ถ้าคิดเป็นระยะทางแล้วในแต่ละปีดูเหมือนผมจะขับรถบนทางหลวงระหว่างจังหวัดมากกว่าขับรถในตัวเมือง
และถ้าคิดเป็นชั่วโมงก็ดูเหมือนว่าชั่วโมงการขับรถตอนกลางคืนจะพอ
ๆ กันกับชั่วโมงการขับรถตอนกลางวัน
ผมไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้เขาเรียนขับรถกันอย่างไร
สมัยตอนผมหัดขับรถนั้น
พออายุถึงเกณฑ์ทางบ้านก็ส่งให้ไปเรียนหัดขับรถ
โดยไปเรียนที่โรงเรียนสอนขับรถหน้าปากซอยเพราะที่บ้านไม่มีรถยนต์ใช้และไม่มีใครขับรถเป็น
เรียกว่าขับเป็นก่อนจะมีรถขับเสียอีก
การสอนขับรถในสมัยนั้นก็ไม่สอนเฉพาะเทคนิคการขับหรือกฎจราจรเพื่อทำข้อสอบ
แต่ยังมีการสอนเกี่ยวกับการซ่อมบำรุงฉุกเฉินในกรณีที่รถมีปัญหาที่เราพอจะแก้ไขเองได้
และเรื่องหนึ่งที่สอนกันคือการเปลี่ยนยาง
ในเส้นทางที่ขับเป็นประจำ
จากการสังเกตปัญหาส่วนใหญ่ที่ทำให้รถจอดข้างทางต้องคือปัญหาเรื่องยางแบนและยางระเบิด
ปัญหาเรื่องยางระเบิดเห็นเป็นประจำกับรถบรรทุกขนาดใหญ่ที่ตีข้างกระบะท้ายสูง
จะได้บรรทุกของได้เยอะ ๆ
อีกพวกก็รถปิ๊คอัพซึ่งพวกนี้มีทั้งยางแบนและเพลาหัก
(บรรทุกของหนักเกินกำลังไปเป็นเท่าตัว)
ส่วนรถเก๋งนั้นจะเป็นเรื่องยางแบนเป็นหลัก
เรื่องการเปลี่ยนยางรถเก๋งนี้แต่ก่อนจะเห็นคนขับ
(หรือผู้ที่ร่วมเดินทาง)
เป็นผู้ลงมือทำกันเอง
แต่เดี๋ยวนี้ไม่ค่อยจะเห็นกันเท่าไรแล้ว
คงเป็นเพราะว่าไม่ค่อยจะได้ทำกันเอง
เพราะเรียกใช้บริการต่าง
ๆ ที่มีผู้บริการให้ถึงที่
หรือไม่ก็ไปมีปัญหาอยู่บนทางด่วนซึ่งไม่ค่อยจะมีที่ว่างที่ปลอดภัยให้ทำการเปลี่ยนยางด้วยตนเอง
(ขนาดเข้าชิดขอบทางด้านซ้ายแล้วก็ยังมีพวกวิ่งแซงโดยใช้ขอบทางด้านซ้ายทางอีก)
ต้องเรียกรถเจ้าหน้าที่มาจอดปิดท้ายก่อน
จะปลอดภัยมากกว่า
ในการเปลี่ยนยางนั้นจะเริ่มจากการดึงเบรคมือให้รถอยู่กับที่เสียก่อน
ไม่ให้เกิดการเคลื่อนตัวในระหว่างที่หมุนประแจเพื่อคลายนอตที่ยึดล้อ
(เพียงแค่คลายให้หลวมแต่ยังไม่ถอดออก)
ก่อนที่จะยกรถด้วยแม่แรงนั้นก็จะนำเอายางอะไหล่มารองไว้ใต้ท้องรถใกล้ตำแหน่งที่จะยก
(ตามรูปข้างล่าง)
โดยกะให้แนวกลางล้ออยู่ตรงแนวรับน้ำหนักของแม่แรง
เหตุผลที่เขาบอกให้ทำอย่างนั้นก็เพราะว่าเขาไม่ให้ไว้ใจแม่แรง
เพราะแม่แรงติดรถนั้นเป็นเพียงแม่แรงขนาดเล็ก
ฐานที่วางกับพื้นนั้นก็ไม่ได้มีขนาดกว้างอะไร
อาจล้มเอียงได้ง่ายโดยเฉพาะเวลาวางบนพื้นที่ไม่ราบเรียบหรือไม่แน่น
(เช่นถนนลูกรัง)
หรือจับไม่ถูกกับตำแหน่งยกรถที่ถูกต้อง
ดังนั้นถ้าเกิดปัญหาใด ๆ
ทำให้แม่แรงไม่สามารถรับน้ำหนักรถได้
การวางยางอะไหล่ที่ตำแหน่งดังกล่าวจะช่วยป้องกันไม่ให้รถตกกระแทกพื้น
และถ้ามีคนอยู่ใต้ท้องรถก็จะได้ไม่โดนรถทับ
เมื่อยกรถขึ้นแล้วก็จะทำการถอดเอานอตล้อที่คลายเอาไว้ออกจนหมด
จากนั้นจึงนำเอาล้อเดิมออก
เอาล้อที่ถอดออกไปวางใต้ท้องรถแทนล้ออะไหล่
แล้วเอาล้ออะไหล่ใส่เข้าไปแทนล้อที่ถอดออกมา
ขันนอตกลับเข้าไปจนตึงมือ
จากนั้นจึงลดแม่แรงลงให้ล้อสัมผัสพื้นถนน
แล้วค่อยขันนอตล้อให้แน่น
ที่เล่ามาเป็นเรื่องที่ได้เรียนมาจากช่างรุ่นก่อน
ๆ ที่เขาบอกเล่าเอาไว้