บันทึกช่วยจำของกลุ่มวิจัยตัวเร่งปฏิกิริยาโลหะออกไซด์ บันทึกความจำของวิศวกรเคมีผู้ลงมือปฏิบัติ (mo.memoir@gmail.com)
วันเสาร์ที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
Carbocation - การทำปฏิกิริยา MO Memoir 2555 Nov 10 Sat
วันเสาร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
ปฏิกิริยาเอกพันธ์และปฏิกิริยาวิวิธพันธ์ในเบดนิ่ง MO Memoir : Saturday 21 November 2552
ในการทำปฏิกิริยาใน fixed-bed catalytic reactor (หรือเครื่องปฏิกรณ์ตัวเร่งปฏิกิริยาชนิดเบดนิ่ง ซึ่งต่อไปขอเรียกสั้น ๆ ว่า "fixed-bed" หรือ "เบดนิ่ง" ก็แล้วกัน) นั้นสิ่งที่เราต้องการคือต้องการให้ปฏิกิริยาเกิดขึ้นเฉพาะในส่วนของเบดที่บรรจุตัวเร่งปฏิกิริยาเอาไว้ แต่ในการทดลองนั้นเราจำเป็นต้องมีการทดสอบว่าปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นนั้น
(ก) เกิดขึ้นเพราะการเร่งปฏิกิริยาตัวเร่งปฏิกิริยาเพียงอย่างเดียว
(ข) เกิดจากการทำปฏิกิริยากับวัสดุที่ใช้ทำเครื่องปฏิกรณ์ (ผนังเครื่องปฏิกรณ์ทำหน้าที่เป็นตัวเร่งปฏิกิริยาซะเอง)
(ค) เกิดจากวัสดุที่ใส่ร่วมลงไปกับเบดตัวเร่งปฏิกิริยา เพื่อช่วยในการบรรจุตัวเร่งปฏิกิริยา การนำความร้อน หรือการกระจายแก๊ส
(ง) เกิดจากปฏิกิริยาของสารในเฟสแก๊สทำปฏิกิริยากันโดยตรง
ปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นตามข้อ (ก) (ข) และ (ค) นั้นถือว่าเป็นปฏิกิริยาวิวิธพันธ์ (Heterogeneous reaction) โดยปฏิกิริยาตามข้อ (ก) เป็นปฏิกิริยาที่เราต้องการ ส่วนปฏิกิริยาตามข้อ (ข) และ (ค) เป็นปฏิกิริยาที่เราไม่ต้องการ ส่วนการเกิดปฏิกิริยาตามข้อ (ง) นั้นเป็นปฏิกิริยาเอกพันธ์ (Homogeneous reaction) ซึ่งสำหรับการทำปฏิกิริยาในเบดนิ่งแล้วปฏิกิริยาตามข้อ (ข) (ค) และ (ง) ดังกล่าวอาจก่อให้เกิดปัญหาขึ้นได้ในการแปลผลการทดลอง ซึ่งเป็นหัวข้อสำคัญที่จะพิจารณากันในบันทึกนี้
สิ่งที่จะกล่าวในช่วงต่อไป จะจำกัดไว้เพียงแค่การทำปฏิกิริยาใน micro reactor ที่ใช้ในห้องทดลองเท่านั้น
fixed-bed reactor ที่ใช้กันทั่วไปในห้องแลปมักมีลักษณะเป็นท่อยาว ซึ่งอาจเป็นท่อตรงหรือท่อโค้งรูปตัวยูก็ได้ (ขึ้นอยู่กับการออกแบบและชนิด furnace ที่ใช้ให้ความร้อน) วัสดุที่ใช้ทำเครื่องปฏิกรณ์ (reactor) เท่าที่เห็นใช้กันอยู่ทั่วไปมีอยู่ 3 ชนิดคือ แก้ว Pyrex แก้ว Quartz และ Stainless steel
แก้ว Pyrex เป็นวัสดุที่มีราคาถูกที่สุด นำใช้งานได้ที่อุณหภูมิไม่สูงมาก (ไม่แนะนำให้ใช้สำหรับอุณหภูมิสูงเกิน 400ºC เพราะแก้วจะเกิดการอ่อนตัวและทำให้ reactorสูญเสียรูปร่างได้ ให้ห้องทดลองของเรานั้นเคยมี micro reactor ที่ทำจากแก้ว Pyrex แต่ตอนนี้ไม่รู้ว่าเอาไปเก็บไว้ที่ไหนแล้ว
แก้ว Quartz เป็นวัสดุที่มีราคาแพง และหายากในบ้านเรา แต่มีข้อดีคือทนอุณหภูมิได้สูง (ระดับประมาณ 1000ºC) และพื้นผิวถือได้ว่ามีความเฉื่อยต่อการเกิดปฏิกิริยา แต่ต้องใช้ความระมัดระวังในเรื่องการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการหยิบจับ หรือการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว เพราะอาจทำให้แตกหักได้ micro reactor ที่เป็นเป็นแก้วเกือบทั้งหมดในห้องทดลองของเราจะเป็นแก้ว Quartz
เหล็กกล้าไร้สนิม (Stainless steel) เป็นวัสดุที่ทนอุณหภูมิได้สูง ไม่ต้องกังวลเรื่องการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว แต่ต้องระวังเรื่องพื้นผิวโลหะอาจทำให้เกิดปฏิกิริยาที่ไม่ต้องการขึ้นมา (ไม่ว่าจะเป็นการทำให้สารตั้งต้นหรือผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้นเกิดปฏิกิริยาไม่ต้องการ) แต่จะว่าไปแล้วการใช้ท่อเหล็กกล้าไร้สนิมมาทำเป็น micro reactor ก็เป็นการจำลองความเป็นไปได้ในการนำไปประยุกต์ใช้งานจริงได้ดี เพราะเครื่องปฏิกรณ์ในระดับอุตสาหกรรมก็มักทำจากโลหะเหล็กทั้งนั้น
1. การทดสอบเพื่อตรวจสอบความเฉื่อยของผนังเครื่องปฏิกรณ์และการเกิดปฏิกิริยาในเฟสแก๊ส
โดยปรกติการทดลองนี้มักจะต้องทำเมื่อใช้ "ท่อเหล็กกล้าไร้สนิม" (หรือท่อโลหะใด ๆ) มาทำเป็นเครื่องปฏิกรณ์
การทดสอบเพื่อตรวจสอบความเฉื่อยของผนังเครื่องปฏิกรณ์ทำได้โดยการทดลองป้อนสารตั้งต้นต่าง ๆ ผ่านระบบโดยที่ไม่มีการบรรจุตัวเร่งปฏิกิริยา แล้วดูว่ามีปฏิกิริยาใด ๆ เกิดขึ้นหรือไม่ ถ้าตรวจไม่พบว่ามีปฏิกิริยาใด ๆ เกิดขึ้นก็แสดงว่า ไม่มีการเกิดปฏิกิริยาเนื่องจากผนังเครื่องปฏิกรณ์ (ปฏิกิริยาตามข้อ (ข)) และไม่มีการเกิดปฏิกิริยาของสารในเฟสแก๊ส (ปฏิกิริยาตามข้อ (ค))
แต่ถ้าตรวจพบว่ามีปฏิกิริยาเกิดขึ้น ก็มีความเป็นไปได้ว่าปฏิกิริยานั้นอาจเป็นปฏิกิริยาที่เกิดจากผนังเครื่องปฏิกรณ์ หรือเป็นปฏิกิริยาของสารในเฟสแก๊ส หรือเป็นทั้ง 2 กลไกเกิดร่วมกันก็ได้ ซึ่งจำเป็นต้องมีการทดสอบเพิ่มเติมเพื่อหาข้อสรุปว่าปฏิกิริยาที่เห็นนั้นเกิดโดยกลไกใด
โดยปรกติแล้วถ้าเครื่องปฏิกรณ์ทำจากแก้ว Quartz ซึ่งถือว่าเป็นวัสดุที่ไม่ทำปฏิกิริยาใด ๆ เรามักจะถือว่าผนังเครื่องปฏิกรณ์จะไม่ทำปฏิกิริยาใด ๆ กับสารตั้งต้นและ/หรือผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้น ดังนั้นถ้าเราใช้เครื่องปฏิกรณ์ที่ทำจากแก้ว Quartz แล้วนำมาทำปฏิกิริยาโดยไม่บรรจุตัวเร่งปฏิกิริยาใด ๆ ไว้ในเครื่องปฏิกรณ์ ถ้าตรวจพบการเกิดปฏิกิริยาในช่วงอุณหภูมิที่เราศึกษาก็แสดงว่าสารตั้งต้นของเรานั้นสามารถทำปฏิกิริยากันเองในเฟสแก๊สโดยไม่ต้องพึ่งตัวเร่งปฏิกิริยาใด ๆ ได้
ถ้าเรานำผลการทดลองระหว่างการทดลองในเครื่องปฏิกรณ์ที่ทำจากท่อเหล็กกล้าไร้สนิมและเครื่องปฏิกรณ์ที่ทำจากแก้ว Quartz มาเปรียบเทียบกัน ผลการทดลองจะแบ่งออกได้เป็น 3 กรณีดังนี้
กรณีที่ 1 : ปฏิกิริยาที่เกิดในเครื่องปฏิกรณ์ที่ทำจากแก้ว Quartz "ไม่ควรจะสูงกว่า" ปฏิกิริยาที่เกิดในเครื่องปฏิกรณ์ที่ทำจากท่อเหล็กกล้าไร้สนิม ถ้าข้อมูลที่ได้มาพบว่าปฏิกิริยาที่เกิดในเครื่องปฏิกรณ์ที่ทำจากแก้ว Quartz มีค่า "สูงกว่า" ปฏิกิริยาที่เกิดในเครื่องปฏิกรณ์ที่ทำจากท่อเหล็กกล้าไร้สนิม ก็ให้ตรวจสัณนิฐานไว้ก่อนว่าผลการทดลองที่ได้มาน่าจะมีปัญหา
กรณีที่ 2 : ถ้าพบว่าปฏิกิริยาที่เกิดในเครื่องปฏิกรณ์ที่ทำจากแก้ว Quart "เท่ากับ" ปฏิกิริยาที่เกิดในเครื่องปฏิกรณ์ที่ทำจากท่อเหล็กกล้าไร้สนิม ก็แสดงว่ามีแต่ปฏิกิริยาของสารในเฟสแก๊สเท่านั้น เหล็กกล้าไร้สนิมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ ในการทำปฏิกิริยา
กรณีที่ 3 : ถ้าพบว่าปฏิกิริยาที่เกิดในเครื่องปฏิกรณ์ที่ทำจากแก้ว Quart "น้อยกว่า" ปฏิกิริยาที่เกิดในเครื่องปฏิกรณ์ที่ทำจากท่อเหล็กกล้าไร้สนิม ก็แสดงว่ามีปฏิกิริยาของสารในเฟสแก๊สและปฏิกิริยาที่เกิดจากการทำปฏิกิริยาของเหล็กกล้าไร้สนิมที่ใช้ทำเครื่องปฏิกรณ์ เราจะหาปริมาณปฏิกิริยาที่เกิดจากการทำปฏิกิริยาของเหล็กกล้าไร้สนิมได้โดยเอาค่าที่วัดได้จากการทำปฏิกิริยาในเครื่องปฏิกรณ์ที่ทำจากแก้ว Quartz (ส่วนที่เป็นปฏิกิริยาเอกพันธ์) มาหักออกจากค่าที่วัดได้จากการทำ ปฏิกิริยาที่เกิดในเครื่องปฏิกรณ์ที่ทำจากท่อเหล็กกล้าไร้สนิม
ถ้าหากตรวจพบว่าเมื่อใช้แก้ว Quartz แล้วไม่มีการเกิดปฏิกิริยาใด ๆ แต่เมื่อใช้เหล็กกล้าไร้สนิมกลับตรวจพบปฏิกิริยา ก็แสดงว่าปฏิกิริยาที่เป็นทั้งหมดเป็นปฏิกิริยาที่เกิดจากการเร่งปฏิกิริยาของเหล็กกล้าไร้สนิมที่เป็นผนังเครื่องปฏิกรณ์
สิ่งที่ต้องระวังคือ ถ้าตรวจพบว่าเหล็กกล้าไร้สนิมสามารถทำให้เกิดปฏิกิริยาได้ และเครื่องปฏิกรณ์นั้นวัดอุณหภูมิด้วยการสอดเทอร์โมคับเปิล (thermocouple) เข้าไปสัมผัสกับเบดตัวเร่งปฏิกิริยาโดยตรง หรือใช้การสอดเทอร์โมคับเปิลเข้าไปใน thermowell (ซึ่งมักทำจากท่อเหล็กกล้าไร้สนิม) ที่สัมผัสกับเบดตัวเร่งปฏิกิริยาโดยตรง ก็ต้องทำการตรวจสอบด้วยว่าวัสดุที่ใช้ทำเทอร์โมคับเปิลหรือ thermowell นั้นมีส่วนร่วมในการทำปฏิกิริยาด้วยหรือไม่
2. การทดสอบเพื่อตรวจสอบความเฉื่อยของวัสดุที่ใส่ร่วมลงไปกับเบดตัวเร่งปฏิกิริยา
ปรกติแล้วเรามักมีการบรรจุวัสดุบางชนิดเข้าในเครื่องปฏิกรณ์โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ
- เป็นชั้นรองรับตัวเร่งปฏิกิริยาที่เป็นผงละเอียดที่จะบรรจุตามลงไป วัสดุพวกนี้อาจเป็น quartz wool (ซึ่งมักจะถือว่าเป็นวัสดุที่เฉื่อย ไม่ทำปฏิกิริยาใด ๆ เช่นเดียวกับแก้ว quartz) ตะแกรงโลหะเหล็กกล้าไร้สนิม เป็นต้น
- ช่วยในการนำความร้อนจากผนังท่อมายังแก๊สที่ไหลอยู่ตอนกลางท่อ (แก๊สที่ไหลในท่อที่มีของแข็งบรรจุอยู่จะร้อนกว่าแก๊สที่ไหลในท่อเปล่า เพราะของแข็งช่วยนำความร้อนจากผนังท่อมายังแก๊สที่ไหลอยู่แนวแกนกลางท่อ - ดูรูปที่ 1 ประกอบ)
- ช่วยในการปรับรูปแบบการไหลของแก๊สให้ไหลผ่านเบดอย่างสม่ำเสมอ (สำคัญในกรณีที่ระยะทางการไหลในแนวตรงก่อนถึงทางเข้าของเบดนั้นสั้นเกินไป)
วัสดุที่เติมลงไปเพื่อช่วยในการนำความร้อนหรือปรับรูปแบบการไหลมักเป็นเซรามิกต่าง ๆ เช่น glass bead หรือซิลิกอนคาร์ไบด์ เป็นต้น
รูปที่ 1 (ซ้าย) ท่อที่ว่างเปล่า ไม่มีของแข็งช่วยนำความร้อนจากผนังท่อไปยังแก๊สที่ไหลอยู่กลางท่อ (ขวา) ท่อที่มีของแข็งบรรจุ ของแข็งจะช่วยนำความร้อนจากผนังท่อไปยังแก๊สที่ไหลอยู่กลางท่อ ทำให้แก๊สที่ไหลอยู่กลางท่อมีอุณหภูมิที่สูงกว่า
การทดสอบความเฉื่อยของวัสดุเหล่าทำได้โดยการทดสอบเครื่องปฏิกรณ์ "ในภาวะที่ไม่มีวัสดุบรรจุ" เปรียบเทียบกับ "ภาวะที่มีวัสดุบรรจุ" แล้วตรวจสอบดูว่ามีการเกิดปฏิกิริยาเพิ่มขึ้นจากเดิมหรือไม่
สิ่งที่ต้องระวังคือเมื่อเราบรรจุวัสดุลงไปในเครื่องปฏิกรณ์ จะทำให้แก๊สที่ไหลผ่านบริเวณแกนกลางของเครื่องปฏิกรณ์มีอุณหภูมิสูงกว่าเมื่อไม่มีวัสดุบรรจุ ดังนั้นในกรณีที่ปฏิกิริยาที่เราศึกษานั้นสามารถเกิดปฏิกิริยาเอกพันธ์ได้ การบรรจุวัสดุลงไปในเครื่องปฏิกรณ์ก็สามารถทำให้เห็นการเกิดปฏิกิริยาเกิดขึ้นเพิ่มจากเมื่อไม่มีวัสดุบรรจุได้ ทั้งนี้เป็นเพราะแก๊สที่ไหลผ่านชั้นเบดของวัสดุบรรจุจะมีอุณหภูมิสูงกว่า ทำให้เกิดปฏิกิริยาเอกพันธ์ได้มากขึ้น ไม่ใช่เป็นเพราะวัสดุบรรจุที่บรรจุเข้าไปนั้นเป็นตัวเร่งให้เกิดปฏิกิริยา
3. โปรไฟล์อุณหภูมิในเตาเผา
ในกรณีของ tubular reactor ที่เป็นท่อตรงนั้นเราจะใช้เตาเผาชนิด tube furnace ในการให้ความร้อน แต่ถ้าเป็น tubular reactor รูปตัวยู (U) มักใช้เตาเผาที่เป็น box furnace ได้
เตาเผาแบบ box furnace นั้นพอจะประมาณได้ว่าอุณหภูมิแต่ละตำแหน่งในเตาเผามีอุณหภูมิเท่ากัน แต่อุณหภูมิของแก๊สที่ไหลอยู่ในเครื่องปฏิกรณ์นั้น ในช่วงทางเข้าที่แก๊สที่ไหลเข้ามานั้นจะเย็นกว่าอุณหภูมิของเตา และจะค่อย ๆ ร้อนขึ้นเข้าหาอุณหภูมิของเตา ถ้าแก๊สนั้นมีเวลาไหลเพียงพอ (ขึ้นอยู่กับอัตราการไหล) ก่อนเข้าสู่ส่วนที่บรรจุเบดตัวเร่งปฏิกิริยา เราก็ถือได้ว่าอุณหภูมิการทำปฏิกิริยาก็คืออุณหภูมิของเตาเผานั่นเอง โดยทั่วไปเมื่อใช้ tubular reactor รูปตัวยูเรามักจะไม่วัดอุณหภูมิของเบดโดยวางเทอร์โมคับเปิลเข้าไปในเครื่องปฏิกรณ์ แต่เราจะวัดอุณหภูมิภายในเตาและถือว่าอุณหภูมิของเตาคืออุณหภูมิการทำปฏิกิริยา
รูปที่ 2 ระบบ box furnace และ tubular reactor รูปตัวยูที่ใช้กัน
เตาเผาแบบ tube furnace นั้นไม่มีประตูปิดเตากันความร้อนรั่วไหลเหมือนกับเตาเผาแบบ box furnace ในกรณีการเผาชิ้นงานที่มีความยาวนั้น (ชิ้นงานไม่โผล่พ้นความยาวเตา) เราช่วยให้อุณหภูมิภายในเตาค่อนข้างสม่ำเสมอได้โดยการใช้จุกเซรามิกอุดที่ปลายทั้งสองด้านของเตา แต่เมื่อเรานำเอาเตาดังกล่าวมาใช้กับ tubular reactor ที่เป็นท่อตรง เราจะไม่สามารถอุดช่องว่างที่ปลายทั้งสองด้านของเตาได้สนิท ทำให้มีความร้อนรั่วไหลออกทางปลายทั้งสองด้านของเตาได้ ดังนั้นอุณหภูมิภายในท่อของตัวเตาที่บริเวณปลายทั้งสองข้างของตัวเตาจะเย็นกว่าบริเวณตอนกลาง ส่วนจะมีรูปร่างอย่างไรนั้นขึ้นอยู่กับว่าวางเตาเผาในแนวนอนหรือในแนวดิ่ง
ในกรณีของเตาเผาที่วางในแนวนอนนั้น (รูปที่ 3) การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของเตาเผาค่อนข้างจะสมมาตรทั้งซ้าย-ขวา โดยอุณหภูมิทางด้านซ้ายและขวานั้นจะต่ำกว่าบริเวณตอนกลาง และจะมีส่วนหนึ่งของบริเวณตอนกลางที่พอจะถือได้ว่าเป็นบริเวณที่มีอุณหภูมิสูงสุดและสม่ำเสมอเป็นระยะทางหนึ่ง แต่ในส่วนของเครื่องปฏิกรณ์ที่มีแก๊สไหลจากซ้ายไปขวาดังแสดงในรูปนั้น บริเวณที่มีอุณหภูมิสูงสุดและสม่ำเสมอนั้นจะเคลื่อนไปทางขวาเนื่องจากแก๊สที่เข้ามาทางด้ายซ้ายมีอุณหภูมิต่ำ และแก๊สนั้นต้องใช้เวลาในการรับความร้อนจากเตาจนมีอุณหภูมิสูงขึ้นเท่ากับอุณหภูมิของเตา ส่วนบริเวณนี้จะเคลื่อนที่ไปทางด้านขวามากน้อยเท่าใดนั้นขึ้นอยู่กับอัตราการไหลของแก๊ส ยิ่งแก๊สไหลเร็วก็จะยิ่งเคลื่อนไปทางขวามากขึ้น
การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของเตาเผาที่วางในแนวดิ่ง (รูปที่ 4) จะแตกต่างไปจากกรณีการวางในแนวนอน เนื่องจากแก๊สร้อนจะลอยตัวสูงขึ้นด้านบน ดังนั้นสำหรับเตาเผาที่วางในแนวดิ่งนั้นจะมีแก๊สร้อนลอยออกทางด้านบนและแก๊สเย็นไหลเข้าทางด้านล่าง ทำให้บริเวณที่มีอุณหภูมิสูงสุดและคงที่ในเตาเผานั้นอยู่เยื้องไปทางด้านบนจากการพาความร้อนของแก๊ส การปิดช่องทางทางด้านบนของเตาเผาจะช่วยลดการสูญเสียความร้อนจากการพาความร้อนของแก๊สออกทางด้านบนได้ ส่วนการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิของแก๊สที่ไหลลงมาทางด้านบนของท่อนั้นจะคล้ายคลึงกับกรณีของเตาเผาที่วางในแนวนอน กล่าวคือแก๊สเย็นที่ไหลเข้ามาจะทำให้บริเวณที่แก๊สมีอุณหภูมิสูงสุดและคงที่นั้นเคลื่อนตัวลงด้านล่าง ยิ่งแก๊สไหลเร็วเท่าใดก็จะทำให้การเคลื่อนตัวลงด้านล่างของบริเวณดังกล่าวมากขึ้น
รูปที่ 3 ระบบ tubular furnace แนวนอน และการกระจายอุณหภูมิ เส้นอุณหภูมิของเตาและของแก๊สที่ไหลผ่านที่แสดงไว้นั้นไม่ได้เขียนตามสเกลที่เป็นจริง แต่เขียนแยกออกจากกันเพื่อความชัดเจนในการอธิบาย
รูปที่ 4 ระบบ tubular furnace แนวดิ่ง และการกระจายอุณหภูมิ เส้นอุณหภูมิของเตาและของแก๊สที่ไหลผ่านที่แสดงไว้นั้นไม่ได้เขียนตามสเกลที่เป็นจริง แต่เขียนแยกออกจากกันเพื่อความชัดเจนในการอธิบาย
ในการทดลองนั้นไม่ว่าเราจะใช้ระบบเตาเผาในแนวนอนหรือในแนวดิ่ง จำเป็นต้องหาว่าบริเวณไหนของระบบที่มีอุณหภูมิสูงสุดและสม่ำเสมอก่อน จากนั้นจึงกำหนดตำแหน่งที่จะบรรจุตัวเร่งปฏิกิริยาให้อยู่ในบริเวณดังกล่าว เพราะถ้าตำแหน่งเบดตัวเร่งปฏิกิริยาอยู่มาข้างหน้ามากเกินไป (กล่าวคืออยู่ในบริเวณที่มีอุณหภูมิต่ำที่อยู่ก่อนถึงบริเวณที่มีอุณหภูมิสูง) ผลิตภัณฑ์ที่เกิดขึ้นและสารตั้งต้นที่เหลืออยู่อาจเกิดปฏิกิริยาเอกพันธ์ได้อีกหลังจากที่เคลื่อนผ่านเบดตัวเร่งปฏิกิริยาเนื่องจากอุณหภูมิด้านทางออกของเบดสูงกว่าอุณหภูมิของเบด
ในทางกลับกันถ้าเราวางเบดตัวเร่งปฏิกิริยาอยู่ไปด้านหลังมากเกินไป (กล่าวคือแก๊สต้องไหลผ่านบริเวณที่มีอุณหภูมิสูงสุดก่อนที่จะเข้าสู่เบดตัวเร่งปฏิกิริยาที่อยู่ในบริเวณที่มีอุณหภูมิต่ำกว่า) สารตั้งต้นที่ป้อนเข้ามาก็อาจเกิดปฏิกิริยาขึ้นก่อนที่จะเข้าสู่เบดตัวเร่งปฏิกิริยาเนื่องจากได้รับความร้อนจนมีอุณหภูมิที่สูงกว่าอุณหภูมิของเบดตัวเร่งปฏิกิริยา (ดูรูปที่ 5 ประกอบ)
รูปที่ 5 ตำแหน่งการวางเบดตัวเร่งปฏิกิริยา
4. ความสูงของเบด ความยาวของบริเวณที่มีอุณหภูมิสูงสุดและคงที่ และการเกิดปฏิกิริยาเอกพันธ์
โดยทั่วไปแล้วความสูงของเบดตัวเร่งปฏิกิริยาจะต้องไม่มากกว่า (ซึ่งเป็นเรื่องปรกติที่จะน้อยกว่า แทนที่จะให้เท่ากับ) ความยาวของบริเวณที่มีอุณหภูมิสูงสุดและคงที่ในเตาเผา ในกรณีที่ไม่มีการเกิดปฏิกิริยาเอกพันธ์ใด ๆ ในช่วงอุณหภูมิที่เราทำการศึกษา เราจะวางตำแหน่งเบดตัวเร่งปฏิกิริยาไว้ ณ บริเวณใดของบริเวณที่มีอุณหภูมิสูงสุดและคงที่ในเตาเผา
คำถามที่น่าสนใจคือเมื่อเรามีเบดตัวเร่งปฏิกิริยาที่มีความสูงน้อยกว่าความยาวของบริเวณที่มีอุณหภูมิสูงสุดและคงที่ในเตาเผา และในช่วงอุณหภูมิดังกล่าวมีการเกิดปฏิกิริยาเอกพันธ์เกิดขึ้น ตำแหน่งการวางเบดตัวเร่งปฏิกิริยาในบริเวณดังกล่าวจะมีผลกระทบต่อผลการทดลองที่ได้หรือไม่ ซึ่งกรณีนี้เป็นเหตุการณ์ที่เรากำลังประสบอยู่
ปฏิกิริยาที่เรากำลังศึกษาอยู่คือปฏิกิริยา Selective Catalytic Reduction (SCR) ของ NOx ด้วย NH3 และถ้าระบบการทดลองของเรามีลักษณะดังที่กล่าวมาในย่อหน้าข้างบน ในที่นี้จะพยายาม "คาคการณ์" ผลการทดลองที่น่าจะสังเกตเห็นในแต่ละกรณี
ในปฏิกิริยาดังกล่าวแก๊สที่อยู่ในระบบประกอบด้วย NO NH3 O2 และ N2 (O2 และ N2 มาจากอากาศที่ป้อนเข้าไป) แต่เนื่องจากในช่วงอุณหภูมิที่เราทำการศึกษา N2 จะไม่เกิดปฏิกิริยาใด ๆ ดังนั้นในช่วงต่อไปจะไม่กล่าวถึงแก๊ส N2 นี้อีก
ปฏิกิริยาที่เราทราบว่าเกิดได้ในระบบของเรามี
(i) ปฏิกิริยาระหว่าง NO กับ NH3 กลายเป็น N2 และ H2O ซึ่งเป็นปฏิกิริยาที่เราต้องการ และปฏิกิริยานี้จำเป็นต้องใช้ตัวเร่งปฏิกิริยา ถ้าไม่มีตัวเร่งปฏิกิริยา ปฏิกิริยานี้ก็จะไม่เกิด
(ii) ปฏิกิริยาระหว่าง NH3 กับ O2 ทำให้ NH3 สลายตัวกลายเป็น NOx ซึ่งตัวเร่งปฏิกิริยาที่เราใช้อยู่สามารถทำให้เกิดได้ที่อุณหภูมิสูง และ
(iii) ปฏิกิริยาระหว่าง NH3 กับ O2 ทำให้ NH3 สลายตัวกลายเป็น NOx ซึ่งเป็นปฏิกิริยาเอกพันธ์ (ไม่ต้องพึ่งพาตัวเร่งปฏิกิริยา) และสงสัยว่าสามารถเกิดขึ้นได้ในระบบเราที่กำลังศึกษาและในช่วงอุณหภูมิที่เรากำลังศึกษาอยู่ด้วย
ปฏิกิริยาที่ (iii) นี้เป็นปฏิกิริยาที่ผมสงสัยว่าอาจเป็นตัวก่อปัญหาได้ ดังนั้นขอให้ลองพิจารณาระบบในรูปที่ 6 ข้างล่างซึ่งเป็นกรณีที่ความสูงของเบดนั้นน้อยกว่าความสูงของบริเวณที่มีอุณหภูมิสูงสุดและคงที่ โดยจะพิจารณากรณีที่อุณหภูมิการทำปฏิกิริยานั้นสามารถทำให้เกิดปฏิกิริยาที่ (iii) ไปพร้อม ๆ กับการเกิดปฏิกิริยาที่ (i) และ (ii)
รูปที่ 6 ผลของตำแหน่งเบดตัวเร่งปฏิกิริยาในบริเวณที่มีอุณหภูมิสูงสุดและคงที่ (ช่วงระหว่างเส้นประสีแดง) ในกรณีที่ความสูงของเบดน้อยกว่าความยาวของบริเวณดังกล่าว และมีการเกิดปฏิกิริยาเอกพันธ์เกิดขึ้นด้วย รูปซ้ายเป็นการวางเบดไว้ตอนบน ส่วนรูปขวาเป็นการวางเบดไว้ตอนล่าง
รูปซ้ายของรูปที่ 6 นั้นเป็นกรณีที่เราวางเบดไว้ทางด้านบน เมื่อสารตั้งต้นไหลเข้าไปในเบด ก็จะเกิดปฏิกิริยาที่ (i) (ii) และ (iii) พร้อม ๆ กัน ดังนั้นการกำจัด NOx จึงขึ้นอยู่กับว่าปฏิกิริยาไหนเกิดได้รวดเร็วกว่ากัน ถ้าแก๊สที่ไหลผ่านเบดออกมายังมีแอมโมเนียเหลืออยู่ ดังนั้นก็จะเกิดปฏิกิริยาที่ (iii) ทางด้านล่างของเบด ซึ่งจะทำให้ปริมาณ NOx ที่ผ่านพ้นเบดมาแล้วมีค่าเพิ่มขึ้น
แต่ถ้าเราวางเบดตัวเร่งปฏิกิริยาไว้ทางด้านล่างดังรูปขวาของรูปที่ 6 ปฏิกิริยาที่ (iii) จะเกิดขึ้นก่อน และถ้าปฏิกิริยาดังกล่าวเกิดขึ้นรุนแรง เมื่อแก๊สไหลมาถึงทางเข้าเบดก็จะไม่เหลือแอมโมเนียไม่มากหรือไม่เหลือให้ทำปฏิกิริยากับ NOx ตามปฏิกิริยาที่ (i) และถ้าเปรียบเทียบกับการวางตำแหน่งเบดทางด้านบน (รูปซ้าย) แล้ว ผมสงสัยว่าการวางตำแหน่งเบดทางด้านล่างแบบรูปขวาของรูปที่ 6 นี้น่าจะทำให้เห็นค่า NOx conversion ที่ต่ำกว่าการวางตำแหน่งเบดทางด้านบนแบบรูปซ้ายของรูปที่ 6
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือแม้ว่าปัจจัยอื่นเหมือนกันหมด แต่แตกต่างตรงที่ตำแหน่งของเบดตัวเร่งปฏิกิริยาในบริเวณที่มีอุณหภูมิสูงสุดและคงที่นั้นแตกต่างกัน ผลการทดลองก็อาจแตกต่างกันได้
ส่วนความจริงจะเป็นอย่างไรนั้นก็ต้องคอยดูกันต่อไป
ตัวเร่งปฏิกิริยาและการทดสอบ
- การกำจัดสีเมทิลีนบลู
- การคำนวณพื้นที่ผิวแบบ Single point BET
- การคำนวณพื้นที่ผิวแบบ Single point BET ตอนที่ ๒ ผลกระทบจากความเข้มข้นไนโตรเจนที่ใช้
- การจำแนกตำแหน่งที่เป็นกรด Brönsted และ Lewis บนพื้นผิวของแข็งด้วยเทคนิค Infrared spectroscopy และ Adsorbed probe molecules
- การจำแนกตำแหน่งที่เป็นเบส Brönsted และ Lewis บนพื้นผิวของแข็งด้วยเทคนิค Infrared spectroscopy และ Adsorbed probe molecules
- การใช้ข้อต่อสามทางผสมแก๊ส
- การใช้ Avicel PH-101 เป็น catalyst support
- การดูดซับบนพื้นผิวตัวเร่งปฏิกิริยาวิวิธพันธ์ ตอนที่ ๑ ขั้นตอนของการเกิดปฏิกิริยาบนตัวเร่งปฏิกิริยาวิวิธพันธ์
- การดูดซับบนพื้นผิวตัวเร่งปฏิกิริยาวิวิธพันธ์ ตอนที่ ๒ การดูดซับบนพื้นผิวของแข็ง
- การดูดซับบนพื้นผิวตัวเร่งปฏิกิริยาวิวิธพันธ์ ตอนที่ ๓ แบบจำลองไอโซเทอมการดูดซับของ Freundlich
- การดูดซับบนพื้นผิวตัวเร่งปฏิกิริยาวิวิธพันธ์ ตอนที่ ๔ แบบจำลองไอโซเทอมการดูดซับของ Langmuir
- การดูดซับบนพื้นผิวตัวเร่งปฏิกิริยาวิวิธพันธ์ ตอนที่ ๕ แบบจำลองไอโซเทอมการดูดซับของ Temkin
- การดูดซับบนพื้นผิวตัวเร่งปฏิกิริยาวิวิธพันธ์ ตอนที่ ๖ แบบจำลองไอโซเทอมการดูดซับของ BET
- การดูดซับบนพื้นผิวตัวเร่งปฏิกิริยาวิวิธพันธ์ ตอนที่ ๗ ตัวอย่างไอโซเทอมการดูดซับของ BET
- การดูดซับบนพื้นผิวตัวเร่งปฏิกิริยาวิวิธพันธ์ ตอนที่ ๘ ตัวอย่างไอโซเทอมการดูดซับของ BET (๒)
- การดูดซับบนพื้นผิวตัวเร่งปฏิกิริยาวิวิธพันธ์ ตอนที่ ๙ ตัวอย่างไอโซเทอมการดูดซับของ BET (๓)
- การเตรียมตัวอย่างตัวเร่งปฏิกิริยาแบบผงให้เป็นแผ่นบาง
- การทดสอบตัวเร่งปฏิกิริยา - ผลแตกต่างหรือไม่แตกต่าง
- การทำปฏิกิริยา ๓ เฟสใน stirred reactor
- การบรรจุ inert material ใน fixed-bed
- การปรับ WHSV
- การปั่นกวนของแข็งให้แขวนลอยในของเหลว ตอนที่ ๑ ผลของความหนาแน่นที่แตกต่าง
- การปั่นกวนของแข็งให้แขวนลอยในของเหลว ตอนที่ ๒ ขนาดของ magnetic bar กับเส้นผ่านศูนย์กลางภาชนะ
- การปั่นกวนของแข็งให้แขวนลอยในของเหลว ตอนที่ ๓ ผลของรูปร่างภาชนะ
- การผสมแก๊สอัตราการไหลต่ำเข้ากับแก๊สอัตราการไหลสูง
- การระบุชนิดโลหะออกไซด์
- การลาก smooth line เชื่อมจุด
- การเลือกค่า WHSV (Weight Hourly Space Velocity) สำหรับการทดลอง
- การวัดความเป็นกรดบนพื้นผิวของแข็ง (อีกครั้ง)
- การวัดปริมาณตำแหน่งที่เป็นกรด-เบสบนพื้นผิวของแข็งด้วย GC
- การวัดปริมาณตำแหน่งที่เป็นกรด-เบสบนพื้นผิวของแข็งด้วย GC (๒)
- การวัดพื้นที่ผิว BET
- การวิเคราะห์ความเป็นกรดบนพื้นผิวของแข็ง ด้วยเทคนิคการดูดซับ Probe molecule (๑)
- การวิเคราะห์ความเป็นกรดบนพื้นผิวของแข็ง ด้วยเทคนิคการดูดซับ Probe molecule (๒)
- การวิเคราะห์ความเป็นกรดบนพื้นผิวของแข็ง ด้วยเทคนิคการดูดซับ Probe molecule (๓)
- การวิเคราะห์ความเป็นกรดบนพื้นผิวของแข็ง ด้วยเทคนิคการดูดซับ Probe molecule (๔)
- การวิเคราะห์ความเป็นกรดบนพื้นผิวของแข็ง ด้วยเทคนิคการดูดซับ Probe molecule (๕)
- การวิเคราะห์ความเป็นกรดบนพื้นผิวของแข็ง ด้วยเทคนิคการดูดซับ Probe molecule (๖)
- การไหลผ่าน Straightening vane และโมโนลิท (Monolith)
- เก็บตกจากการประชุมวิชาการ ๒๕๕๗ ตอนที่ ๑
- เก็บตกจากการประชุมวิชาการ ๒๕๕๗ ตอนที่ ๒
- เก็บตกจากการประชุมวิชาการ ๒๕๖๘
- ข้อควรระวังเมื่อใช้ออกซิเจนความเข้มข้นสูง
- ข้อพึงระวังในการแปลผลการทดลอง
- ค่า signal to noise ratio ที่ต่ำที่สุด
- จลนศาสตร์การเกิดปฏิกิริยาบนพื้นผิวตัวเร่งปฏิกิริยาวิวิธพันธ์ ตอนที่ ๑ Volcano principle
- จลนศาสตร์การเกิดปฏิกิริยาบนพื้นผิวตัวเร่งปฏิกิริยาวิวิธพันธ์ ตอนที่ ๒ แบบจำลอง Langmuir
- จลนศาสตร์การเกิดปฏิกิริยาบนพื้นผิวตัวเร่งปฏิกิริยาวิวิธพันธ์ ตอนที่ ๓ แบบจำลอง Langmuir-Hinshelwood
- จลนศาสตร์การเกิดปฏิกิริยาบนพื้นผิวตัวเร่งปฏิกิริยาวิวิธพันธ์ ตอนที่ ๔ แบบจำลอง Eley-Rideal
- จลนศาสตร์การเกิดปฏิกิริยาบนพื้นผิวตัวเร่งปฏิกิริยาวิวิธพันธ์ ตอนที่ ๕ แบบจำลอง REDOX
- ตอบคำถามเรื่องการเตรียมตัวเร่งปฏิกิริยา
- ตัวเลขมันสวย แต่เชื่อไม่ได้
- ตัวเลขไม่ได้ผิดหรอก คุณเข้าใจนิยามไม่สมบูรณ์ต่างหาก
- ตัวไหนดีกว่ากัน (Catalyst)
- แต่ละจุดควรต่างกันเท่าใด
- ท่อแก๊สระบบ acetylene hydrogenation
- น้ำหนักหายได้อย่างไร
- ปฏิกิริยาการเติมไฮโดรเจนและการแทนที่ไฮโดรเจนของอะเซทิลีน
- ปฏิกิริยาอันดับ 1 หรือปฏิกิริยาอันดับ 2
- ปฏิกิริยาเอกพันธ์และปฏิกิริยาวิวิธพันธ์ในเบดนิ่ง
- ปั๊มสูบไนโตรเจนเหลวจากถังเก็บ
- ผลของแก๊สเฉื่อยต่อการเกิดปฏิกิริยา
- เผาในเตาแบบไหนดี (Calcination)
- พลังงานกระตุ้นกับปฏิกิริยาคายความร้อนในเครื่องปฏิกรณ์เบดนิ่ง
- เมื่อแก๊สรั่วที่ rotameter
- เมื่อพีคออกซิเจนของระบบ DeNOx หายไป
- เมื่อเส้น Desorption isotherm ต่ำกว่าเส้น Adsorption isotherm
- เมื่อ base line เครื่อง chemisorb ไม่นิ่ง
- เมื่อ Mass Flow Controller คุมการไหลไม่ได้
- เรื่องของสุญญากาศกับ XPS
- สแกนกี่รอบดี
- สมดุลความร้อนรอบ Laboratory scale fixed-bed reactor
- สรุปการประชุมวันพฤหัสบดีที่ ๗ มกราคม ๒๕๕๓
- เส้น Cu Kα มี ๒ เส้น
- เห็นอะไรไม่สมเหตุสมผลไหมครับ
- อย่าลืมดูแกน Y
- อย่าให้ค่า R-squared (Coefficient of Determination) หลอกคุณได้
- อุณหภูมิกับการไหลของแก๊สผ่าน fixed-bed
- อุณหภูมิและการดูดซับ
- BET Adsorption-Desorption Isotherm Type I และ Type IV
- ChemiSorb 2750 : การเตรียมตัวอย่างเพื่อการวัดพื้นที่ผิว BET
- ChemiSorb 2750 : การวัดพื้นที่ผิวแบบ Single point BET
- ChemiSorb 2750 : ผลของอัตราการไหลต่อความแรงสัญญาณ
- Distribution functions
- Electron Spin Resonance (ESR)
- GHSV หรือ WHSV
- in situ กับ operando
- Ion-induced reduction ขณะทำการวิเคราะห์ด้วย XPS
- MO ตอบคำถาม การทดลอง gas phase reaction ใน fixed-bed
- MO ตอบคำถาม การวัดความเป็นกรด-เบสบนพื้นผิวของแข็ง
- Monolayer หรือความหนาเพียงชั้นอะตอมเดียว
- NH3-TPD - การลาก base line
- NH3-TPD - การลาก base line (๒)
- NH3-TPD - การไล่น้ำและการวาดกราฟข้อมูล
- NH3-TPD ตอน ตัวอย่างผลการวิเคราะห์ ๑
- NH3-TPD ตอน ตัวอย่างผลการวิเคราะห์ ๒
- Physisorption isotherms Type I และ Type IV
- Scherrer's equation
- Scherrer's equation (ตอนที่ 2)
- Scherrer's equation (ตอนที่ ๓)
- Scherrer's equation (ตอนที่ ๔)
- Supported metal catalyst และ Supported metal oxide catalyst
- Temperature programmed reduction ด้วยไฮโดรเจน (H2-TPR)
- Temperature programmed reduction ด้วยไฮโดรเจน (H2-TPR) ภาค ๒
- UV-Vis - peak fitting
- XPS ตอน การแยกพีค Mo และ W
- XPS ตอน จำนวนรอบการสแกน
- XRD - peak fitting
คณิตศาสตร์สำหรับวิศวกรรมเคมี
- การแก้ปัญหาสมการเชิงอนุพันธ์สามัญปัญหาเงื่อนไขค่าเริ่มต้นด้วยระเบียบวิธี Bogacki-Shampine และ Predictor-Evaluator-Corrector-Evaluator (PECE)
- การแก้ปัญหาสมการอนุพันธ์สามัญ ด้วย ODE solvers ของ GNU Octave ตอนที่ ๑
- การแก้ปัญหาสมการอนุพันธ์สามัญ ด้วย ODE solvers ของ GNU Octave ตอนที่ ๒
- การแก้ปัญหาสมการอนุพันธ์สามัญ ด้วย ODE solvers ของ GNU Octave ตอนที่ ๓
- การแก้สมการเชิงอนุพันธ์สามัญด้วยการใช้ Integrating factor
- การแก้สมการอนุพันธ์ด้วยฟังก์ชันพหุนาม (๑)
- การแก้สมการอนุพันธ์ด้วยฟังก์ชันพหุนาม (๑๐)
- การแก้สมการอนุพันธ์ด้วยฟังก์ชันพหุนาม (๑๑)
- การแก้สมการอนุพันธ์ด้วยฟังก์ชันพหุนาม (๑๒)
- การแก้สมการอนุพันธ์ด้วยฟังก์ชันพหุนาม (๑๓)
- การแก้สมการอนุพันธ์ด้วยฟังก์ชันพหุนาม (๒)
- การแก้สมการอนุพันธ์ด้วยฟังก์ชันพหุนาม (๓)
- การแก้สมการอนุพันธ์ด้วยฟังก์ชันพหุนาม (๔)
- การแก้สมการอนุพันธ์ด้วยฟังก์ชันพหุนาม (๕)
- การแก้สมการอนุพันธ์ด้วยฟังก์ชันพหุนาม (๖)
- การแก้สมการอนุพันธ์ด้วยฟังก์ชันพหุนาม (๗)
- การแก้สมการอนุพันธ์ด้วยฟังก์ชันพหุนาม (๘)
- การแก้สมการอนุพันธ์ด้วยฟังก์ชันพหุนาม (๙)
- การคำนวณค่าฟังก์ชันพหุนาม
- การปรับเรียบ (Smoothing) ข้อมูล (ตอนที่ ๑)
- การปรับเรียบ (Smoothing) ข้อมูล (ตอนที่ ๒)
- การปรับเรียบ (Smoothing) ข้อมูล (ตอนที่ ๓)
- การหาความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร x และ y
- ข้อพึงระวังในการใช้ฟังก์ชันพหุนามในการประมาณค่าในช่วง
- ข้อพึงระวังในการใช้ฟังก์ชันพหุนามในการประมาณค่าในช่วง (๒)
- ข้อพึงระวังในการใช้ฟังก์ชันพหุนามในการประมาณค่าในช่วง (๒) (pdf)
- ข้อพึงระวังในการใช้ฟังก์ชันพหุนามในการประมาณค่าในช่วง (๓)
- ข้อสอบเก่าชุดที่ ๑
- ข้อสอบเก่าชุดที่ ๒
- ค่าคลาดเคลื่อน (error)
- จำนวนที่น้อยที่สุดที่เมื่อบวกกับ 1 แล้วได้ผลลัพธ์ไม่ใช่ 1
- โจทย์ผิดหรือถูกคะ??
- ใช่ว่าคอมพิวเตอร์จะคิดเลขถูกเสมอไป
- ตัวเลขที่เท่ากันแต่ไม่เท่ากัน
- ตัวอย่างการแก้ปัญหา สมการพีชคณิตไม่เชิงเส้นด้วยระเบียบวิธีนิวตัน-ราฟสัน
- ตัวอย่างการแก้ปัญหา สมการพีชคณิตไม่เชิงเส้นด้วยระเบียบวิธี Müller และ Inverse quadratic interpolation
- ตัวอย่างการแก้ปัญหา สมการพีชคณิตไม่เชิงเส้นด้วยระเบียบวิธี successive iteration
- ตัวอย่างการแก้ปัญหา สมการพีชคณิตไม่เชิงเส้นด้วยระเบียบวิธี successive iteration (pdf)
- ตัวอย่างการแก้ปัญหา สมการพีชคณิตไม่เชิงเส้นด้วย Function fzero ของ GNU Octave
- ตัวอย่างการคำนวณหาพื้นที่ใต้กราฟ ด้วยระเบียบวิธี Gaussian quadrature
- ตัวอย่างการคำนวณหาพื้นที่ใต้กราฟ ด้วยระเบียบวิธี Gaussian quadrature (pdf)
- ตัวอย่างผลของรูปแบบสมการต่อคำตอบของ ODE-IVP
- ตัวอย่างเพิ่มเติมบทที่ ๑
- ตัวอย่างเพิ่มเติมบทที่ ๒
- ตัวอย่างเพิ่มเติมบทที่ ๓
- ตัวอย่างเพิ่มเติมบทที่ ๔
- ทบทวนเรื่องการคูณเมทริกซ์
- ทบทวนเรื่อง Taylor's series
- ทศนิยมลงท้ายด้วยเลข 5 จะปัดขึ้นหรือปัดลง
- บทที่ ๑ การคำนวณตัวเลขในระบบทศนิยม
- บทที่ ๒ การแก้ปัญหาระบบสมการพีชคณิตเชิงเส้น
- บทที่ ๓ การแก้ปัญหาระบบสมการพีชคณิตไม่เชิงเส้น
- บทที่ ๔ การประมาณค่าในช่วง
- บทที่ ๕ การหาค่าอนุพันธ์
- บทที่ ๖ การหาค่าอินทิกรัล
- บทที่ ๗ การแก้ปัญหาสมการเชิงอนุพันธ์สามัญ ระบบสมการปัญหาเงื่อนไขค่าเริ่มต้น
- บทที่ ๘ การแก้ปัญหาสมการเชิงอนุพันธ์สามัญ ระบบสมการปัญหาเงื่อนไขค่าขอบเขต
- บทที่ ๙ การแก้ปัญหาสมการเชิงอนุพันธ์ย่อย
- ปฏิกิริยาคายความร้อนใน CSTR (ตอนที่ ๑)
- ปฏิกิริยาคายความร้อนใน CSTR (ตอนที่ ๒)
- เปรียบเทียบการแก้ปัญหาสมการพีชคณิตไม่เชิงเส้นด้วย solver ของ GNU Octave
- เปรียบเทียบการแก้ Stiff equation ด้วยระเบียบวิธี Runge-Kutta และ Adam-Bashforth
- เปรียบเทียบระเบียบวิธี Runge-Kutta
- เปรียบเทียบ Gauss elimination ที่มีและไม่มีการทำ Pivoting
- เปรียบเทียบ Gauss elimination ที่มีและไม่มีการทำ Pivoting (Spreadsheet)
- ฟังก์ชันแกมมา (Gamma function) และ ฟังก์ชันเบสเซล (Bessel function)
- เมื่อ 1 ไม่เท่ากับ 0.1 x 10
- ระเบียบวิธี Implicit Euler และ Crank-Nicholson กับ Stiff equation
- เลขฐาน ๑๐ เลขฐาน ๒ จำนวนเต็ม จำนวนจริง
- Distribution functions
- LU decomposition ร่วมกับ Iterative improvement
- LU decomposition ร่วมกับ Iterative improvement (pdf)
- Machine precision กับ Machine accuracy
เคมีสำหรับวิศวกรเคมี
- กรด-เบส : อ่อน-แก่
- กรด-เบส : อะไรควรอยู่ในบิวเรต
- กราฟการไทเทรตกรดกำมะถัน (H2SO4)
- กราฟการไทเทรตกรดกำมะถัน (H2SO4) ตอนที่ ๒
- กราฟการไทเทรตกรดที่ให้โปรตอนได้ ๒ ตัว
- กราฟการไทเทรตกรดที่ให้โปรตอนได้ ๓ ตัว
- กราฟการไทเทรตกรดไฮโปคลอรัส (HOCl)
- กราฟอุณหภูมิการกลั่นของน้ำมันเบนซิน (Gasoline distillation curve)
- กลิ่นกับอันตรายของสารเคมี
- การกำจัดสีเมทิลีนบลู
- การเกิดปฏิกิริยาเคมี
- การเจือจางไฮโดรคาร์บอนในน้ำ
- การใช้ pH probe
- การใช้ Tetraethyl lead นอกเหนือไปจากการเพิ่มเลขออกเทน
- การดูดกลืนคลื่นแสงของแก้ว Pyrex และ Duran
- การดูดกลืนแสงสีแดง
- การเตรียมสารละลายด้วยขวดวัดปริมาตร
- การเตรียมหมู่เอมีนและปฏิกิริยาของหมู่เอมีน (การสังเคราะห์ฟีนิลบิวตาโซน)
- การทำน้ำให้บริสุทธิ์สำหรับห้องปฏิบัติการ
- การทำปฏิกิริยาของโพรพิลีนออกไซด์ (1,2-Propylene oxide) ตอนที่ ๑
- การทำปฏิกิริยาของโพรพิลีนออกไซด์ (1,2-Propylene oxide) ตอนที่ ๒
- การทำปฏิกิริยาของหมู่ Epoxide ในโครงสร้าง Graphene oxide
- การทำปฏิกิริยาต่อเนื่องของผลิตภัณฑ์
- การเทของเหลวใส่บิวเรต
- การไทเทรต 1,1-Diamino-2,2-dinitroethene (FOX-7)
- การน๊อคของเครื่องยนต์แก๊สโซลีน และสารเพิ่มเลขออกเทนของน้ำมัน
- การเปลี่ยนพลาสติกเป็นน้ำมัน
- การเปลี่ยนเอทานอล (Ethanol) ไปเป็นอะเซทัลดีไฮด์ (Acetaldehyde)
- การเรียกชื่อสารเคมี
- การลดการระเหยของของเหลว
- การละลายของแก๊สในเฮกเซน (Ethylene polymerisation)
- การละลายเข้าด้วยกันของโมเลกุลมีขั้ว-ไม่มีขั้ว
- การวัดความเป็นกรดบนพื้นผิวของแข็ง (อีกครั้ง)
- การวัดปริมาณ-ความแรงของตำแหน่งที่เป็นกรดบนพื้นผิว
- การวัดปริมาณตำแหน่งที่เป็นกรด-เบสบนพื้นผิวของแข็งด้วย GC
- การวัดปริมาตรของเหลว
- การหาความเข้มข้นสารละลายมาตรฐานกรด
- การหาจุดสมมูลของการไทเทรตจากกราฟการไทเทรต
- การอ่านผลการทดลองการไทเทรตกรด-เบส
- การอ่านผลการทดลองการไทเทรตกรด-เบส (ตอนที่ ๒)
- การอ่านผลการทดลองการไทเทรตกรด-เบส (ตอนที่ ๓)
- แก๊สมัสตาร์ดกับกลิ่นทุเรียน
- ข้อควรระวังเมื่อใช้ออกซิเจนความเข้มข้นสูง
- คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้ากับงานเคมีวิเคราะห์
- ความกระด้าง (Hardness) ของน้ำกับปริมาณของแข็งทั้งหมด ที่ละลายอยู่ (Total Dissolved Solid - TDS)
- ความดันกับการเกิดปฏิกิริยาเคมี
- ความเป็นกรดของหมู่ไฮดรอกซิล (Hydroxyl group) ตอนที่ ๑
- ความเป็นกรดของหมู่ไฮดรอกซิล (Hydroxyl group) ตอนที่ ๒
- ความเป็นกรดของอัลฟาไฮโดรเจนอะตอม (alpha-Hydrogen atom) ตอน กรดบาร์บิทูริก (Barbituric acid)
- ความเป็นกรดของอัลฟาไฮโดรเจนอะตอม (alpha-Hydrogen atoms)
- ความเป็นขั้วบวกของอะตอม C และการทำปฏิกิริยาของอีพิคลอโรไฮดริน (epichlorohydrin)
- ความเป็นไอออนิก (Percentage ionic character)
- ความสัมพันธ์ระหว่างสีกับชนิดและปริมาณธาตุ
- ความสำคัญของเคมีวิเคราะห์และเคมีอินทรีย์ในงานวิศวกรรมเคมี
- ความเห็นที่ไม่ลงรอยกับโดเรมี่
- ค้างที่ปลายปิเปตไม่เท่ากัน
- คำตอบของ Cubic equation of state
- จากกลีเซอรอล (glycerol) ไปเป็นอีพิคลอโรไฮดริน (epichlorohydrin)
- จากเบนซาลดีไฮด์ (Benzaldehyde) ไปเป็นกรดเบนซิลิก (Benzilic acid)
- จากโอเลฟินส์ถึงพอลิอีเทอร์ (From olefins to polyethers)
- จาก Acetone เป็น Pinacolone
- จาก Alkanes ไปเป็น Aramids
- จาก Aniline ไปเป็น Methyl orange
- จาก Benzene ไปเป็น Butter yellow
- จาก Hexane ไปเป็น Nylon
- จาก Toluene และ m-Xylene ไปเป็นยาชา
- ดำหรือขาว
- ไดโพรพิลเอมีน (Dipropylamine)
- ตกค้างเพราะเปียกพื้นผิว
- ตอบคำถามแบบแทงกั๊ก
- ตอบคำถามให้ชัดเจนและครอบคลุม
- ตำราสอนการใช้ปิเปตเมื่อ ๓๓ ปีที่แล้ว
- ไตรเอทานอลเอมีน (Triethanolamine)
- ถ่านแก๊ส หินแก๊ส แก๊สก้อน
- ทอดไข่เจียวให้อร่อยต้องใช้น้ำมันหมู
- ทำไมน้ำกระด้างจึงมีฟอง
- ที่แขวนกล้วย
- เท่ากับเท่าไร
- โทลูอีน (Toluene)
- ไทโอนีลคลอไรด์ (Thionyl chloride)
- นานาสาระเคมีวิเคราะห์
- น้ำด่าง น้ำอัลคาไลน์ น้ำดื่ม
- น้ำดื่ม (คิดสักนิดก่อนกดแชร์ เรื่องที่ ๑๑)
- น้ำตาลทราย ซูคราโลส และยาคุมกำเนิดสำหรับผู้ชาย
- น้ำบริสุทธิ์ (Purified water)
- ไนโตรเจนเป็นแก๊สเฉื่อยหรือไม่
- บีกเกอร์ 250 ml
- แบบทดสอบก่อนเริ่มเรียนวิชาเคมีสำหรับนิสิตวิศวกรรมเคมี
- ปฏิกิริยาการเติมไฮโดรเจนและการแทนที่ไฮโดรเจนของอะเซทิลีน (Hydrogenation and replacement of acetylenic hydrogen)
- ปฏิกิริยาการผลิต Vinyl chloride
- ปฏิกิริยาการออกซิไดซ์
- ปฏิกิริยา alpha halogenation และการสังเคราะห์ tertiary amine
- ปฏิกิริยา ammoxidation หมู่เมทิลที่เกาะอยู่กับวงแหวนเบนซีน
- ปฏิกิริยา Benzene alkylation
- ปฏิกิริยา Dehydroxylation
- ปฏิกิริยา Electrophilic substitution ของ m-Xylene
- ปฏิกิริยา Nucleophilic substitution ของสารประกอบ Organic halides
- ประโยชน์ของ Nitric oxide ในทางการแพทย์
- ปัญหาการสร้าง calibration curve ของ ICP
- ปัญหาการหาความเข้มข้นสารละลายกรด
- ปัญหาของไฮโดรคาร์บอนไม่อิ่มตัว
- โป้ง ชี้ กลาง นาง ก้อย
- ผลของค่าพีเอชต่อสีของสารละลายเปอร์แมงกาเนต
- ผลของอุณหภูมิต่อการแทนที่ตำแหน่งที่ 2 บนวงแหวนเบนซีน
- ฝึกงานภาคฤดูร้อน ๒๕๕๓ ตอนที่ ๑ อธิบายศัพท์
- พีคเหมือนกันก็แปลว่ามีหมู่ฟังก์ชันเหมือนกัน
- ฟลูออรีนหายไปไหน
- ฟอสฟอรัสออกซีคลอไรด์ (Phosphorus Oxychloride)
- ฟีนอล แอซีโทน แอสไพริน พาราเซตามอล สิว โรคหัวใจ และงู
- มุมมองที่ถูกจำกัด
- เมทานอลกับเจลล้างมือ
- เมื่อคิดในรูปของ ...
- เมื่อตำรายังพลาดได้ (Free radical polymerisation)
- เมื่อน้ำเพิ่มปริมาตรเองได้
- เมื่อหมู่คาร์บอนิล (carbonyl) ทำปฏิกิริยากันเอง
- รังสีเอ็กซ์
- เรื่องของสไตรีน (คิดสักนิดก่อนกด Share เรื่องที่ ๑)
- แลปการไทเทรตกรด-เบส ภาคการศึกษาต้น ปีการศึกษา ๒๕๖๐
- ศัพท์เทคนิค-เคมีวิเคราะห์
- สรุปคำถาม-ตอบการสอบวันศุกร์ที่ ๓ เมษายน ๒๕๕๒
- สีหายไม่ได้หมายความว่าสารหาย
- เสถียรภาพของอนุมูลอิสระ (๑)
- เสถียรภาพของอนุมูลอิสระ (๒)
- เสถียรภาพของอนุมูลอิสระ (๓)
- หมู่ทำให้เกิดสี (chromophore) และหมู่เร่งสี (auxochrome)
- หลอกด้วยข้อสอบเก่า
- อะเซทิลีน กลีเซอรีน และไทออล
- อะโรมาติก : การผลิต การใช้ประโยชน์ และปัญหา
- อัลคิลเอมีน (Alkyl amines) และ อัลคิลอัลคานอลเอมีน (Alkyl alkanolamines)
- อีเทอร์กับการเกิดสารประกอบเปอร์ออกไซด์
- อุณหภูมิ อัตราการเกิดปฏิกิริยา สมดุลเคมี
- เอา 2,2-dimethylbutane (neohexane) ไปทำอะไรดี
- เอาเบนซีนกับเอทานอลไปทำอะไรดี
- เอา isopentane ไปทำอะไรดี
- เอา maleic anhydride ไปทำอะไรดี
- เอา pentane ไปทำอะไรดี
- ไอโซเมอร์ (Isomer)
- ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์กับพอลิโพรพิลีน
- Acentric factor
- Aldol condensation กับ Cannizzaro reaction
- Aldol condesation ระหว่าง Benzaldehyde กับ Acetone
- A-Level เคมี ปี ๖๖ ข้อพอลิเอทิลีน
- A-Level เคมี ปี ๖๘ ข้อการแยกสารด้วยการกลั่น
- Beilstein test กับเตาแก๊สที่บ้าน
- Benzaldehyde กับปฏิกิริยา Nitroaldol
- BOD และ COD
- BOD หรือ DO
- Carbocation - การเกิดและเสถียรภาพ
- Carbocation - การทำปฏิกิริยา
- Carbocation ตอนที่ ๓ การจำแนกประเภท-เสถียรภาพ
- Chloropicrin (Trichloronitromethane)
- Compressibility factor กับ Joule-Thomson effect
- Conjugated double bonds กับ Aromaticity
- Cubic centimetre กับ Specific gravity
- Dehydration, Esterification และ Friedle-Crafts Acylation
- Electrophilic addition ของอัลคีน
- Electrophilic addition ของอัลคีน (๒)
- Electrophilic addition ของ conjugated diene
- Electrophilic substitution ตำแหน่งที่ 1 บนวงแหวนเบนซีน
- Electrophilic substitution ตำแหน่งที่ 2 บนวงแหวนเบนซีน ตอน ผลของอุณหภูมิการทำปฏิกิริยา
- Electrophilic substitution ตำแหน่งที่ 3 บนวงแหวนเบนซีน
- Electrophilic substitution ตำแหน่งที่ 3 บนวงแหวนเบนซีน ตอน การสังเคราะห์ 2,4-Dinitrophenol
- Esterification of hydroxyl group
- Gibbs Free Energy กับการเกิดปฏิกิริยาและการดูดซับ
- Halogenation ของ alkane
- Halogenation ของ alkane (๒)
- HCl ก่อน ตามด้วย H2SO4 แล้วจึงเป็น HNO3
- I2 ในสารละลาย KI กับไฮโดรคาร์บอนอิ่มตัว
- Infrared spectrum interpretation
- Interferometer
- IR spectra ของโทลูอีน (Toluene) เอทิลเบนซีน (Ethylbenzene) โพรพิลเบนซีน (Propylbenzene) และคิวมีน (Cumene)
- IR spectra ของเบนซีน (Benzene) และไซลีน (Xylenes)
- IR spectra ของเพนทีน (Pentenes)
- Kjeldahl nitrogen determination method
- Malayan emergency, สงครามเวียดนาม, Seveso และหัวหิน
- MO ตอบคำถาม การวัดความเป็นกรด-เบสบนพื้นผิวของแข็ง
- Nucleophile กับ Electrophile
- PAT2 เคมี ปี ๖๕ ข้อการไทเทรตกรดเบส
- Peng-Robinson Equation of State
- Phenol, Ether และ Dioxin
- Phospharic acid กับ Anhydrous phosphoric acid และ Potassium dioxide
- pH Probe
- Picric acid (2,4,6-Trinitrophenol) และ Chloropicrin
- PV diagram กับการอัดแก๊ส
- Pyrophoric substance
- Reactions of hydroxyl group
- Reactions of hydroxyl group (ตอนที่ ๒)
- Redlich-Kwong Equation of State
- Redlich-Kwong Equation of State (ตอนที่ ๒)
- Soave-Redlich-Kwong Equation of State
- Standard x-ray powder diffraction pattern ของ TiO2
- Sulphur monochloride และ Sulphur dichloride
- Thermal cracking - Thermal decomposition
- Thiols, Thioethers และ Dimethyl thioether
- Van der Waals' Equation of State
- Vulcanisation
ประสบการณ์ Gas chromatograph/Chromatogram
- 6 Port sampling valve
- กระดาษความร้อน (thermal paper) มี ๒ หน้า
- การแก้ปัญหา packing ในคอลัมน์ GC อัดตัวแน่น
- การฉีดแก๊สเข้า GC ด้วยวาล์วเก็บตัวอย่าง
- การฉีดตัวอย่างที่เป็นของเหลวด้วย syringe
- การฉีด GC
- การใช้ syringe ฉีดตัวอย่างที่เป็นแก๊ส
- การดึงเศษท่อทองแดงที่หักคา tube fitting ออก
- การตั้งอุณหภูมิคอลัมน์ GC
- การติดตั้ง Integrator ให้กับ GC-8A เพื่อวัด CO2
- การเตรียมคอลัมน์ GC ก่อนการใช้งาน
- การปรับความสูงพีค GC
- การวัดปริมาณไฮโดรเจนด้วย GC-TCD
- ข้อสังเกตเกี่ยวกับ FPD (ตอนที่ ๒)
- ข้อสังเกตเกี่ยวกับ FPD (Flame Photometric Detector)
- โครมาโทกราฟแยกสารได้อย่างไร
- ชนิดคอลัมน์ GC
- ตรวจโครมาโทแกรม ก่อนอ่านต้วเลข
- ตัวอย่างการแยกพีค GC ที่ไม่เหมาะสม
- ทำความรู้จักกับ Chromatogram ตอนที่ ๑
- ทำความรู้จักกับ Chromatogram ตอนที่ ๒
- ทำความรู้จักกับ Chromatogram ตอนที่ ๓
- ทำความรู้จักกับ Chromatogram ตอนที่ ๔
- ทำความรู้จักกับ Chromatogram ตอนที่ ๕
- ทำความรู้จักกับ Chromatogram ตอนที่ ๖
- ทำไมพีคจึงลากหาง
- ผลกระทบของน้ำที่มีต่อการวัดคาร์บอนไดออกไซด์ ตอนที่ ๑
- ผลกระทบของน้ำที่มีต่อการวัดคาร์บอนไดออกไซด์ ตอนที่ ๒
- ผลกระทบของน้ำที่มีต่อการวัดคาร์บอนไดออกไซด์ ตอนที่ ๓
- พีคที่เกิดจากปฏิกิริยาระหว่างน้ำกับ packing ในคอลัมน์ GC
- พีคประหลาดจากการใช้อากาศน้อยไปหน่อย
- มันไม่เท่ากันนะ
- เมื่อความแรงของพีค GC ลดลง
- เมื่อจุดไฟ FID ไม่ได้
- เมื่อพีค GC หายไป
- เมื่อพีค GC ออกมาผิดเวลา
- เมื่อพีค GC ออกมาผิดเวลา(อีกแล้ว)
- เมื่อพีค HPLC ออกมาผิดเวลา
- เมื่อเพิ่มความดันอากาศให้กับ FID ไม่ได้
- เมื่อ GC ถ่านหมด
- เมื่อ GC มีพีคประหลาด
- ลากให้ผ่านหรือไม่ให้ผ่าน
- สัญญาณจาก carrier gas รั่วผ่าน septum
- สารพัดปัญหา GC
- สิ่งปนเปื้อนในน้ำ DI
- สิ่งปนเปื้อนในน้ำ DI (ตอนที่ ๒)
- Chromatograph principles and practices
- Flame Ionisation Detector
- GC-2014 ECD & PDD ตอนที่ ๗ ข้อสังเกตเกี่ยวกับ ECD (Electron Capture Detector)
- GC detector
- GC - peak fitting ตอนที่ ๑ การหาพื้นที่พีคที่เหลื่อมทับ
- GC principle
- LC detector
- LC principle
- MO ตอบคำถาม การแยกพีค GC ด้วยโปรแกรม fityk
- MO ตอบคำถาม สารพัดปัญหาโครมาโทแกรม
- Relative Response Factors (RRF) ของสารอินทรีย์ กับ Flame Ionisation Detector (FID)
- Thermal Conductivity Detector
- Thermal Conductivity Detector ภาค 2
สินค้าที่ใช้ได้สองทาง (Dual-Use Items - DUI)
- การก่อการร้ายด้วยแก๊สซาริน (Sarin) ในรถไฟใต้ดินกรุงโตเกียว MO Memoir : Friday 6 September 2567
- การผลิตกรดไนตริกความเข้มข้นสูง
- การวินิจฉัยการเข้าข่ายสินค้าที่ใช้ได้สองทาง ตัวอย่างที่ ๑๐ ฟังก์ชันเข้ารหัสรีโมทเครื่องปรับอากาศ
- การวินิจฉัยการเข้าข่ายสินค้าที่ใช้ได้สองทาง ตัวอย่างที่ ๑๑ License key
- การวินิจฉัยการเข้าข่ายสินค้าที่ใช้ได้สองทาง ตัวอย่างที่ ๑๒ สารเคมี (Chemicals)
- การวินิจฉัยการเข้าข่ายสินค้าที่ใช้ได้สองทาง ตัวอย่างที่ ๑๓ ไม่ตรงตามตัวอักษร (สารเคมี)
- การวินิจฉัยการเข้าข่ายสินค้าที่ใช้ได้สองทาง ตัวอย่างที่ ๑๔ ไม่ตรงตามตัวอักษร (Heat exchanger)
- การวินิจฉัยการเข้าข่ายสินค้าที่ใช้ได้สองทาง ตัวอย่างที่ ๑๕ Sony PlayStation
- การวินิจฉัยการเข้าข่ายสินค้าที่ใช้ได้สองทาง ตัวอย่างที่ ๑๖ เส้นใยคาร์บอน (Carbon fibre)
- การวินิจฉัยการเข้าข่ายสินค้าที่ใช้ได้สองทาง ตัวอย่างที่ ๑๗ The Red Team : Centrifugal separator
- การวินิจฉัยการเข้าข่ายสินค้าที่ใช้ได้สองทาง ตัวอย่างที่ ๑๘ The Blue Team : Spray drying equipment
- การวินิจฉัยการเข้าข่ายสินค้าที่ใช้ได้สองทาง ตัวอย่างที่ ๑๙ เครื่องสลายนิ่วในไตด้วยคลื่นกระแทก (Lithotripter)
- การวินิจฉัยการเข้าข่ายสินค้าที่ใช้ได้สองทาง ตัวอย่างที่ ๑ ตัวเก็บประจุ (Capacitor)
- การวินิจฉัยการเข้าข่ายสินค้าที่ใช้ได้สองทาง ตัวอย่างที่ ๒๐ เรซินแลกเปลี่ยนไอออน (Ion-exchange resin)
- การวินิจฉัยการเข้าข่ายสินค้าที่ใช้ได้สองทาง ตัวอย่างที่ ๒๑ ไม่ตรงตามตัวอักษร (Aluminium tube)
- การวินิจฉัยการเข้าข่ายสินค้าที่ใช้ได้สองทาง ตัวอย่างที่ ๒๒ เครื่องกระตุกหัวใจด้วยไฟฟ้า (Defibrillator)
- การวินิจฉัยการเข้าข่ายสินค้าที่ใช้ได้สองทาง ตัวอย่างที่ ๒๓ เครื่องยนต์ดีเซล
- การวินิจฉัยการเข้าข่ายสินค้าที่ใช้ได้สองทาง ตัวอย่างที่ ๒๔ มุมมองจากทางด้านเทคนิค
- การวินิจฉัยการเข้าข่ายสินค้าที่ใช้ได้สองทาง ตัวอย่างที่ ๒๕ Printed Circuit Board (PCB)
- การวินิจฉัยการเข้าข่ายสินค้าที่ใช้ได้สองทาง ตัวอย่างที่ ๒ เครื่องแลกเปลี่ยนความร้อน (Heat Exchanger)
- การวินิจฉัยการเข้าข่ายสินค้าที่ใช้ได้สองทาง ตัวอย่างที่ ๓ เครื่องแปลงความถี่ไฟฟ้า (Frequency Changer)
- การวินิจฉัยการเข้าข่ายสินค้าที่ใช้ได้สองทาง ตัวอย่างที่ ๔ อุปกรณ์เข้ารหัส (Encoding Device)
- การวินิจฉัยการเข้าข่ายสินค้าที่ใช้ได้สองทาง ตัวอย่างที่ ๕ Insulated Gate Bipolar Transistor (IGBT)
- การวินิจฉัยการเข้าข่ายสินค้าที่ใช้ได้สองทาง ตัวอย่างที่ ๖ Toshiba-Kongsberg Incident
- การวินิจฉัยการเข้าข่ายสินค้าที่ใช้ได้สองทาง ตัวอย่างที่ ๗ รายงานผลการทดสอบอุปกรณ์
- การวินิจฉัยการเข้าข่ายสินค้าที่ใช้ได้สองทาง ตัวอย่างที่ ๘ Drawing อุปกรณ์
- การวินิจฉัยการเข้าข่ายสินค้าที่ใช้ได้สองทาง ตัวอย่างที่ ๙ ซอร์ฟแวร์ควบคุมการทำงานอุปกรณ์
- ความลับแตกเพราะทัวร์ผู้นำ (Pressure transducer)
- เครื่องแลกเปลี่ยนความร้อนสำหรับเตาปฏิกรณ์นิวเคลียร์
- แคลเซียม, แมกนีเซียม และบิสมัท กับการผลิตอาวุธทำลายล้างสูง
- สินค้าที่ใช้ได้สองทาง (Dual-Use Items : DUI) ตอนที่ ๑
- สินค้าที่ใช้ได้สองทาง (Dual-Use Items : DUI) ตอนที่ ๑๐
- สินค้าที่ใช้ได้สองทาง (Dual-Use Items : DUI) ตอนที่ ๑๑
- สินค้าที่ใช้ได้สองทาง (Dual-Use Items : DUI) ตอนที่ ๒
- สินค้าที่ใช้ได้สองทาง (Dual-Use Items : DUI) ตอนที่ ๓
- สินค้าที่ใช้ได้สองทาง (Dual-Use Items : DUI) ตอนที่ ๔
- สินค้าที่ใช้ได้สองทาง (Dual-Use Items : DUI) ตอนที่ ๕
- สินค้าที่ใช้ได้สองทาง (Dual-Use Items : DUI) ตอนที่ ๖
- สินค้าที่ใช้ได้สองทาง (Dual-Use Items : DUI) ตอนที่ ๗
- สินค้าที่ใช้ได้สองทาง (Dual-Use Items : DUI) ตอนที่ ๘
- สินค้าที่ใช้ได้สองทาง (Dual-Use Items : DUI) ตอนที่ ๙
- สินค้าที่ไม่ใช่ DUI ที่เป็นสินค้า DUI - ไตรบิวทิลฟอสเฟต (Tributyl phosphate)
- สินค้าที่ไม่ใช่ DUI ที่เป็นสินค้า DUI - Karl Fischer moisture equipment
API 2000 Venting Atmospheric and Low-Pressure Storage Tanks
- API 2000 Venting Atmospheric and Low-Pressure Storage Tanks (ตอนที่ ๑)
- API 2000 Venting Atmospheric and Low-Pressure Storage Tanks (ตอนที่ ๑๐)
- API 2000 Venting Atmospheric and Low-Pressure Storage Tanks (ตอนที่ ๑๑)
- API 2000 Venting Atmospheric and Low-Pressure Storage Tanks (ตอนที่ ๑๒)
- API 2000 Venting Atmospheric and Low-Pressure Storage Tanks (ตอนที่ ๑๓)
- API 2000 Venting Atmospheric and Low-Pressure Storage Tanks (ตอนที่ ๑๔)
- API 2000 Venting Atmospheric and Low-Pressure Storage Tanks (ตอนที่ ๑๕)
- API 2000 Venting Atmospheric and Low-Pressure Storage Tanks (ตอนที่ ๑๖)
- API 2000 Venting Atmospheric and Low-Pressure Storage Tanks (ตอนที่ ๑๗)
- API 2000 Venting Atmospheric and Low-Pressure Storage Tanks (ตอนที่ ๑๘)
- API 2000 Venting Atmospheric and Low-Pressure Storage Tanks (ตอนที่ ๑๙)
- API 2000 Venting Atmospheric and Low-Pressure Storage Tanks (ตอนที่ ๒)
- API 2000 Venting Atmospheric and Low-Pressure Storage Tanks (ตอนที่ ๒๐)
- API 2000 Venting Atmospheric and Low-Pressure Storage Tanks (ตอนที่ ๒๑)
- API 2000 Venting Atmospheric and Low-Pressure Storage Tanks (ตอนที่ ๒๒)
- API 2000 Venting Atmospheric and Low-Pressure Storage Tanks (ตอนที่ ๓)
- API 2000 Venting Atmospheric and Low-Pressure Storage Tanks (ตอนที่ ๔)
- API 2000 Venting Atmospheric and Low-Pressure Storage Tanks (ตอนที่ ๕)
- API 2000 Venting Atmospheric and Low-Pressure Storage Tanks (ตอนที่ ๖)
- API 2000 Venting Atmospheric and Low-Pressure Storage Tanks (ตอนที่ ๗)
- API 2000 Venting Atmospheric and Low-Pressure Storage Tanks (ตอนที่ ๘)
- API 2000 Venting Atmospheric and Low-Pressure Storage Tanks (ตอนที่ ๙)
โน๊ตเพลง
- "กำลังใจ" และ "ถึงเพื่อน"
- "ใกล้รุ่ง" และ "อาทิตย์อับแสง"
- "คนดีไม่มีวันตาย" "หนึ่งในร้อย (A Major) และ "น้ำตาแสงใต้ (A Major)"
- "ความฝันอันสูงสุด" และ "ยามเย็น"
- "จงรัก" และ "ความรักไม่รู้จบ"
- "ฉันยังคอย" และ "ดุจบิดามารดร"
- "ชาวดง" และ "ชุมนุมลูกเสือไทย"
- "ตัดใจไม่ลง" และ "ลาสาวแม่กลอง"
- "เติมใจให้กัน" และ "HOME"
- "แต่ปางก่อน" "ความรักไม่รู้จบ" "ไฟเสน่หา" และ "แสนรัก"
- "ทะเลใจ" "วิมานดิน" และ "เพียงแค่ใจเรารักกัน"
- "ที่สุดของหัวใจ" "รักล้นใจ" และ "รักในซีเมเจอร์"
- "ธรณีกรรแสง" และ "Blowin' in the wind"
- "นางฟ้าจำแลง" "อุษาสวาท" และ "หนี้รัก"
- "แผ่นดินของเรา" และ "แสงเทียน"
- "พรปีใหม่" และ "สายฝน"
- "พี่ชายที่แสนดี" "หลับตา" และ "หากรู้สักนิด"
- เพลงของโรงเรียนเซนต์คาเบรียล
- "มหาจุฬาลงกรณ์" "ยูงทอง" และ "ลาภูพิงค์"
- "ยังจำไว้" "บทเรียนสอนใจ" และ "ความในใจ"
- "ร่มจามจุรี" และ "เงาไม้"
- "ลมหนาว" และ "ชะตาชีวิต"
- "ลองรัก" และ "วอลซ์นาวี"
- "ลาแล้วจามจุรี"
- "วันเวลา" และ "โลกทั้งใบให้นายคนเดียว"
- "วิหคเหินลม" และ "พรานทะเล"
- "สายชล" และ "เธอ"
- "สายใย" และ "ความรัก"
- "สายลม" และ "ไกลกังวล"
- "สายลมเหนือ" และ "เดียวดายกลางสายลม"
- "หน้าที่ทหารเรือ" และ "ทหารพระนเรศวร"
- "หนึ่งในร้อย" และ "น้ำตาแสงใต้"
- "หากันจนเจอ" และ "ลมหายใจของกันและกัน"