ในช่วงที่ผ่านมาดูเหมือนว่าพวกเราบางคน
(หรือทุกคน)
จะมีปัญหาเรื่องเกี่ยวกับกลไกการเกิดปฏิกิริยา
ทำให้เกิดความกังวลในการสอบ
ดังนั้นจึงคิดว่าควรต้องมีการทบทวนความรู้พื้นฐานในบางเรื่องกันใหม่
โดยจะทยอยนำเอกสารที่ใช้ในการสอนวิชาพื้นฐานวิศวกรรมปฏิกิริยาที่ใช้ตัวเร่งปฏิกิริยาที่ใช้สำหรับสอนนิสิตวิศวกรรมเคมีมาย่อยเป็นตอนสั้น
ๆ ให้อ่านง่ายขึ้น
โดยจะเริ่มจากเรื่องในชุดแรกคือ
"จลนศาสตร์การเกิดปฏิกิริยาบนพื้นผิวตัวเร่งปฏิกิริยาวิวิพันธ์"
ในการเกิดปฏิกิริยาเคมีที่มีการใช้ตัวเร่งปฏิกิริยาวิวิธพันธ์นั้น
สารตั้งต้นอย่างน้อยหนึ่งชนิด
(ในกรณีที่มีโมเลกุลเกี่ยวข้องมากกว่าหนึ่งชนิด)
ต้องเกิดการดูดซับทางเคมี
(chemisorption)
บนพื้นผิวตัวเร่งปฏิกิริยา
การดูดซับทางเคมีในที่นี้คือการสร้างพันธะทางเคมีระหว่างโมเลกุลสารตั้งต้นกับตำแหน่ง
active
site บนพื้นผิวตัวเร่งปฏิกิริยา
จากการทดลองเกี่ยวกับปฏิกิริยาที่มีสารตั้งต้นเพียงโมเลกุลเดียว(1)
ได้มีการพบว่า
ความว่องไวในการเกิดปฏิกิริยาจะขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของการเกิดการดูดซับทางเคมีของสารตั้งต้นบนพื้นผิวของตัวเร่งปฏิกิริยา
กล่าวคือ
ถ้าความแข็งแรงของการเกิดการดูดซับทางเคมีของสารตั้งต้นต่ำ
(ช่วง
(ก)
ในรูปที่
๑)
สารตั้งต้นก็จะเกิดการดูดซับทางเคมีได้น้อย
กล่าวอีกนัยหนึ่งคือปริมาณสารตั้งต้นบนพื้นผิวตัวเร่งปฏิกิริยามีน้อย
(หรือจำนวน
active
site ที่มีสารตั้งต้นเกาะอยู่มีจำนวนน้อย)
ดังนั้นปฏิกิริยาก็จะเกิดได้น้อยตามไปด้วย
รูปที่
๑
ความสัมพันธ์ระหว่างความแข็งแรงของการดูดซับทางเคมีกับปริมาณสารตั้งต้นที่สามารถลงไปเกาะบนพื้นผิวของตัวเร่งปฏิกิริยา
(หรือกล่าวให้เฉพาะเจาะจงก็คือตำแหน่ง
active
site) และความว่องไวในการทำปฏิกิริยา
หลังการนี้มีชื่อเรียกว่า
"Volcano
principle"
แต่เมื่อความแข็งแรงของการเกิดการดูดซับทางเคมีของสารตั้งต้นมีมากขึ้น
ปริมาณสารตั้งต้นบนพื้นผิวก็จะมีมากขึ้น
อัตราการเกิดปฏิกิริยาก็จะสูงขึ้นตามไปด้วย
แต่จะสูงไปได้ถึงระดับหนึ่งเท่านั้น
คือระดับที่สารตั้งต้นเริ่มปกคลุมพื้นผิวตัวเร่งปฏิกิริยาเอาไว้หมด
(กล่าวคือเกิดการดูดซับบน
active
site เต็มทุกตำแหน่ง
-
ช่วง
(ข)
ในรูปที่
๑)
ถ้าความแข็งแรงของการเกิดการดูดซับทางเคมีสูงขึ้นไปอีก
จะพบว่าอัตราการเกิดปฏิกิริยาจะลดลง
ทั้งนี้เป็นเพราะสารตั้งต้นพบใจที่จะเกาะอยู่บนพื้นผิวมากกว่าจะเกิดไปเป็นผลิตภัณฑ์
(ช่วง
(ค)
ในรูปที่
๑)
ดังนั้นถ้าพิจารณาดูกราฟความว่องไวในการทำปฏิกิริยาแล้วจะเห็นว่ากราฟดังกล่าวมีลักษณะที่เพิ่มสูงขึ้นไปจนถึงจุดสูงสุด
จากนั้นจะลดลง
จึงมีการตั้งชื่อพฤติกรรมความว่องในการทำปฏิกิริยากับความแข็งแรงในการดูดซับสารตั้งต้นว่า
"Volcano
principle"
กล่าวโดยสรุปคือ
ตัวเร่งปฏิกิริยาที่มีความว่องไวในการทำปฏิกิริยานั้นสูงนั้นต้องมีความแข็งแรงของการดูดซับสารตั้งต้นที่เหมาะสม
ต้องไม่อ่อนเกินไปและต้องไม่สูงเกินไป
หมายเหตุ
(1)
ปฏิกิริยาA --> P เมื่อ
A
คือสารตั้งต้นและ
P
คือผลิตภัณฑ์
(ซึ่งอาจมีเพียงโมเลกุลเดียวหรือหลายโมเลกุล)
ตัวอย่างของปฏิกิริยาเช่นนี้ปฏิกิริยาการสลายตัวของโมเลกุลสารตั้งต้นจากสารตั้งต้น
1
โมเลกุลกลายไปเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีขนาดโมเลกุลเล็กลงแต่มีจำนวนโมเลกุลเพิ่มขึ้น
หรือปฏิกิริยาที่เป็นการเปลี่ยนโครงสร้างโมเลกุลของสารตั้งต้น
เช่น isomerisation