วันพฤหัสบดีที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ยังอุตส่าห์เปิดได้อีก MO Memoir : Thursday 1 December 2554


 
ตอนที่หนีน้ำออกมานั้นก็ได้ถอด hard disk ออกจากคอมพิวเตอร์ เอาตัวเครื่องไปไว้บนชั้นวางของ ส่วนตัวจอนั้นวางทิ้งไว้บนโต๊ะคอมพิวเตอร์ (เพราะคิดว่าคงไม่เป็นอะไร)
 
ที่ไหนได้ปรากฏว่าน้ำที่ท่วมในตัวบ้านมีระดับสูงเกิดกว่าที่คาด โต๊ะคอมพิวเตอร์ที่ทำจากเศษไม้อัดกาวเป็นแผ่น ๆ แล้วนำมาประกอบเข้าด้วยกัน พอต้องแช่น้ำก็เลยเปื่อยยุ่ย รับน้ำหนัก (ทั้งจอและสิ่งของอื่นที่ขนหนีน้ำ) ไม่ไหว ยุบตัวลงมา ผลก็คือจอคอมพิวเตอร์ตกลงมานอนจะแคงแช่น้ำอยู่กว่าครึ่งตัว
 
พี่ชายที่เข้าไปถึงบ้านก่อน (ตอนนั้นน้ำเพิ่งจะลดลงได้เล็กน้อย หน้าบ้านยังอยู่ที่ระดับต้นขา) ได้เก็บจอขึ้นมาจากน้ำ มาวางตั้งไว้ในที่แห้ง จากวันที่เก็บขึ้นมาจนถึงวันนี้ก็รวม ๓ สัปดาห์
 
ตอนที่เข้าไปทำความสะอาดบ้านก็ทำใจไว้แล้วว่าคงต้องโยนมันทิ้งไป แล้วไปหาจอแบนมาใช้แทน แต่ก็ไม่ได้โยนมันทิ้งสักที จนกระทั่งเช้าวันนี้ นึกยังไงก็ไม่รู้ ลองเสี่ยงดวงเอามันมาลองเปิดดู

รูปที่ ๑ คราบสกปรกที่เกาะอยู่บนตัวจอก่อนที่จะทำความสะอาด

ตอนแรกก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ก็เลยเอามันไปทดสอบนอกบ้าน เลือกมุมวางจอกับตำแหน่งปลั๊กไฟให้มีกำแพงบ้านบังอยู่ (เผื่อมันจะระเบิดหรือเกิดไฟไหม้) เนื่องจากปุ่มเปิด-ปิดมันเสียและค้างอยู่ในตำแหน่งเปิดอยู่แล้ว ก็เลยไม่ต้องทำอะไรมาก เพียงแค่เสี่ยงดวงลองเสียบปลั๊กดู
 
ปรากฏว่าเปิดจอติด
 
จากนั้นก็ลองเอาคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คมาต่อ เพื่อดูว่ายังแสดงผลได้อยู่หรือเปล่า ปรากฏว่ายังสามารถแสดงผลได้ (ตามรูปที่ ๑) แต่ในช่วงแรกภาพมีการกระพริบอยู่บ้างเป็นบางครั้ง ก็เลยเปิดทิ้งไว้สักพัก กะว่าถ้าวงจรไฟฟ้ามันทำงาน ก็คงจะเกิดความร้อน ซึ่งน่าจะทำให้ความชื้น (ถ้ายังมีหลงเหลืออยู่) ระเหยออกไปจนหมด
 
คืนนี้มานั่งพิมพ์ Memoir ฉบับนี้ก็ใช้จอตัวนี้แหละ
 
ที่เขียนมาเล่าสู่กันฟังก็เพราะว่าตอนแรกก็ไม่ได้คาดหวังว่าจอ CRT ที่แช่น้ำขนาดนี้จะสามารถกลับมาใช้งานได้อีก