ในอาคารบ้านเรือน
หรือในอาคารต่าง ๆ นั้น
จะมีการระบายของเหลวลงสู่ระบบท่อให้ไหลลงสู่ที่ต่ำโดยใช้แรงโน้มถ่วง
สำหรับบ้านเรือนทั่วไปที่เห็นได้ชัดคือระบบสุขภัณฑ์ที่ระบายน้ำทิ้งจากชักโครกลงตามระบบท่อสู่บ่อพักที่อยู่ต่ำลงไป
สำหรับอาคารพาณิชย์นั้นไม่เพียงแต่จะเป็นการระบายจากระบบสุขภัณฑ์
แต่ยังอาจมีการระบายน้ำฝนจากหลังคาหรือพื้นที่รองรับน้ำฝนต่าง
ๆ ของอาคารลงสู่ระบบท่อระบายน้ำด้วย
ในกระบวนการผลิตในโรงงานนั้น
บางครั้งก็อาจมีการใช้การถ่ายของเหลวจากภาชนะใบหนึ่งไปยังภาชนะอีกใบหนึ่งด้วยแรงโน้มถ่วง
สิ่งหนึ่งที่กระบวนการผลิตในโรงงานแตกต่างไปจากการระบายน้ำทิ้งในอาคารทั่วไปคือ
การถ่ายของเหลวในกระบวนการผลิตนั้นอาจเป็นการถ่ายของเหลวระหว่างภาชนะปิด
(ไม่เปิดออกสู่อากาศภายนอก)
รูปที่ ๑ ข้างล่างเป็นตัวอย่างหนึ่งของระบบระบายของเหลวลงสู่ที่ต่ำด้วยแรงโน้มถ่วง ในกรณีนี้มีการป้อนของเหลวและแก๊สเข้าเครื่องปฏิกรณ์เพื่อให้สารตั้งต้นที่เป็นของเหลวและแก๊สทำปฏิกิริยากันภายใต้ภาวะการปั่นกวนอย่างรุนแรง เพื่อให้แก๊สกลายเป็นฟองเล็ก ๆ กระจายไปทั่วของเหลวเพื่อเพิ่มพื้นที่การถ่ายเทมวล ดังนั้นของเหลวที่อยู่ในเครื่องปฏิกรณ์จะเต็มไปด้วยฟองแก๊ส ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นต้องแยกฟองแก๊สออกจากของเหลวก่อนที่จะปั๊มของเหลวไปยังหน่วยอื่น (ถ้ามีฟองแก๊สอยู่ในของเหลวจะก่อให้เกิดปัญหาในการทำงานของปั๊ม)
ระบบที่นำมาเป็นตัวอย่างนี้ใช้การให้ของเหลว
(ที่เต็มไปด้วยฟองแก๊ส)
ไหลล้นจากถังปฏิกรณ์ลงสู่ถังใบที่สอง
(ถังแยกของเหลว-แก๊ส)
ที่อยู่ที่ระดับที่ต่ำกว่าระดับผิวของเหลวในถังปฏิกรณ์
ของเหลวที่อยู่ในถังแยกของเหลว-แก๊สนี้จะมีการรบกวนที่ต่ำกว่า
ทำให้ฟองแก๊สค่อย ๆ
ลอยตัวออกจากของเหลวที่ไหลเข้ามาสู่ผิวบน
และของเหลวที่ไม่มีฟองแก๊สก็จะถูกปั๊มออกทางด้านล่างของถังออกไป
รูปที่
๑
ตัวอย่างระบบท่อระบายของเหลวลงสู่ที่ต่ำด้วยแรงโน้มถ่วงระหว่างภาชนะสองใบ
โดยใบแรกเป็นถังปฏิกรณ์ที่มีการป้อนของเหลวและแก๊สเข้า
สารจะไหลออกจากถังปฏิกรณ์ผ่านทางท่อล้นและระบายลงสู่ถังแยกของเหลว-แก๊สที่อยู่ต่ำกว่า
เพื่อแยกส่วนที่เป็นฟองแก๊สออกจากของเหลวก่อนที่จะทำการปั๊มไปยังหน่วยอื่นต่อไป
(ดู
Memoir
ปีที่
๔ ฉบับที่ ๔๔๓ วันพุธที่ ๒
พฤษภาคม ๒๕๕๕ เรื่อง
"เมื่อระดับตัวทำละลายใน polymerisation reactor เพิ่มสูงขึ้น")
ของเหลวจากถังปฏิกรณ์จะไหลลงสู่ถังแยกของเหลว-แก๊สได้ดีก็ต่อเมื่อความดันเหนือผิวของเหลวในถังแยกของเหลว-แก๊สนั้นไม่สูงกว่าความดันเหนือผิวของเหลวในถังปฏิกรณ์
การทำเช่นนี้ทำได้โดยการเดินท่อปรับความดัน
(สีเขียวในรูปที่
๑)
เชื่อมระหว่างด้านบนของถังแยกของเหลว-แก๊สเข้ากับถังปฏิกรณ์
ท่อดังกล่าวจะช่วยรักษาความดันเหนือผิวของเหลวในถังแยกของเหลว-แก๊สให้เท่ากับความดันเหนือผิวของเหลวในถังปฏิกรณ์ด้วยการะบายแก๊สที่หลุดออกมาจากของเหลวในถังแยกของเหลว-แก๊สกลับไปที่ถังปฏิกรณ์ใหม่
ถ้าหากไม่มีท่อปรับความดัน
แก๊สที่หลุดออกมาก็จะสะสมในถังแยกของเหลว-แก๊ส
ก่อให้เกิดแรงต้านการไหล
ถ้าปลายท่อด้านถังแยกของเหลว-แก๊สนั้นจมอยู่ภายใต้ผิวของเหลวในถังแยกของเหลว-แก๊ส
ความดันที่สะสมก็อาจทำให้ของเหลวหยุดการไหลได้
แต่ถ้าปลายท่อด้านถังแยกของเหลว-แก๊สนั้นอยู่เหนือผิวของเหลวในถังแยกของเหลว-แก๊ส
แก๊สในถังแยกของเหลว-แก๊สก็อาจเกิดการไหลสวนทางของเหลวที่ไหลลงมาจากถังปฏิกรณ์
ทำให้ของเหลวไหลลงจากถังปฏิกรณ์ได้ไม่สะดวก
หรือหยุดชะงักเป็นช่วง ๆ
ได้
รูปที่
๒ ท่อระบายน้ำฝนจากดาดฟ้าของอาคารแห่งหนึ่ง
รูปบนเป็นภาพโดยรวมจะเห็นท่อระบายอากาศต่อแยกขึ้นไปทางด้านบน
พึงสังเกตว่าจะวางท่อให้มีการลาดเอียงลงล่าง
(ไม่วางขนานพื้น)
รูปล่างซ้ายเป็นท่อระบายอากาศออกจากท่อระบายน้ำ
รูปล่างขวาเป็นจุดบรรจบของท่อระบายสองท่อ
จะเห็นว่าจุดบรรจบจะไม่ใช้ข้อต่อสามทางแบบตั้งฉาก
แต่จะใช้ข้อต่อแบบต่อบรรจบเฉียง
ทั้งนี้เพื่อไม่ให้น้ำที่ไหลลงมานั้นปะทะกันตรง
ๆ ซึ่งจะทำให้น้ำไหลไม่สะดวก
ท่อระบายน้ำฝนจากดาดฟ้าอาคารก็อาจเกิดปัญหาการที่น้ำฝนไหลลงได้ไม่สะดวกเนื่องจากอากาศในท่อไหลสวนทางขึ้นมาได้
เนื่องจากตัวท่อมีความสูงจากพื้นมาก
เวลาที่มีน้ำฝนปริมาณมากไหลลงมาจะทำให้อากาศระบายออกไม่ได้
จะกีดขวางทางไหลลงของน้ำ
ดังนั้นจึงต้องออกแบบให้ระบบท่อมีช่องทางระบายอากาศในท่อออกเวลาที่มีน้ำฝนไหลลงมา
โดยทำเป็นท่อแยกออกทางไปทางด้านข้างเฉียงขึ้นไปทางด้านบน
(ดูรูป
๒)
เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำฝนไหลย้อน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น