ถือเสียว่าเป็นการบันทึกประวัติศาสตร์แบบไม่เป็นทางการของสถาบันนี้ก็แล้วกัน
เมื่อวานสอนหนังสือแต่เช้า
หลังจากรอดจากเหตุการณ์จอรับภาพร่วงใส่มาได้
(ที่เล่าเอาไว้เมื่อวาน)
กลับมายังภาควิชา
ก็มีเจ้าหน้าที่ที่ภาควิชาถามว่าไปดูรอยพญานาคมาหรือยัง
ผมเองยังไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร
พอทราบเรื่องก็เลยถือโอกาสหลังกินข้าวเที่ยงเสร็จออกไปเดินแวะชมสักหน่อย
โดยมีวัตถุประสงค์หลักก็คือจะไปถ่ายรูปเพื่อเอามาเขียนลงเป็น
Memoir
เผื่อเอาไว้เล่าให้คนรุ่นหลังสืบค้นหรือเอาไว้คุยเล่าได้ว่าเคยมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นที่สถาบันนี้บ้าง
และให้คนที่ไม่มีโอกาสได้เข้ามาสำรวจได้เห็นว่าร่องรอยนั้นเป็นอย่างไร
ต่างคน
ต่างความคิด ต่างความเชื่อ
เท่าที่ผมได้ศึกษามานั้นผมเห็นว่าศาสนาพุทธที่เผยแผ่เข้าไปยังดินแดนต่าง
ๆ นั้นไม่ได้เข้าไปลบล้างหรือทำลายความเชื่อดั้งเดิมทั้งหมด
แต่จะเข้าไปพิจารณาว่าความเชื่อดั้งเดิมนั้นสอดคล้องกับหลักคำสอนของศาสนาพุทธและสามารถอยู่ร่วมกับศาสนาพุทธได้หรือไม่
และถ้าอยู่ร่วมกันได้
ศาสนาพุทธเองก็จะนำตัวศาสนาไปวางไว้เหนือความเชื่อดั้งเดิมนั้น
ด้วยการปลูกฝังแนวความคิดที่ว่าผีสางนางไม้
เทพหรือรุกขเทวดาต่าง ๆ
ที่เดิมชาวบ้านนับถือนั้น
ต่างก็เคารพยำเกรงพระภิกษุผู้ปฏิบัติชอบ
ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ศาสนาพุทธอยู่ร่วมกับความเชื่อดั้งเดิมของท้องถิ่นได้
รูปที่
๒ อีกมุมหนึ่งของสถานที่เกิดเหตุ
รูปที่
๕ ส่วนต่อเนื่องจากรูปที่
๔
รูปที่
๗ บริเวณขั้นบันไดที่เกิดเหตุ
รูปที่ ๘ ร่องรอยบริเวณข้างบันไดที่เกิดเหตุ
รูปที่ ๙ คำชี้แจงจากทางสถาบัน
รูปที่ ๘ ร่องรอยบริเวณข้างบันไดที่เกิดเหตุ
รูปที่ ๙ คำชี้แจงจากทางสถาบัน
Memoir
ฉบับนี้คงไม่มีอะไร
เพียงแค่เอารูปสถานที่เกิดเหตุมาบันทึกเอาไว้เผื่อใครสนใจจะดูภาพเหตุการณ์ย้อนหลังแค่นั้นเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น