วันพฤหัสบดีที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ก่อนจะเลือนหายไปจากความทรงจำ ตอนที่ ๑๐ เดือนนี้เมื่อปีที่แล้ว MO Memoir : Thursday 12 May 2554

ช่วงปิดเทอมทีไรเป็นต้องออกไปตรวจเยี่ยมนิสิตฝึกงานทุกที ปีที่แล้วก็ต้องไปตรวจที่ศรีราชา จำได้ว่าเมื่อปีที่แล้วตอนเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๓ วันพฤหัสบดีที่ ๑๓ ก็ได้ไปตรวจเยี่ยมนิสิตที่ฝึกงานอยู่ที่โรงกลั่นน้ำมันที่ศรีราชา ผมนัดนิสิตเอาไว้ตอนเย็นหลังเลิกงานเพื่อจะพาพวกเขาไปกินข้าวเย็นด้วยกัน จะได้คุยกันได้เรื่อย ๆ สบาย ๆ ที่ร้านอาหารริมทะเล


ปรากฏว่าก่อนไปถึงหอพักที่นิสิตพักอยู่ ตอนเวลา ๑๕.๑๖ น ก็มีข้อความจากมหาวิทยาลัยส่งมาถึงความว่า "ถ.พญาไทจะถูกปิดเวลา ๑๘.๐๐ น ขอให้ทุกคนออกจากจุฬาฯโดยด่วน"

เวลาประมาณ ๑๙.๓๐ น ก็มีคนถูกยิงที่ศีรษะบริเวณแยกศาลาแดงตรงข้ามประตูทางเข้าโรงพยาบาลจุฬา คงไม่ต้องบอก ณ ว่าใครถูกยิง ตอนนั้นผมนั่งกินข้าวกับนิสิตอยู่ที่ร้านอาหารริมทะเล ได้ทราบข่าวจาก SMS ที่สำนักข่าวแห่งหนึ่งส่งมาให้

ข่าวดังกล่าวยังทยอยส่งมาเรื่อย ๆ ผมยังนั่งคุยกันตรงนั้นโดยตั้งข้อสังเกตว่า โดนยิงหน้าโรงพยาบาลจุฬา แต่กลับไปเข้าโรงพยายาลหัวเฉียว ซึ่งท้ายที่สุดแล้วก็ต้องส่งไปผ่าตัดสมองต่อที่โรงพยาบาลวชิระ ทั้ง ๆ ที่ตรงที่เกิดเหตุนั้นก็มีโรงพยาบาลจุฬาซึ่งเป็นโรงพยาบาลใหญ่สามารถผ่าตัดสมองได้ทันทีอยู่ที่ฝั่งตรงข้ามถนน แถมใกล้ ๆ กันก็ยังมีโรงพยาบาลตำรวจที่สามารถทำการผ่าตัดใหญ่เช่นนี้ได้เช่นเดียวกัน แต่ผู้นำส่งกลับขับรถพาไปที่อื่น ไม่พาเข้าโรงพยาบาลจุฬา ขับผ่านโรงพยาบาลตำรวจ กลับไปส่งโรงพยาบาลหัวเฉียวแทนที่อยู่ห่างออกไปแทน

ถ้าใครสงสัยว่าทำไมถึงไม่เข้าโรงพยาบาลใกล้ ๆ ก็ลองกลับไปดูเหตุการณ์ก่อนหน้านั้นก็คงจะหาคำตอบได้เอง

ครั้งพอเวลา ๒๑.๐๙ น ก็มีข้อความส่งมาจากมหาวิทยาลัยอีกว่า "พรุ่งนี้ศุกร์ ๑๔ พ.ค. จุฬาฯหยุดดำเนินการ"


พอวันศุกร์ที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๓ ก็มีข้อความส่งมาจากผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตจุฬาฯฝ่ายประถม ความว่า "ขอยืนยันวันเปิดเรียนคือ ๒๔ พ.ค.๕๓/วันปฐมนิเทศคือ ๑๙-๒๑ พ.ค.๕๓ หากมีการเปลี่ยนแปลงจะแจ้งให้ทราบภายใน ๑๗ พ.ค. ๕๓ หรือติดตามที่ www.satitchula.org"

วันเดียวกันเวลา ๑๕.๕๐ น ก็มีข้อความส่งมาจากมหาวิทยาลัยความว่า "วันที่ ๑๕-๑๖ พ.ค. จุฬาฯปิดทำการและงดทำกิจกรรมทุกชนิดในเขตมหาวิทยาลัย"


วันอาทิตย์ที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๕๓ เวลา ๑๕.๓๑ น ก็มีข้อความส่งมาอีกว่า "วันจันทร์ ๑๗ พ.ค. จุฬาฯปิดทำการ เช็คความคืบหน้าได้ทุกวันที่เว็บจุฬาฯ"


เช้าวันจันทร์ที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๕๓ เวลา ๙.๑๘ น ก็มีข้อความส่งมาจากผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตจุฬาฯฝ่ายประถม ความว่า "ขอเลื่อนวันปฐมนิเทศผู้ปกครองนักเรียนร.ร.สาธิตจุฬาฯฝ่ายประถมในวันที่ ๑๙-๒๑ พ.ค. ๕๓ ออกไปโดยไม่มีกำหนด ส่วนวันเปิดเรียนยังเหมือนเดิมคือ ๒๔ พ.ค. ๕๓"


บ่ายวันอังคารที่ ๑๘ พฤษภาคม ๒๕๕๓ เวลา ๑๔.๓๘ น ก็มีข้อความส่งมาจากมหาวิทยาลัยอีก ความว่า "วันพุธ ๑๙-ศุกร์ ๒๑ พ.ค. จุฬาฯปิดทำการ เช็คความคืบหน้าได้ที่เว็บจุฬาฯ"


เช้าวันพุธที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๓ เวลา ๙.๔๑ น ก็มีข้อความส่งมาจากผู้อำนวยการโรงเรียนสาธิตจุฬาฯฝ่ายประถม ความว่า "ร.ร.สาธิตจุฬาฯฝ่ายประถมเลื่อนเปิดเรียนเป็นวันจันทร์ที่ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๓"

ช่วงสายวันศุกร์ที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๕๓ เวลา ๑๐.๓๓ น ก็มีข้อความส่งมาจากมหาวิทยาลัยอีก ความว่า "จุฬาฯปิดทำการเพิ่มวันที่ ๒๒-๒๓ พ.ค. ๕๓ และงดการเข้าพื้นที่เพื่อความปลอดภัย


ท้ายสุดตอนดึกวันเสาร์ที่ ๒๒ พฤษภาคม ๒๕๕๓ เวลา ๒๑.๓๓ น ก็มีข้อความส่งมาจากมหาวิทยาลัยอีก ความว่า "จุฬาฯเปิดทำการวันจันทร์ ๒๔ พ.ค. ดูข้อมูลการเปิดประตูบนเว็บจุฬาฯ"


ข้อความที่เขียนมาข้างต้นทั้งหมด เป็นข้อความที่ถูกบันทึกเอาไว้ในโทรศัพท์ของผม ด้วยเกรงว่ามันจะหายไป เลยต้องขอนำมาบันทึกไว้กันลืม เพราะพรุ่งนี้ก็จะครบรอบปีของเหตุการณ์เมื่อปีที่แล้ว


ในประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยของเรานั้น ผมคิดว่าเหตุการณ์เมื่อฤดูร้อนปีที่แล้วเป็นเหตุการณ์รุนแรงที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในบริเวณรอบ ๆ มหาวิทยาลัย และมีเหตุการณ์ที่ไม่เคยได้ยินว่าเคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศของเรา ไม่ว่าจะเป็นในสมัยที่ฝ่ายรัฐบาลยังสู้รบกับฝ่ายคอมมิวนิสต์ หรือปัจจุบันที่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นในจังหวัดชายแดนภาคใต้ เหตุการ์นั้นคือ "การบุกโรงพยาบาล" ที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลจุฬาฯในวันพฤหัสบดีที่ ๒๙ เมษายน ๒๕๕๓ โดยกลุ่มชายฉกรรจ์พร้อมอาวุธที่เรียกตนเองว่าต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย


ผมเขียนเรื่องนี้ก็เพื่อให้คนที่มาใหม่หรือผู้ที่ไม่ได้อยู่ในมหาวิทยาลัยในช่วงเวลาดังกล่าวทราบว่า ได้เกิดอะไรขึ้นบ้างในบริเวณรอบรั้วมหาวิทยาลัย

ประวัติศาสตร์นั้นมีทั้งเรื่องดีและเรื่องไม่ดี ซึ่งเราก็ต้องบันทึกเอาไว้ทั้งสองส่วน

ไม่มีความคิดเห็น: