บ้านหลังแรกสร้างเมื่อใดและถูกรื้อทิ้งไปเมื่อใดผมก็ไม่รู้เหมือนกัน
รู้แต่ว่าตอนที่ได้เข้ามาสัมผัสที่นี่เป็นครั้งแรกมันเป็นบ้านหลังที่สอง
และบ้านหลังที่สองนี้ก็เกือบจะถูกรื้อทิ้งอีกครั้งเมื่อเราได้บ้านหลังที่สามและหลังที่สี่ที่ใหญ่กว่า
แต่บังเอิญเหตุการณ์ฟองสบู่แตกเมื่อปี
๒๕๔๐ จึงยังทำให้เรายังคงมีบ้านหลังที่สองนี้มาจนถึงปัจจุบัน
ดังนั้นคงจะไม่ผิดถ้าจะกล่าวว่า
ผู้ที่เรียนจบจากที่นี่ที่ปัจจุบันมีอายุในช่วง
๕๐ กลาง ๆ ลงมา
ต่างก็เคยได้เข้ามาใช้ช่วงเวลาสั้น
ๆ ช่วงหนึ่งของชีวิตในบ้านหลังที่สองหลังนี้
แต่ก็เชื่อว่ามันคงเป็นช่วงเวลาที่ได้ให้ความทรงจำที่ไม่รู้เลือนมาจนถึงปัจจุบัน
จะมีสักกี่คนในปัจจุบันที่ยังจำและทันได้ใช้เครื่องชั่งสองแขนที่ทางภาควิชาได้รับมาตั้งแต่ปีพ.ศ. ๒๕๐๖ แม้ว่าปัจจุบันมันยังอยู่ในสภาพดีอยู่ แต่ก็ถูกนำไปเก็บซุกไว้ใต้โต๊ะแลปที่ได้มาใหม่ ถังเซรามิกสำหรับบรรจุสารกรองน้ำเพื่อใช้ทำน้ำบริสุทธิ์สำหรับห้องปฏิบัติการ ที่ไม่รู้เหมือนกันว่าได้มาตั้งแต่เมื่อใด ตู้ไม้ที่ทำจากไม้จริงที่หาได้ยากในปัจจุบันโดยช่างไม้มีฝีมือ ที่ถูกสั่งทำขึ้นมา ๕๐ ปีที่แล้วเพื่อใช้เก็บเครื่องแก้วต่าง ๆ ในห้องปฏิบัติการเคมีที่ โต๊ะทำงานและตู้ไม้ที่ยังคงปฏิบัติหน้าที่ของมันมาตั้งแต่ปีพ.ศ. ๒๕๒๑-๒๕๒๒ จวบจนถึงปัจจุบัน พัดลมโคจร (ที่ใบพัดทำจากเหล็ก) ที่ยังคงทำหน้าที่ของมันอยู่ในขณะนี้แม้ว่ามันจะมีอายุเข้าใกล้ ๔๐ ปีเข้าไปทุกที รวมทั้งท่อหลากสีที่เดินทอดมาจากด้านล่างของอาคารและพาดผ่านด้านบนเพดานของห้องปฏิบัติการ จะมีใครสักกี่คนที่เคยได้ใช้และรู้ความหมายของสีเหล่านั้นว่าท่อเหล่านั้นเป็นท่ออะไร รวมทั้งพื้นทางเดินที่ผ่านการรับใช้จนกระเบื้องหลุดร่อนและขาดการซ่อมบำรุง
โถงด้านล่างของตึกที่ช่วงเวลาหนึ่งเมื่อ
๒๐ ปีที่แล้วเคยถูกใช้เป็นที่ริดใบจามจุรีเพื่อใช้ในงานรับขวัญ
ปัจจุบันได้กลายเป็นห้องเครื่องมือวิทยาศาสตร์และที่ตั้งลิฟต์ของอาคาร
ดาดฟ้าอาคารที่มีนิสิตบางคนที่ทำแลปการคืนและนอนค้างที่ตึกได้ขึ้นไปใช้เป็นที่อาบน้ำยามค่ำคืน
(ในยุคสมัยที่รอบ
ๆ อาคารนี้ยังไม่มีตึกที่สูงกว่า)
บันไดด้านข้างอาคารที่แต่เดิมจะสามารถมองเห็นตึกสำนักงานใหญ่ธนาคารกรุงเทพที่เป็นตึกที่สูงที่สุดของประเทศในเวลานั้น
โดดเด่นขึ้นมาบนถนนสีลม
ตู้เหล็กที่ภาคเคยจัดหาให้นิสิตป.ตรีใช้เป็นที่เก็บของ
รั้วมหาวิทยาลัยหลังป้ายรถเมล์ริมถนนพญาไทที่มักจะมีการสลับกันซ่อมกับสลับกันตัดเสาเหล็ก
เพื่อเปิดเป็นช่องทางลัดสำหรับเดินเข้ามหาวิทยาลัยเวลาที่ประตูปิด
จะได้ไม่ต้องเดินอ้อมไปไกล
รวมทั้งร้านนวย
(ที่ปัจจุบันกลายเป็นที่ตั้งร้านกาแฟหรูหรา)
ที่ขายของกินให้สำหรับคนที่ขี้เกียจเดินไปหาอะไรกินที่โรงอาหาร
ผมเป็นรุ่นแรกที่ทางคณะให้เข้ามาเรียนปี
๑ ก่อนแล้วค่อยเลือกภาคตอนขึ้นปี
๒
สารพัดเรื่องที่รุ่นพี่ทั้งชักชวนทั้งข่มขู่ว่าอย่าเลือกเรียนภาคนี้
สารพัดวีรกรรมที่รุ่นพี่ได้ก่อไว้และเล่าให้ฟัง
ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขโมยเลคเชอร์โน๊ตอาจารย์จนทำให้อาจารย์สอนหนังสือไม่ได้
(แล้วผลเป็นยังไงหรือครับ
ดูเหมือนว่ารุ่นนั้นจะได้
F
วิชานั้นกันเพียบ)
การเอาบีกเกอร์ในห้องแลปเคมีมาต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกินกันด้วยการใช้เตาไฟฟ้าของแลป
หรือการแอบทำอาหารในห้องบรรยายขณะที่อาจารย์กำลังสอนหนังสืออยู่
ผู้ที่ทำเคยทำโปรเจคกันตลอดค่ำคืน
เคยไหมครับที่มีคืนคืนหนึ่งที่ได้พบกับเหตุการณ์ที่มันกลายมาเป็นตำนานของตึกมาจนถึงปัจจุบัน
ยังจำวิชาที่ต้องมีการสอบรีเกรดกันเกือบทั้งรุ่นเป็นประจำทุกปีได้ไหมครับ
รายงานแลปหรือเลคเชอร์โน๊ตที่ตกทอดกันจากรุ่นหนึ่งสู่รุ่นหนึ่ง
หรือการทดลองที่ทำลงไปโดยที่ไม่เข้าใจว่าทำอะไรลงไปเพราะยังเรียนเนื้อหาในส่วนภาคบรรยายไม่ถึง
ชื่อเรื่องบทความนี้ผมไม่ได้คิดเองหรอกครับ
เพียงแต่ไปยืมเนื้อร้องท่อนหนึ่งของเพลง
"สายใย"
ที่เป็นเพลงที่โด่งดังเมื่อราว
ๆ ๓๐ ปีที่แล้ว
และปัจจุบันก็ยังคงพอได้ยินอยู่ในงานแต่งงานต่าง
ๆ
บ่อยครั้งที่ผมเกิดความคิดว่าเรื่องราวของบ้านที่เราเคยอยู่นั้นทำไมเราต้องให้คนอื่นมาเขียน
(โดยใช้ฐานข้อมูลของทางราชการ)
ทำไมเราจึงไม่เขียนในส่วนของเราเองบ้างในเมื่อมันมีหลากหลายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่หลายท่านเคยประสบ
ที่บ่งบอกให้เห็นถึงสภาพการใช้ชีวิตในบ้านหลังนี้
เคยไหมครับที่คิดอยากจะกลับมายังสถานที่เดิมที่เคยเข้ามาใช้ช่วงเวลาหนึ่งของชีวิต
เพื่อมารำลึกว่าในช่วงเวลานั้นได้ก่อวีรกรรมอะไรไว้บ้าง
มึความทรงจำอะไรบ้างที่ประทับใจมาจนถึงปัจจุบัน
ผมหวังว่าวันสำคัญที่กำลังจะมาถึงนี้คงไม่ใช่เพียงแค่วันกินข้าวเย็นพบปะสังสรรร่วมกับเพื่อนฝูงพี่น้อง
แต่ควรเป็นวันที่เปิดโอกาสให้ทุกท่านได้กลับมาเยือนบ้านเดิมเพื่อกลับมาทบทวนความทรงจำและส่งต่อความทรงจำเหล่านั้นให้คนรุ่นต่อไป
เพื่อบันทึกเอาไว้เป็นประวัติของภาควิชา
จากมุมมองนิสิตผู้เรียน
แล้วพบกันครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น