"ต้นไม้ไม่กินพวกเดียวกันเอง"
คำกล่าวนี้ผมได้ยินมาหลายปีแล้วจากชาวสวนผู้หนึ่ง
ดูเหมือนจะเป็นทางรายการโทรทัศน์ที่เกี่ยวกับการทำสวนผสม
ความหมายของเขาก็คือการปลูกต้นไม้นั้นควรปลูกหลากหลายพันธ์
ใบของต้นไม้ชนิดหนึ่งสามารถใช้เป็นปุ๋ยของต้นไม้อีกชนิดหนึ่งได้
แต่ไม่ควรเป็นต้นไม้ชนิดเดียวกันเอง
จะว่าไปพื้นที่สวนทางฝั่งธนบุรีและนนทบุรีที่อยู่ทางด้านฝั่งตะวันตกของแม่น้ำเจ้าพระยาก็มีลักษณะเช่นนี้
สวนแถวนี้มีลักษณะเป็นสวนรูปแบบดั้งเดิม
คือเป็นสวนที่ปลูกต้นไม้หลายหลาย
มีผลไม้และของกินออกมาวางขายกันทั้งปี
ไม่ได้ปลูกผลไม้ชนิดใดชนิดหนึ่งเหมือนพื้นที่สวนในจังหวัดอื่นที่มีการปลูกขึ้นภายหลัง
ชาวสวนเองก็เรียนรู้ต่อ ๆ
กันมาว่าถ้าปลูกต้นไม้ชนิดนี้ก็ต้องมีอีกชนิดควบคู่กันไปด้วย
เช่นถ้าปลูกทุเรียนก็ต้องมีทองหลางเอาไว้บังร่มให้ทุเรียน
เพราะทองหลางเป็นต้นไม้ใหญ่
สวนของคนอื่นที่อยู่หลังบ้านผมก็มีอยู่ต้นหนึ่ง
กะว่าน่าจะสูงร่วมยี่สิบเมตรได้
ต้นไม้ทั้งในบ้านผมเองและพื้นที่เพื่อนบ้านที่อยู่ติดกันนั้นต่างก็ปลูกต้นไม้กันหลากหลาย
มีทั้งไม้ดอกซึ่งนอกจากจะให้ความสวยงามแล้วยังเป็นแหล่งอาหารให้กับแมลงและนกบางชนิด
พอมีแมลงก็จะมีนกกินแมลงมาอาศัย
และก็ยังมีไม้ผลเล็ก ๆ
ที่เป็นอาหารนกด้วย
หนึ่งในน้ำก็คือ "ตะขบ"
รูปที่
๑ (ซ้าย)
ต้นตะขบที่โผล่มาขึ้นหลังบ้านหลังน้ำท่วมปี
๒๕๕๔ (ขวา)
รูปบนคือลูกตะขบที่ยังดิบอยู่
ส่วนรูปล่างเป็นลูกที่สุกแล้ว
สีแดงสดสวย
ต้นตะขบที่บ้านนั้นมันโผล่มาหลังน้ำท่วม
จัดว่าเป็นไม้เนื้ออ่อนที่โตเร็ว
เพียงแค่ไม่ถึงสองปีมันโตจนชนหลังคาบ้านหลายครั้งแล้วจนต้องตัดยอดออก
(กลัวงูเลี้อยเข้าบ้านทางหน้าต่างชั้นสอง)
ก่อนตัดกิ่งก็ต้องมาเล็งดูก่อนว่ามีนกมาทำรังอยู่หรือเปล่า
ต้นตะขบนี้ออกดอกเล็ก ๆ
สีขาว แล้วก็กลายเป็นลูกสีเขียว
พอสุกก็จะเป็นสีแดง (รูปที่
๑)
ลูกสีแดงนี้เก็บกินเป็นผลไม้ได้
ตอนที่ลูกสาวคนเล็กยังเป็นเด็กเล็กอยู่นั้นก็ชอบให้อุ้มไปเก็บลูกตะขบกิน
ต้นตะขบที่พาลูกไปเก็บกินลูกนั้นก็เป็นต้นที่ขึ้นอยู่ด้านหลังหอสมุดของมหาวิทยาลัยบูรพาตรงแถว
ๆ ลานจอดรถ แต่ตอนนี้ก็ไม่เหลือแล้ว
เพราะทางมหาวิทยาลัยเอาพื้นที่ดังกล่าวไปสร้างเป็นอาคารเรียน
ได้ยินผู้ใหญ่พูดกันมานานแล้วว่าถ้าอยากให้รอบ
ๆ บ้านมีนกอาศัยอยู่ก็ให้ปลูกตะขบ
เพราะผลของมันเป็นอาหารของนกที่กินผลไม้
และก็ดูเหมือนว่าจะเป็นเช่นนั้น
เพราะที่ผ่านมาถึงเวลาเช้าเมื่อใดเป็นอันต้องได้ยินเสียงนกร้องเป็นประจำ
ไม่จำเป็นต้องหานกสวยงามมาขังไว้ในกรง
รูปที่
๒ (ซ้าย)
ต้นชะมวงข้างบ้าน
(ขวา)
ใบของมันที่นำมาต้มกิน
ข้างบ้านเก่ายังมีไม้ยืนต้นอีกต้นหนึ่งที่ใบของมันนำมาใช้เป็นอาหารได้
คือ "ชะมวง"
ไม้ชนิดนี้คนทางภาคตะวันออกแถวจันทบุรีและตราด
และคนทางใต้จะรู้จักกันดี
เขาจะนำใบชะมวง (ใบอ่อนที่ไม่แก่เกินไป)
มาต้มทำแกง
ส่วนใหญ่ที่เห็นทำกันก็ต้มกับขาหมูบ้าง
ซี่โครงหมูบ้าง สามชั้นบ้าง
แต่ยังไม่เคยเห็นเอาไปต้มกับสัตว์ชนิดอื่นนอกจากหมู
และยังไม่เคยเห็นเอาไปผัดหรือทำอย่างอื่นนอกจากต้ม
ใบชะมวงเมื่อต้มแล้วจะให้น้ำแกงที่ออกรสเปรี้ยว
(ส่วนจะเป็นแกงจืดหรือเผ็ดก็แล้วแต่คนทำ)
รสเปรี้ยวของใบชะมวงจะแตกต่างไปจากรสเปรี้ยวของมะนาวและใบมะขาม
ผมชอบแบบที่เป็นแกงจืดมากกว่าเพราะซดน้ำแกงกินอร่อยดี
ถ้าไม่นับแปลงผักและพืชกระถางแล้ว
พวกที่ปลูกลงดินตอนนี้ก็ดูเหมือนจะอยู่กันเองได้
เวลาตัดแต่งกิ่งไม้แต่ละทีผมก็เอากรรไกรตัดกิ่งไม้ซอยกิ่งให้มันเป็นท่อนเล็ก
ๆ เอาเศษกิ่งเศษใบเล็ก ๆ
ของต้นไม้ชนิดหนึ่งไปโยนใส่โคนต้นของต้นไม้อีกชนิดหนึ่ง
เพื่อทดสอบคำกล่าวข้างต้น
ก็พบว่าต้นไม้มันก็อยู่ของมันได้
งอกงามได้ดีโดยไม่ต้องใส่ปุ๋ยเพิ่มเติม
แสดงว่ามันเป็นดังคำกล่าวที่คนทำสวนเขาบอกต่อ
ๆ กันมาจริง ๆ
เรื่องต้นไม้ไม่กินพวกเดียวกันเองนี้เคยได้ยินรายการทางสถานีวิทยุเสียงจากอเมริกา
(Voice
of America หรือ
VOA)
ที่เปิดฟังเป็นประจำตอนเช้า
ๆ เวลาขับรถไปทำงาน
มีอยู่วันหนึ่งเขาอ่านรายงานของนักวิจัยชาวสหรัฐว่าพบว่าต้นไม้ที่ขึ้นในป่าที่มีพืชหลากหลายสายพันธุ์นั้นจะเจริญเติบโตได้ดีกว่าป่าที่มีสายพันธุ์น้อยกว่า
พอได้ยินคำกล่าวนี้ก็นึกถึงคำกล่าวที่บอกเล่าต่อ
ๆ กันมาของชาวสวนบ้านเรา
แสดงว่าชาวบ้านในบ้ายเรานั้นเขารู้เขาเห็นกันมานานมากแล้ว
ก่อนที่นักวิจัยผรั่งจะรู้อีก
สวนรอบบ้านผมนั้นถ้าเอาคนจัดสวนตามบ้านจัดสรรมาดูก็คงจะบอกว่าหาความสวยงานอะไรไม่ได้
เพราะปลูกต้นไม้ไม่เป็นระเบียบ
ไม่มีไม้มงคลประเภทนั้นประเภทนี้ปลูกเอาไว้ตามมุมโน้นมุมนี้ของบ้าน
ที่เลือกปลูกก็เน้นการใช้ประโยชน์เป็นหลัก
เน้นพืชสวนครัวและพืชที่คนอื่นเขาไม่ปลูกกันมากกว่า
เพื่อให้ลูก ๆ ได้เห็น
แต่ก็ยังต้องมีมุมไม้ดอกอยู่บ้างเพื่อความสวยงา,และเรียกแมลงให้เข้ามาในบ้าน
จะได้ช่วยผสมเกสรดอกไม้ต่าง
ๆ และเรียกนกกินแมลงให้แวะเข้ามา
รูปที่
๓ (ซ้าย)
ดอกเทียนหยด
(ขวา)
ดอกกุหลาบ
ทั้งคู่ปลูกเอาไว้ข้างชิงช้าหน้าบ้าน
ปิดท้ายก็ขอเอารูปดอกเทียนหยดและดอกกุหลาบที่กำลังออกดอกอยู่มาฝาก
ทั้งคู่ปลูกเอาไว้ใกล้กับชิงช้าโยกที่ตั้งไว้หน้าบ้าน
(มุมโปรดสำหรับนั่งกินกาแฟตอนเช้า
ๆ ของผม)
เทียนหยดมันออกดอกทั้งปี
เรียกแมลงเข้ามาหาน้ำหวานกินเป็นประจำ
บางทีก็มีผึ้งแวะเข้ามาด้วย
ท้ายสุดก็ขอขอบคุณสมาชิกกลุ่มโดยเฉพาะสาวน้อยจากเมืองวัดป่ามะม่วงและสาวน้อยจากเมืองขุนแผนที่เข้ามาช่วยงาน
open
house ของกลุ่มเราในวันเสาร์ที่ผ่านมา
ที่ตั้งใจจะรับ ๒ คนจากทั้งหมด
๔ คนก็ได้ตามนั้น (อีก
๒ คนตั้งใจจะรับในรอบถัดไป)
ตอนนี้ก็ได้แต่รอดูว่าเมื่อถึงเวลาจริงจะมากันกี่คน
เพราะคงต้องรออีกปีหนึ่งเนื่องจากมหาวิทยาลัยเลื่อนเปิดการศึกษาในปีการศึกษาหน้าออกไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น