีการเข้าใจผิด
ผมไม่ได้ว่าอะไรใครสักหน่อย
ว่าแต่พี่ได้ลองอ่านดูความเห็นที่มีคนโพสเอาไว้ในบทความดังกล่าวแล้วหรือยัง
ก็ปรากฏว่าแกก็ยังไม่ได้ไปอ่าน
คนเราก็เป็นซะอย่างนี้แหละครับ
แทนที่จะไปตรวจสอบด้วยการอ่านบทความต้นตอดูก่อนว่าเรื่องราวมันเป็นอย่างไร
พอได้ยินได้ฟังอะไรมาก็รีบเชื่อทันที
ถัดจากคุยกันผมก็เลยเปิดบทความให้พี่เขาได้อ่าน
ตอนแรกแกก็ทำท่าเหมือนกับไม่เชื่อว่าข้อความความคิดเห็นต่าง
ๆ นั้นมันจะเป็นเรื่องจริง
ไม่กี่วันต่อมาแกก็มาบอกผมว่าตอนนี้เชื่อแล้วว่าเรื่องที่ผมเคยเล่าให้ฟัง
(ที่มีนิสิตมาปรับทุกข์ให้ผมฟัง
และคล้ายกับเรื่องที่มีการโพสไว้ในความเห็นท้ายเนื้อข่าวดังกล่าว)
นั้นเป็นเรื่องจริง
เพราะแกเองเพิ่งจะไปเจอในเรื่องที่มัน
(ตามความคิดเห็นของแก)
ร้ายกว่าที่ผมเคยเล่าให้ฟังอีก
คือแกไปเจอนักวิจัยอาวุโสรายหนึ่งที่เสนอให้เงินค่าตอบแทนให้กับแก
ถ้าหากแกตีพิมพ์ผลงาน
international
paper และใส่ชื่อนักวิจัยอาวุโสรายนั้นร่วมเข้าไปใน
international
paper ดังกล่าวด้วย
ทั้ง ๆ ที่ทำงานวิจัยกันคนละด้านเลย
ชนิดที่เรียกว่านักวิจัยอาวุโสผู้นั้นไม่มีพื้นความรู้ในด้านที่แกทำหรอก
แถมด้วยมีนิสิตมาปรับทุกข์กับแกว่าอาจารย์ที่ปรึกษาบอกให้ไปทำอย่างไรมาก็ได้เพื่อให้ได้ตัวเลขที่เรียกว่าเป็น
"ผลการทดลอง"
แม้ว่าจะไม่มีการทำการทดลองก็ตาม
เพื่อให้มีตัวเลขสำหรับตีพิมพ์
international
paper
เจออย่างนี้เข้าไปแกก็เลยแนะนำให้ผมเอาข่าวดังกล่าวขึ้นไว้บน
blog
ซึ่งอันที่จริงผมก็คิดว่าจะทำอย่างนั้นอยู่เหมือนกัน
เพราะเกรงว่าพอเวลาผ่านไปเนื้อข่าวดังกล่าวจะหายไปจนหาข้อมูลย้อนหลังยืนยันไม่ได้
ก็เลยทำการบันทึกเนื้อข่าวดังกล่าวและนำมาเป็นภาพแปะไว้บน
blog
นี้
เนื่องจากบันทึกไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ดังนั้นความเห็นในที่ผมบันทึกมานั้นจึงอาจแตกต่างไปจากหน้าปัจจุบันได้
ดังนั้นก่อนที่จะอ่านข้อความในรูปที่แนบท้ายมา
ก็ขอแนะนำให้ไปอ่านจากลิงค์ที่นำมาไว้ตอนต้นเรื่องโดยตรงก่อนจะดีกว่านะครับ
ถ้าลิงค์นั้นอ่านไม่ได้จึงค่อยมาอ่านในรูปที่ผมแนบมาแทน
ปลายเดือนที่แล้วผมได้โพสข้อความไว้บน
facebook
ส่วนตัวของผมที่ใช้คุยกับนิสิตบัณฑิตศึกษาว่า
ผมไม่ได้มี
paper
ตีพิมพ์
Journal
อินเตอร์
ผมไม่เคยได้รับรางวัลใด
ๆ ไม่ว่าจะเป็นในระดับใด
ผมเคยสอนนิสิตป.เอกเพียงคนเดียว
...
พักหลังนี้ทำเพียงแค่ส่งเด็กไปประชุมวิชาการในประเทศและเขียนบทความวิชาการฉบับภาษาไทยลงในวารสารวิชาการในประเทศ
...
แต่คนที่ทำงานแถวอยุธยากลับระบุให้ผมไปสอนเรื่องการทดสอบตัวเร่งปฏิกิริยากับการอ่านผลการทดลองให้กับนักวิจัยของเขา
รู้สึกเหมือนได้รับเกียรติอย่างสูง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น