โดยปรกติปั๊มหอยโข่ง
(centrifugal
pump) จะหมุนตามความเร็วรอบของมอเตอร์ที่ใช้
เพราะจะต่อเพลามอเตอร์เข้ากับเพลาของใบพัด
(impeller)
ดังนั้นที่ความเร็วรอบค่า
ๆ หนึ่ง
ความดันที่ปั๊มผลิตได้จะขึ้นกับขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของใบพัด
ถ้าใบพัดใหญ่ก็จะได้ความดันด้านขาออกที่สูงขึ้น
ในทางกลับกันถ้าใบพัดเล็กลงความดันด้านขาออกก็จะลดลง
ข้อดีของปั๊มหอยโข่งคือให้การไหลที่เรียบ
แต่ข้อเสียสำหรับปั๊มหอยโข่ง
single
stage (สำหรับปั๊มที่เพลามอเตอร์ต่อตรงเข้ากับเพลาใบพัด)
คือไม่สามารถทำความความดันได้สูงในขั้นตอนการอัดเพียงขั้นตอนเดียว
ดังนั้นถ้าต้องการความดันด้านขาออกที่สูงเกินกว่าที่ปั๊มที่ใช้การอัดเพียงขั้นตอนเดียวจะทำได้
ก็ต้องหันไปใช้ปั๊มหอยโข่งที่มีขึ้นตอนการอัดหลายขึ้นตอน
(multistage
centrifugal pump)
หรือเพิ่มความเร็วรอบการหมุนของใบพัดให้สูงขึ้นด้วยการใช้เฟืองทด
รูปที่
๑ เป็นตัวอย่างของปั๊มหอยโข่งชนิดวางตัวในแนวดิ่งที่มี
10
ขั้นตอนการอัดของบริษัท
Grundfos
ของเหลวจะไหลเข้าสู่ตรงกลางใบพัดใบล่างสุด
ก่อนจะถูกเหวี่ยงออกทางด้านข้างและไหลวนกลับเข้าตรงกลางใบพัดใบที่สอง
เป็นอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ
จนถึงใบพัดใบบนสุด
ก็จะไหลออกทางท่อทางออกที่อยู่ระหว่างตัวเรือนด้านนอกกับตัวเรือนด้านใน
ก่อนที่จะไหลออกทางท่อทางออกด้านล่าง
ตอนไปเยี่ยมชมโรงงานผลิตเครื่องสำอางผมเห็นเขาใช้ปั๊มแบบนี้กับระบบผลิตน้ำบริสุทธิ์ด้วยวิธี
reverse
osmosis เพราะต้องใช้ความดันสูงในกระบวนการผลิต
อีกบริษัทหนึ่งที่มีชื่อเสียงในการผลิตปั๊มหอยโข่งความดันสูงคือ
Sundyne
ปั๊มของบริษัทนี้จะเป็น
stage
เดียวแต่ใช้เฟืองทดรอบทำให้ใบพัดหมุนด้วยความเร็วขึ้นไปสูงกว่า
20,000
รอบต่อนาที
(แล้วแต่ความดันที่ต้องการ
ดูรูปที่ ๒)
ตัวเฟืองทดรอบเองก็ต้องมีระบบหล่อลื่นด้วย
(ไม่เช่นนั้นระบบเฟืองทดรอบพังได้ง่าย
ๆ)
โดยปรกติเวลาเริ่มเดินเครื่องปั๊มหอยโข่งทั่วไปนั้นเรามักจะปิดวาล์วด้านขาออกและเปิดเส้นทางท่อไหลย้อนกลับ
(ถ้ามี)
แต่สำหรับ
syndyne
pump ต้องมั่นใจว่ามีของเหลวไหลผ่านปั๊มอย่างเพียงพอตลอดเวลา
ผมเคยยืนดู operator
เริ่มเดินเครื่องปั๊มตัวนี้เพื่อใช้ฉีดไอน้ำที่ควบแน่น
(condensate)
เข้าไปใน
superheated
steam เพื่อลดอุณหภูมิลงให้เป็น
saturated
steam ในระหว่างการเริ่มเดินเครื่อง
operator
ต้องเปิดวาล์วด้านขาออกเอาไว้ครึ่งหนึ่ง
เพื่อป้องกันไม่ให้ของเหลวในตัวปั๊มเกิดการเดือดเนื่องจากการปั่นกวนที่ความเร็วที่สูงมาก
แต่ถึงขนาดเปิดวาล์วด้านขาออกไว้ครึ่งหนึ่ง
ความดันด้านขาออกก็ขึ้นไปสูงถึง
70
barg
Memoir
ฉบับนี้เป็นการแนะนำให้รู้จักปั๊มบางชนิดที่มีการใช้ในกระบวนการผลิต
ส่วนเรื่องที่ว่าการปิดวาล์วด้านขาออกในตอนเริ่มเดินเครื่องนั้นสำคัญอย่างไรสำหรับปั๊มหอยโข่ง
ไปอ่านได้จาก memoir
ปีที่
๒ ฉบับที่ ๑๒๒ วันพฤหัสบดีที่
๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๓ เรื่อง
"ฝึกงานภาคฤดูร้อน ๒๕๕๓ ตอนที่ ๖ ระบบ piping ของปั๊มหอยโข่ง"
รูปที่
๑ Multistage
centrifugal pump ชนิดวางตัวในแนวดิ่ง
ปั๊มในรูปมีใบพัด 10
ใบอยู่บนเพลาเดียวกัน
โดยมอเตอร์ขับเคลื่อนอยู่ทางด้านบนของตัวปั๊ม
รูปนี้เอามาจาก Grundfos
data booklet CR, CRI, CRN, CRE, CRIE, CRNE vertical multistage
centrifugal pump ของบริษัท
Grundfos
รูปที่ ๒ Syndyne pumpเป็นปั๊มของบริษัท Syndyne บริษัทนี้ผลิตปั๊มหอยโข่งที่มีขั้นตอนการอัดเพียงขั้นตอนเดียวแต่ให้ความดันด้านขาออกสูงมาก (ขึ้นไปได้เกือบ 200 barg) ซึ่งทำโดยการใช้เฟืองทดทำให้ความเร็วรอบใบพัดเพิ่มมากขึ้น จากข้อมูลในตารางจะเห็นว่าในบางรุ่นนั้นใบพัดจะหมุนเร็วถึง 25,000 รอบต่อนาที (ที่ความถี่ 50 Hzมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับที่มี 2 ขั้วหมุนได้เร็วมากสุดก็ 3,000 รอบต่อนาที) รูปนี้เอามาจากเอกสาร Sundyne single stage integrally geared API pump
รูปที่ ๒ Syndyne pumpเป็นปั๊มของบริษัท Syndyne บริษัทนี้ผลิตปั๊มหอยโข่งที่มีขั้นตอนการอัดเพียงขั้นตอนเดียวแต่ให้ความดันด้านขาออกสูงมาก (ขึ้นไปได้เกือบ 200 barg) ซึ่งทำโดยการใช้เฟืองทดทำให้ความเร็วรอบใบพัดเพิ่มมากขึ้น จากข้อมูลในตารางจะเห็นว่าในบางรุ่นนั้นใบพัดจะหมุนเร็วถึง 25,000 รอบต่อนาที (ที่ความถี่ 50 Hzมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับที่มี 2 ขั้วหมุนได้เร็วมากสุดก็ 3,000 รอบต่อนาที) รูปนี้เอามาจากเอกสาร Sundyne single stage integrally geared API pump
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น