แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ บุญผ่อง สิริเวชชะพันธ์ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ บุญผ่อง สิริเวชชะพันธ์ แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2557

บุญผ่อง สิริเวชชะพันธ์ ภาค ๒ (ก่อนจะเลือนหายไปจากความทรงจำ ตอนที่ ๕๙) MO Memoir 2557 Mar 27 Thu

ผมเคยเล่าเรื่องคนไทยที่มีการกล่าวถึงโดยเชลยศึกชาวอังกฤษที่กองทัพญี่ปุ่นนำเข้ามาสร้างทางรถไฟในประเทศไทยในช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒ คือ "คุณ บุญผ่อง สิริเวชชะพันธ์" ไว้ใน Memoirปีที่ ๕ ฉบับที่ ๖๒๒ วันอาทิตย์ที่ ๒๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ เรื่อง "บุญผ่อง สิริเวชชะพันธ์ (ก่อนจะเลือนหายไปจากความทรงจำ ตอนที่ ๔๖)" ซึ่งเป็นเรื่องราวของคุณบุญผ่องที่ปรากฏอยู่ในหนังสือ "The colonel of Tamarkan : Philip Toosey and the bridge on the river Kwai" ที่เขียนโดยJulie Summers ผู้เป็นหลานของพันเอก Toosey หนึ่งในเชลยศึกในค่ายกักกันดังกล่าว
  
ละครโทรทัศน์ที่สร้างจากเรื่องจริงของคุณบุญผ่องที่ฉายไปเมื่อหน้าร้อนของปีที่แล้วดูเหมือนจะไม่ได้รับความสนใจเท่าใดนัก เพราะขณะนั้นกระแสไปอยู่ที่หน้าตาของนักแสดงในละครที่สร้างจากเรื่องแต่งหมด
  
รูปที่ ๑ จาก http://www.awm.gov.au/view/collection/item/P00779.002/
KANCHANABURI, THAILAND. 1943-04. BOONPONG SIRIVEJCHAPAN SITTING AT A TABLE IN HIS GENERAL STORE IN PARKPRAG ROAD. PRISONERS OF WAR AT THE NEARBY CAMP, INCLUDING COLONEL PHILLIP TOOSEY, ENCOURAGED THEIR JAPANESE GUARDS TO DRINK AT THE SHOP SO THE POWS COULD MAKE ARRANGEMENTS FOR MEDICAL DRUGS AND MONEY SUPPLIED BY BOONPONG TO BE DELIVERED TO THE CAMP.
  
ระหว่างค้นคว้าข้อมูลประวัติศาสตร์ประเทศไทยช่วงสงครามโลกครั้งที่ ๒ ที่ทางฝ่ายสัมพันธมิตรเป็นผู้บันทึกไว้ ก็บังเอิญไปเจอภาพครอบครัวคุณบุญผ่องในช่วงสงครามที่มีการบันทึกเอาไว้ในปีค.ศ. ๑๙๔๓ (พ.ศ. ๒๔๘๖) ที่เว็บของ Australian war memorial ส่วนใครเป็นผู้บันทึกเอาไว้นั้นก็ไม่มีรายละเอียดให้ไว้
  
ภาพชุดนี้มี ๘ ภาพเป็นภาพขาวดำถ่ายในบ้าน ภาพค่อนข้างจะมืดและไม่คมชัดเท่าใด เลยไม่แน่ใจว่าเป็นการแอบถ่ายหรือไม่ เพราะเป็นการถ่ายภาพเดี่ยวบุคคลต่าง ๆ ในครอบครัวคุณบุญผ่องทีละคน

รูปที่ ๑ และ ๒ นั้นเป็นรูปของคุณบุญผ่อง ส่วนรูปที่ ๓ ในหน้าถัดไปเป็นรูปของคุณผณี บุตรสาวของคุณบุญผ่อง ในภาพระบุว่าขณะนั้นคุณผณีมีอายุ ๑๓ ปี
  
รูปที่ ๔ ระบุว่าเป็นรูปสาวใช้ ส่วนรูปที่ ๕-๗ นั้นเป็นรูปคุณสุรัตน์ ภรรยาของคุณบุญผ่อง
  
ส่วนรูปที่ ๘ นั้นระบุว่าเป็นรูปคุณสุรัตน์และเพื่อชาวญี่ปุ่นชื่อมิชิโกะ
  
KANCHANABURI, THAILAND. 1943-03. BOONPONG SIRIVEJCHAPAN SITTING AT A TABLE IN HIS GENERAL STORE IN PARKPRAG ROAD. PRISONERS OF WAR AT THE NEARBY CAMP, INCLUDING COLONEL PHILLIP TOOSEY, ENCOURAGED THEIR JAPANESE GUARDS TO DRINK AT THE SHOP SO THE POWS COULD MAKE ARRANGEMENTS FOR MEDICAL DRUGS AND MONEY SUPPLIED BY BOONPONG TO BE DELIVERED TO THE CAMP.
  
รูปที่ ๓ จาก http://www.awm.gov.au/view/collection/item/P00779.003/
KANCHANABURI, THAILAND. 1943. PANEE SIRIVEJCHAPAN (AGED THIRTEEN) SITTING AT A TABLE IN THE GENERAL STORE IN PARKPRAG ROAD OWNED BY HER FATHER, BOONPONG. PRISONERS OF WAR AT THE NEARBY CAMP, INCLUDING COLONEL PHILLIP TOOSEY, ENCOURAGED THEIR JAPANESE GUARDS TO DRINK AT THE SHOP SO THE POWS COULD MAKE ARRANGEMENTS FOR MEDICAL DRUGS AND MONEY SUPPLIED BY BOONPONG TO BE DELIVERED TO THE CAMP.
  
รูปที่ ๔ จาก http://www.awm.gov.au/view/collection/item/P00779.004/
KANCHANABURI, THAILAND. 1943. A HOUSE MAID WITH THE SIRIVEJCHAPAH FAMILY SITTING AT A TABLE IN THE GENERAL STORE IN PARKPRAG ROAD OWNED BY BOONPONG SIRIVEJCHAPAH. PRISONERS OF WAR AT THE NEARBY CAMP, INCLUDING COLONEL PHILLIP TOOSEY, ENCOURAGED THEIR JAPANESE GUARDS TO DRINK AT THE SHOP SO THE POWS COULD MAKE ARRANGEMENTS FOR MEDICAL DRUGS AND MONEY SUPPLIED BY BOONPONG TO BE DELIVERED TO THE CAMP.
  
รูปที่ ๕ จาก http://www.awm.gov.au/view/collection/item/P00779.005/
KANCHANABURI, THAILAND. 1943. MRS SURAT SIRIVEJCHAPAH SITTING AT A TABLE IN THE GENERAL STORE IN PARKPRAG ROAD OWNED BY BOONPONG SIRIVEJCHAPAH. MRS SURAT RAN THE STORE WHILE MR BOONPONG DID THE ERRANDS AND DELIVERIES. PRISONERS OF WAR AT THE NEARBY CAMP, INCLUDING COLONEL PHILLIP TOOSEY, ENCOURAGED THEIR JAPANESE GUARDS TO DRINK AT THE SHOP SO THE POWS COULD ARRANGEMENTS FOR MEDICAL DRUGS AND MONEY SUPPLIED BY BOONPONG TO BE DELIVERED TO THE CAMP.
  
รูปที่ ๖ จากhttp://www.awm.gov.au/view/collection/item/P00779.006/
KANCHANABURI, THAILAND. 1943. MRS SURAT SIRIVEJCHAPAH SITTING AT A TABLE IN THE GENERAL STORE IN PARKPRAG ROAD OWNED BY BOONPONG SIRIVEJCHAPAH. MRS SURAT RAN THE STORE WHILE MR BOONPONG DID THE ERRANDS AND DELIVERIES. PRISONERS OF WAR AT THE NEARBY CAMP, INCLUDING COLONEL PHILLIP TOOSEY, ENCOURAGED THEIR JAPANESE GUARDS TO DRINK AT THE SHOP SO THE POWS COULD ARRANGEMENTS FOR MEDICAL DRUGS AND MONEY SUPPLIED BY BOONPONG TO BE DELIVERED TO THE CAMP.
 
รูปที่ ๗ จาก http://www.awm.gov.au/view/collection/item/P00779.007/
KANCHANABURI, THAILAND. 1943. MRS SURAT SIRIVEJCHAPAH SITTING AT A TABLE IN THE GENERAL STORE IN PARKPRAG ROAD OWNED BY BOONPONG SIRIVEJCHAPAH. NOTE THE ROWS OF CANNED FOOD ON THE SHELVES BEHIND HER. MRS SURAT RAN THE STORE WHILE MR BOONPONG DID THE ERRANDS AND DELIVERIES. PRISONERS OF WAR AT THE NEARBY CAMP, INCLUDING COLONEL PHILLIP TOOSEY, ENCOURAGED THEIR JAPANESE GUARDS TO DRINK AT THE SHOP SO THE POWS COULD MAKE ARRANGEMENTS FOR MEDICAL DRUGS AND MONEY SUPPLIED BY BOONPONG TO BE DELIVERED TO THE CAMP.
  
รูปที่ ๘ จาก http://www.awm.gov.au/view/collection/item/P00779.008/
KANCHANABURI, THAILAND. 1943. MRS SURAT SIRIVEJCHAPAH AND HER JAPANESE NEIGHBOUR, MICHIKO, SITTING AT A TABLE IN THE GENERAL STORE IN PARKPRAG ROAD OWNED BY BOONPONG SIRIVEJCHAPAH. MRS SURAT RAN THE STORE WHILE MR BOONPONG DID THE ERRANDS AND DELIVERIES. SHE PRACTISED HER JAPANESE WITH MICHIKO SO SHE COULD DISTRACT THE JAPANESE GUARDS WHILE THE POWS PASSED NOTES TO BOONPONG. PRISONERS OF WAR AT THE NEARBY CAMP, INCLUDING COLONEL PHILLIP TOOSEY, ENCOURAGED THEIR JAPANESE GUARDS TO DRINK AT THE SHOP SO THE POWS COULD MAKE ARRANGEMENTS FOR MEDICAL DRUGS AND MONEY SUPPLIED BY BOONPONG TO BE DELIVERED TO THE CAMP.

รูปที่ ๙ และ ๑๐ ในหน้าถัดไปนั้นผมนำมาจากหนังสือ "Prisoner of war : Voices from behind the wire" โดย Charles Rollings หนังสือเล่มนี้เป็นการรวบรวมบันทึกความทรงจำของทหารอังกฤษที่ตกเป็นเชลยศึกในสมรภูมิต่าง ๆ ในช่วงระหว่างสงครามโลกครั้งที่ ๒ และมีบันทึกความทรงจำของ Corporal Charles Kinahan จากหน่วย Straits Settlement Volunteer Force ที่ตกเป็นเชลยศึกตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. ๑๙๔๒ (พ.ศ. ๒๔๘๕) จนสงครามสิ้นสุด นายทหารผู้นี้เป็นหนึ่งในผู้ที่มีโอกาสได้ติดต่อกับคุณบุญผ่องในช่วงระหว่างสงคราม เขากล่าวถึงคุณบุญผ่องเอาไว้อย่างไรบ้างก็ขอเชิญอ่านเอาเองก็แล้วกัน
  
รูปที่ ๙ (บน) หนังสือ "Prisoner of war : Voices from behind the wire" (ล่าง) ข้อความที่คัดลอกมาจากหน้า ๒๐๕-๒๐๖ ของหนังสือดังกล่าว
  
รูปที่ ๑๐ ข้อความที่คัดมาจากหน้า ๓๒๕-๓๒๖ ของหนังสือเล่มเดียวกัน

วันอาทิตย์ที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

บุญผ่อง สิริเวชชะพันธ์ (ก่อนจะเลือนหายไปจากความทรงจำ ตอนที่ ๔๖) MO Memoir : Sunday 26 May 2556

ผมเห็นชื่อเขาครั้งแรกในหนังสือ "The Colonel of Tamarkan" ที่ซื้อมาจากร้านหนังสือลดราคาชั้นใต้ดินอาคารจามจุรีสแควร์ ในหนังสือเล่มนั้นกล่าวถึงคนชื่อ "Boon Pong" ไว้หลายแห่ง และมีรูปภาพลงประกอบอยู่ ๑ ภาพ แต่ผมไม่แน่ใจว่าชื่อภาษาไทยเขาออกเสียงที่ถูกต้องอย่างไร
  
เมื่อราว ๆ ต้นเดือนได้เห็นสปอตโฆษณาละครโทรทัศน์เรื่องใหม่ เรื่องเกี่ยวกับคนชื่อ "บุญผ่อง" ที่ได้ให้ความช่วยเหลือเชลยศึกทหารสัมพันธมิตรที่จังหวัดกาญจนบุรีสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง ละครเรื่องนี้เริ่มฉายแล้วในเดือนนี้ และกำลังฉายอยู่ จากละครเรื่องนี้ก็เลยได้รู้ว่าบุคคลในภาพนั้นมีชื่อไทยว่า "บุญผ่อง"

รูปที่ ๑ หนังสือเรื่อง "The colonel of Tamarkan : Philip Toosey and the bridge on the river Kwai" ซึ่งแปลเป็นไทยว่า "พันเอกแห่งท่ามะขาม Philip Toosey และสะพานข้ามแม่น้ำแคว หนังสือดังกล่าวเขียนโดยJulie Summers ผู้เป็นหลานของพันเอก Toosey
  
ในบรรดาหนังสือเกี่ยวกับประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ ๒ ที่เป็นภาษาอังกฤษกว่า ๔๐ เล่มที่ผมมีนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการรบในยุโรป มีบางเล่มที่กล่าวถึงการรบในพม่าและในมหาสมุทรแปซิฟิก เนื่องจากประเทศไทยไม่ได้เป็นสมรภูมิการรบของทหารราบ ดังนั้นเรื่องเกี่ยวกับการรบทางบกจึงไม่มีการกล่าวถึง เรื่องที่พอจะมีการกล่าวถึงประเทศไทยบ้างคือการสร้างทางรถไฟไปพม่า
 
ในบรรดาคนไทยที่ถูกกล่าวถึงในหนังสือที่ชาวต่างชาติเขียนนั้น ถ้าไม่นับกลุ่มผู้ปกครองประเทศในขณะนั้นก็ไม่เห็นมีการกล่าวถึง "เสรีไทย" แต่กลับมีการกล่าวถึงบุคคลธรรมดาคนหนึ่งที่ชื่อ "Boon Pong"
  
ในหนังสือ The Colonel of Tamarkan ในส่วนของเนื้อหาจำนวน ๓๖๙ หน้านั้น มีชื่อ Boon Pong ปรากฏอยู่ถึง ๑๑ หน้าที่ผมได้สแกนเอามาให้ดู ผมคงจะไม่ขอแปลเนื้อหาทั้งหมดออกมา เพียงแต่จะขอดึงเอาบางเรื่องออกมา เผื่อว่าใครได้มีโอกาสดูละครเรื่องดังกล่าวจะได้เทียบได้ว่าสิ่งที่ปรากฏในละครกับสิ่งที่ทางพันเอก Toosey บันทึกไว้นั้นตรงกันหรือเปล่า ส่วนที่เหลือก็ขอให้อ่านเอาเองก็แล้วกัน 
   
ในหน้า ๒๐๐-๒๐๒ เป็นการเล่าเหตุการณ์ที่ทางเชลยได้พบกับคุณบุญผ่อง และประวัติของคุณบุญผ่องโดยสังเขป ในหน้า ๒๘๖-๒๘๗ และ ๒๙๔ กล่าวถึงเหตุการณ์เมื่อสงครามสิ้นสุด เนื่องจากในช่วงสงครามนั้นไทยประกาศสงครามกับอังกฤษ เมื่อญี่ปุ่นแพ้สงคราม คนจีนที่เข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยก็ถือว่าตนเองอยู่ในฝ่ายผู้ชนะสงครามในขณะที่คนไทยที่เป็นเจ้าของประเทศเดิมนั้นฝ่ายแพ้สงคราม ทำให้เกิดการจลาจลขึ้นระหว่างคนจีนที่เข้ามาอาศัยอยู่ในประเทศไทยและคนไทยที่เป็นเจ้าของประเทศ
  
เหตุการณ์ที่เกือบคร่าชีวิตคุณบุญผ่องถูกบันทึกไว้ในหน้า ๓๐๒-๓๐๓ เมื่อคุณบุญผ่องถูกยิงโดย "ตำรวจไทย" และเป็นการยิงจาก "ทางด้านหลัง" ด้วย (ไม่รู้ฉากนี้จะผ่านการเซนเซอร์หรือเปล่า แต่ก็บอกให้รู้ว่าตำรวจไทยมีพฤติกรรมอย่างไรมาตั้งแต่สมัยไหน) แต่รอดชีวิตมาได้ด้วยความช่วยเหลือของทีมแพทย์อังกฤษ
  
หลังสงครามสิ้นสุดคุณบุญผ่องได้มาทำกิจการรถเมล์ในกรุงเทพ (รถเมล์สาย ๖ หน้า ๓๓๘-๓๔๐) แต่ประสบปัญหาด้านการเงิน เมื่อทางพันเอก Toosey ทราบเรื่องจึงได้ทำการระดมทุนและรวมรวมเงินได้ ๓๘,๐๐๐ ปอนด์ส่งมาช่วยเหลือ ทำให้ดำเนินการมาได้จนกิจการรถเมล์ถูกรวมกิจการเข้าเป็นของรัฐ คุณบุญผ่องจึงได้ไปดำเนินกิจการซ่อมแซมตัวถังรถในชื่อ "Dents Done by Boong Pong" (ผมเดาว่าปัจจุบันคือบริษัทเดนซ์ดัน)

คุณบุญผ่อง สิริเวชชะพันธ์ ถึงแก่กรรมในวันที่ ๒๙ มกราคม พ.ศ. ๒๕๒๕

นิยายที่มีตัวละครที่เป็นทหารญี่ปุ่นสมมุติมีการนำมาสร้างกันไม่รู้กี่รอบ เปลี่ยนดาราไปไม่รู้กี่คน ทั้ง ๆ ที่ตัวละครดังกล่าวต่างไม่มีตัวตนจริง แต่สำหรับผู้ที่มีบทบาทจริงในประวัติศาสตร์ มีการบันทึกวีรกรรมของเขาเอาไว้โดยเชลยศึกผู้รอดชีวิต ต้องรอหลังการเสียชีวิตของเขาผ่านไป ๓๑ ปี จึงมีผู้นำเอาเรื่องราวของเขามาสร้างเป็นละครให้คนทั่วไปได้รู้จักกัน

ที่ค้นเจอใน youtube มี ๒ คลิปนี้ที่มีการกล่าวถึงคุณบุญผ่อง คลิปทั้งสองมีก่อนที่จะมีการสร้างละคร

Boonpong - Legend of the River Kwai
http://www.youtube.com/watch?v=B3ixrls3s58


The Quiet Lions - Story of Weary Dunlop
http://www.youtube.com/watch?v=ukiGHoPDzJU