แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ วิศวกรรมศาสตร์ แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ วิศวกรรมศาสตร์ แสดงบทความทั้งหมด

วันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2562

ฝากเก็บเอาไว้ ณ ที่ที่คุณเห็นสมควร MO Memoir : Friday 17 May 2562

"ความสุขของคนเป็นอาจารย์ (อย่างผม) อยู่ตรงไหนหรือครับ ก็ตามเนื้อเพลงที่ผมนำมาประกอบวิดิทัศน์ที่ขอให้เขาเปิดให้พวกคุณดูในระหว่างการปัจฉิมนิเทศน์เมื่อช่วงตอนเย็นที่ผ่านมา (ถ้าเขาไม่ลืมที่จะเปิดให้นะครับ) เป็นความตั้งใจของผมเองครับที่จะไม่อยู่ในช่วงเวลานั้น เพราะการมาพบกันเพื่อกล่าวคำลาจากกันมันไม่ใช่เรื่องสนุก ก็ได้แต่หวังว่าเมื่อมองย้อนกลับไป พวกคุณคงจะมีความประทับใจที่ได้มีโอกาสมาใช้ชีวิตในภาควิชานี้ในช่วงเวลา ๓ ปีที่ผ่านมา"

ข้อความข้างต้นคือบทปิดท้ายบันทึกฉบับ "ที่ระลึกนิสิตวิศวกรรมเคมี ๕๘ ฝากเก็บเอาไว้ ณ ที่ที่คุณเห็นสมควร" ซึ่งเป็นฉบับรวมรวมภาพถ่าย ที่บันทึกภาพการเรียนของนิสิตปริญญาตรี รหัส ๕๘ ของภาควิชาวิศวกรรมเคมีในขณะที่กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ ๒ ร่วม ๑๓๐๐ ภาพ

"การอ่านหนังสือที่ไม่มีรูปภาพประกอบนั้นมันก็มีข้อดีตรงที่ มันเปิดโอกาสให้ผู้อ่านได้ใช้จินตนาการของตนเองในการสร้างภาพเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่ผู้ประพันธ์ได้บรรยายเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นภูมิประเทศหรือตัวละครต่าง ๆ โดยผู้อ่านแต่ละคนก็ไม่จำเป็นต้องมีภาพเดียวกัน หรือแม้แต่จะเป็นผู้อ่านคนเดิม เมื่อมาอ่านซ้ำใหม่อีกครั้ง ก็ไม่จำเป็นต้องเห็นภาพเดิม ๆ
 
ในทำนองเดียวกัน รูปเขียนที่ไม่ได้เก็บรายละเอียดเอาไว้อย่างชัดเจนทุกอย่าง ก็เปิดโอกาสให้ผู้ที่ได้ชมได้สร้างจินตนาการส่วนที่ขาดหายไป ซึ่งผู้ชมแต่ละคน ก็ไม่จำเป็นต้องเห็นรูปนั้นในแบบที่ซ้ำกัน หรือแม้แต่คนเดิมเมื่อมาชมใหม่ ก็ไม่จำเป็นต้องมองเห็นรูปนั้นในแบบที่ซ้ำเดิม
 
รูปถ่ายก็เช่นกัน เมื่อเทียบกับภาพเคลื่อนไหวแล้ว รูปถ่ายเป็นเพียงแค่การบันทึกภาพเหตุการณ์ ณ เสี้ยววินาทีหนึ่ง ส่วนที่ว่าก่อนหน้านั้นหรือหลังจากนั้นเรื่องราวมันเป็นอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับผู้ได้เห็นแต่ละคน แต่ผู้ที่น่าจะรู้ดีที่สุด (ถ้าเขายังจำได้) ก็คือผู้ที่ปรากฏอยู่ในรูปนั้นเอง"

วันนี้ เป็นวันที่พวกเขาต่างเสร็จสิ้นการสอบทั้งหมด ผมไม่ได้คาดหวังให้พวกเขาต้องรีบเปิดดูทุกภาพที่ส่งมอบให้จนหมด หวังแต่เพียงว่าเขาคงจะเอามันไปเก็บไว้ที่ไหนสักแห่งที่เขาคิดว่าสมควร เพราะบางสิ่งนั้น คุณค่าของมันจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อ มันถูกลืมไปก่อน ก่อนที่จะมาพบเจอใหม่ภายหลัง

สิ่งสุดท้ายที่อยากจะกล่าวกับพวกคุณในวันนี้ก็คือคำอวยพร ที่ขอให้ทุกคนมีความสุขกายสบายใจในชีวิตทุกคน

ดาวน์โหลดไฟล์ pdf (ความละเอียดต่ำ) ได้ที่นี่

ดาวน์โหลดไฟล์ pdf (ความละเอียดสูง) ได้ที่นี่

ดาวน์โหลดไฟล์วิดิโอได้ที่นี้

 

วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2561

อาจารย์คะ หนูคิดจะย้ายที่ปรึกษาค่ะ MO Memoir : Friday 5 October 2561


"ในฐานะที่เป็นอาจารย์ ผมเองก็ไม่เคยคิดว่าตนเอง "รัก" นิสิตในที่ปรึกษาทุกคนเท่ากันหรอกครับ
แต่สิ่งที่คิดอยู่เสมอว่าต้องทำในการปฏิบัติหน้าที่เป็นอาจารย์ก็คือการให้ "ความเป็นธรรม" ที่เท่าเทียมกันกับนิสิตในที่ปรึกษาทุกคน
ซึ่งเป็นสิ่งที่พยายามจะทำให้ดีที่สุด
เพราะการหลงในความ "รัก" นั้น มันนำไปสู่การให้ "สิทธิพิเศษ" ในหน้าที่การงานให้กับใครบางคน ซึ่งจะนำไปสู่ความแตกแยกภายใน
และนั่นก็เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดปัญหาในการเรียนระดับบัณฑิตศึกษาของภาควิชาเรามาตลอด แม้กระทั่งปัจจุบัน
ผมเชื่อว่าสิ่งที่หลายคนได้เรียนไปจากผมนั้น ไม่ใช่สิ่งที่เขียนลง blog (เพราะปรกติก็ไม่เห็นจะอ่านกันเลยสักคน)
แต่เป็นสิ่งที่ไม่ได้เขียนลง blog ที่ปรากฏข้อความ "เอกสารฉบับนี้แจกจ่ายเป็นการภายใน ไม่นำเนื้อหาลง blog"
เพราะมันเป็นบันทึกปัญหาที่เกิด การพิจารณาหาสาเหตุ และแนวทางการแก้ไข
ด้วยเหตุนี้ เวลาที่เราเจอปัญหาแต่ละที แล้วเราข่วยกันแก้ไขจนผ่านมันไปได้
ผมจึงมักจะโดนนิสิตถามเป็นประจำว่า อาจารย์จะออก Memoir ไหม
แสดงว่าตอนบอกให้ฟังคงไม่ค่อยสนใจ หรือรับฟังได้ไม่หมด แต่ก็ยังดีที่เอาสิ่งที่เขียนให้ไปอ่าน :) :) :)
ปล. ทำไมถึงมีโพสนี้โผล่มาก็อย่าไปสนใจอะไรเลยนะครับ ถือเสียว่าผมเขียนเอาไว้เตือนใจตนเองก็แล้วกัน นาน ๆ ครั้งถึงจะคุยโทรศัพท์แต่ละครั้งนานเกิน ๒ นาที วันนี้ล่อเข้าไปเกือบชั่วโมง (ปรกติก็ใช้โควต้า ๑๐๐ นาทีต่อเดือนไม่หมดอยู่แล้ว) :) :) :)"
 
ข้างบนคือข้อความที่ผมโพสไว้บนหน้า facebook เมื่อวันอาทิตย์ที่ ๑๓ พฤษภาคมที่ผ่านมาที่อาจทำให้พวกคุณสงสัยว่ามันมีเรื่องอะไรเกิดขึ้น แต่ก็เชื่อว่าตอนนั้นพวกคุณก็คงพอจะเดากันได้อยู่

ณ วันเวลานี้ เหตุการณ์นั้นก็จบสิ้นไปได้ด้วยดีแล้ว โดยที่พวกคุณที่เข้ารับพระราชทานปริญญาในวันนี้ก็มีส่วนให้ความช่วยเหลือให้เหตุการณ์ดังกล่าวลงเอยด้วยดี ทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยที่พวกคุณอาจจะไม่รู้ตัวก็ตาม
 
ผมเองเชื่อว่าคงไม่มีอาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์คนไหนที่เป็นที่ชื่นชอบของนิสิตที่ตัวเองสอนทุกคน และในทางกลับกันก็คงไมมีใครที่เป็นที่ไม่ชอบของนิสิตในที่ปรึกษาทุกคนด้วย ด้วยเหตุนี้ตอนที่ผมจะรับนิสิตใหม่ในแต่ละปี ผมจึงมักจะย้ำให้พวกเขาต้องหาโอกาสคุยกับคนที่กำลังเรียนอยู่ โดยเฉพาะกับคนที่มีผมเป็นอาจารย์ที่ปรึกษา
 
แต่สำหรับพวกคุณทั้ง ๔ คนที่เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรในวันนี้ดูเหมือนว่าผมเป็นคนเลือกพวกคุณเองโดยที่พวกคุณต่างก็ไม่มีข้อมูลอะไรเกี่ยวกับผมมาก่อน :) :) :)
 
ส่วนสาเหตุที่ผมรับพวกคุณก็เพราะอาจารย์คนอื่นในกลุ่มเขาไม่สนใจพวกคุณ 55555
 
แต่สำหรับนิสิตปี ๑ และปี ๒ ทั้ง ๕ คนที่กำลังเรียนอยู่ตอนนี้ ๔ คนเป็นเด็กฝาก เด็กที่รุ่นพี่ที่เรียนกับกลุ่มอื่นพามาขอให้ผมช่วยรับเอาไว้ มีเพียงคนเดียวที่เลือกผมเพราะเห็นรูปรุ่นพี่เขาปรากฏในแผ่นพับประชาสัมพันธ์กลุ่มของเรา
 
แสดงว่าเอกสารประชาสัมพันธ์ของเรามันใช้ไม่ได้ผล :( :( :(
 


สภาพแวดล้อมทางสังคมของบ้านเรามันส่งผลต่อระบบการศึกษาในโรงเรียน กล่าวคือทำให้ผู้เรียนไม่กล้าที่จะถามคำถามกับผู้สอนในสิ่งที่ตัวเองไม่รู้ การเรียนการสอนที่จำเป็นต้องมีการถกเถียงหาข้อโต้แย้งจึงมีปัญหา สิ่งแรกที่ผมต้องพยายามทำให้ได้กับสมาชิกใหม่ของกลุ่มก็คือทำอย่างไรเขาจึงกล้าที่จะปรึกษาและรายงานปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในระหว่างการทำงาน แทนที่จะเก็บเงียบงำเอาไว้เหมือนกับมันไม่มีอะไร และทำอย่างไรจึงจะสามารถชี้ให้เห็น "จุดอ่อน" หรือ "จุดบกพร่อง" ของงานที่ได้ทำไปแล้วนั้น (รวมทั้งการแอบสั่งงานเพิ่มด้วยโดยไม่ให้พวกคุณรู้ตัว) โดยไม่ทำให้ผู้ทำงานเสียกำลังใจหรือเสียความรู้สึก สิ่งเหล่านี้เป็นการกระทำทื่ใช้เวลาและต้องหาโอกาสที่เหมาะสม ไม่มีสูตรสำเร็จและไม่สามารถเร่งรัดให้เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว


ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเห็นว่ากลุ่มของเราเมื่อใดก็ตามที่มีการประชุมความก้าวหน้าของงานนั้น ในเวลาประชุม ๖๐ นาทีหรือมากกว่า จะมีเรื่องงานอยู่เพียงแค่ ๑๐ ถึง ๑๕ นาที ส่วนที่เหลือมักจะเป็นการคุยเรื่องไร้สาระ เสียมากกว่า (ถ้ามองในแง่เรียกประชุมเพื่อคุยเรื่องความก้าวหน้าของงาน)
 
แต่จะว่าไปก็เป็นส่วนที่เป็นส่วนที่เป็นการคุยเรื่องไร้สาระเหล่านี้ไม่ใช่หรือ ที่ทำให้ทางกลุ่มของเราเองมีความสนิทสนมกัน สร้างความสัมพันธ์ระหว่างพวกคุณด้วยกันเองที่ต่างคนต่างมาจากแหล่งต่างกันเพื่อมาพบหน้ากัน ณ ที่นี้ ให้เป็นความสัมพันธ์ฉันเพื่อนที่ยืนยาวตลอดไป แม้ว่าหลังจากสำเร็จการศึกษาแล้วต่างคนต่างจะแยกย้ายไปตามทางของตนเอง (ซึ่งจะว่าไปแล้วเชื่อว่าจะเป็นเช่นนี้ เพราะดูแววแล้วพวกคุณที่เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรในวันนี้ คงไม่มีการจับคู่แต่งงานด้วยกันแน่นอน)

สอบวิทยานิพนธ์ วันพฤหัสบดีที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๖๐

สอบวิทยานิพนธ์ วันศุกร์ที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๖๐

".... ผมตั้งข้อความนี้ให้มีเฉพาะคุณที่เห็นได้
จากเวลานี้ไปจนถึงวันอังคาร คุณยังมีเวลาที่จะทบทวนความคิดของคุณ รวมทั้งสิ่งที่ผมได้บอกคุณไป
สิ่งที่ควรทำก็คือการปรึกษาผู้อื่น เผื่อจะได้มีมุมมองที่แตกต่างออกไปในการแก้ปัญหา และข้อดีข้อเสียของแนวทางการแก้ปัญหาแต่ละแนวทาง
สิ่งที่ต้องระวังเวลานี้ก็คือ แนวความคิดที่ตรงกับที่คุณปักใจเชื่ออยู่ เพราะมันจะทำให้คุณปฏิเสธมุมมองอื่นจนอาจทำให้คุณสูญเสียทางเลือกที่อาจดีกว่าไปได้
สิ่งที่คุณกำลังประสบนั้น เป็นปัญหาที่เกิดมาอย่างต่อเนื่องในภาควิชาเรา มีมาเยอะแล้ว แต่ก็ยังเกิดขึ้นอยู่เรื่อย ๆ รุ่นก่อนหน้าคุณหลายต่อรายคน (โดยเฉพาะนิสิตในแลปเดียวกับผม) ก็เคยมาปรับทุกข์กับผมเรื่องนี้
เงื่อนไขหนึ่งในการสำเร็จการศึกษาระดับป.โท ก็คือ การมีการเผยแพร่ผลงาน
แต่ตรงนี้แม้จะไม่มีข้อกำหนดชัดเจน แต่ก็เป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่ว่าควรต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับงานวิจัยที่ตนเองทำ
ผมเองไม่เคยได้ยินว่าสามารถใช้งานเผยแพร่ที่แตกต่างไปคนละเรื่องกับวิทยานิพนธ์ในการขอจบได้
นิสิตในแลปแคตรายหนึ่งก็เคยคิดแบบคุณ ผมได้ยินว่าเขาไปติดต่อขอเอกสารย้ายอาจารย์ที่ปรึกษาจากธุรการ
ผมไม่รู้ว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร เพราะผมไม่เคยคุยกับเขาในเรื่องนี้ แต่ดูเหมือนว่าหลังจากคุยกับอาจารย์ที่ปรึกษาของเขาแล้วเหตุการณ์ก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น (หน่อย) แม้ว่าคงเป็นการยากเหมือนกันที่เขาจะจบในภาคการศึกษานี้
ผมเองมาทราบเรื่องหลังจากเรื่องจบไปแล้ว
ในบางเรื่อง (ย้ำนะ เพียงแค่บางเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่ไม่ทำให้เกิดความเสียหายต่อผู้อื่น) คนเป็นพ่อแม่อาจไม่ได้พูดความจริงกับลูกทุกครั้งเสมอไป
แต่ถ้าการโกหกลูกนั้นมันทำให้ลูกมีความสุขและรู้สึกดีขึ้นมาได้ เขาก็จะทำ (ผมเองบางครั้งก็เป็นเช่นนั้น) ..."

หลายครั้งที่ทางผมเองมีนิสิตที่อยู่กับอาจารย์ที่ปรึกษาท่านอื่นมาขอคำปรึกษา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำวิจัยหรือความเครียดจากงานวิจัย หรือบ่อยครั้งที่พวกคุณก็คงจะเคยเห็นที่เขาแวะมานั่งคุยกับกลุ่มของเรา นั่นคงเป็นเพราะเขาคงต้องการพักผ่อนจากความเครียดในการทำการทดลอง จะว่าไปกลุ่มของเราก็แปลกนะ เรานั่งคุยกันเองโดยมีอาจารย์นั่งอยู่ด้วย แต่นิสิตกลุ่มอื่นก็ไม่นึกกลัวที่จะเข้ามานั่งร่วมวงสนทนา ไม่เหมือนกลุ่มอื่นเขาที่ถ้าหากมีอาจารย์นั่งอยู่ด้วย ก็จะไม่มีนิสิตกลุ่มอื่นเฉียดกรายเข้าไปแถวนั้นนะ
 
หรือที่จริงเป็นเพราะว่าที่ประจำของการนั่งสนทนาของกลุ่มเรา คือสามแยก SCR มันตั้งอยู่ ณ ตำแหน่งที่ขวางทางเดินเข้า-ออกที่มีอยู่เส้นทางเดียวของห้องแลปนั้น :) :) :)


สอบวิทยานิพนธ์ วันพฤหัสบดีที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๑

สอบวิทยานิพนธ์ วันจันทร์ที่ ๒๘ พฤษภาคม ๒๕๖๑

สอบวิทยานิพนธ์ วันพฤหัสบดีที่ ๗ ธันวาคม ๒๕๖๐ หวังว่าอีก ๒ คนในรูปคงจะได้สอบภายในปีการศึกษานี้


สามแยก SCR ณ วันศุกร์ที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๖๑ สถานที่ยินดีต้อนรับทุกรายที่ประสงค์ต้องการพักผ่อนจากการทำการทดลองหรือการประชุมกลุ่ม รวมทั้งอัปเดตข่าวคาว (ไม่มี "ร" นะครับ) ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในแลป :) :) :) โต๊ะทำงานมุมนี้ก็สอนให้เรารู้ว่าความหรูหราของสถานที่นั้นไม่ใช่สิ่งสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด ความจริงใจของผู้ร่วมสนทนานั้นคือสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าในการสร้างบรรยากาศการสนทนา

วันศุกร์ที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๑ นิสิตป.โทปี ๑ และปี ๒ ของกลุ่ม


วันอังคารที่ ๒๓ พฤษภาคม ๒๕๖๐ ประชุมเขียนวิทยานิพนธ์ ห้องสมุดคณะวิศวกรรมศาสตร์

Memoir ฉบับนี้ที่เป็นฉบับสุดท้ายที่จะส่งให้พวกคุณที่เข้ารับพระราชทานปริญญาบัตรในวันนี้ ผมเขียนเอาไว้หลายวันแล้ว เหลือแต่รอเพียงแค่รูปภาพสุดท้ายที่จะนำมาลงปิดท้ายบันทึกฉบับนี้ ด้วยหน้าที่การงานผมก็จำเป็นต้องสอนและฝึกพวกคุณตามบทบาทที่ได้รับมอบหมาย แต่สิ่งสำคัญที่อยากให้พวกคุณได้ไปก็คือ การได้รู้ว่าตัวเองนั้นชอบที่จะเป็นอะไร จะทำงานในสายวิชาชีพนี้ต่อหรือจะเปลี่ยนเส้นทาง และหวังว่าสิ่งสำคัญที่พวกคุณได้รับไปในระหว่างการที่พวกเราได้อยู่ร่วมกันนั้น คือความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกันในหมู่พวกคุณด้วยกันเอง ที่ควรค่าแก่การรักษาเอาไว้ให้คงอยู่ตลอดไป ท้ายสุดนี้ก็ขอให้ทุกคนประสบแต่ความสุขความสำเร็จในชีวิตตลอดไป

วันศุกร์ที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๑ ก่อนเข้ารับพระราชทานปริญญาบัตร

หมายเหตุปิดท้าย : ขอบคุณมากครับสำหรับของขวัญ คงต้องหาโอกาสเหมาะ ๆ สักวันเพื่อนำมาใช้ครับ :) :) :)

วันศุกร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

ในที่สุด การเดินทางก็มาถึงวันนี้ MO Memoir : Friday 18 May 2561

" ... เคยไหมครับ ระหว่างที่รื้อข้าวของเก่า ๆ ที่คิดว่าจะไม่ใช้แล้ว เพื่อทิ้ง หรือบริจาค แล้วก็ไปพบกับเอาสิ่งของเล็ก ๆ สักสิ่ง รูปภาพสักใบ หรือกระดาษเขียนข้อความสักแผ่น ที่มันซุกอยู่ในกองข้าวของเหล่านั้น สิ่งที่จะว่าไปแล้วก็เป็นสิ่งธรรมดา ๆ สิ่งหนึ่ง แต่มันก็สามารถทำให้คุณหยุดการทำงานลงชั่วขณะ เพื่อทบทวนว่าสิ่งนั้นคุณได้มาอย่างไร ก่อนที่คุณจะตัดสินใจ ว่าจะโยนมันทิ้งไป หรือแยกเอาออกมา แล้วซุกเก็บเอาไว้ต่อไป 

ความทรงจำก็เช่นกัน 

วันนี้ ถือได้ว่าเป็นการสิ้นสุดชีวิตการเรียนในระดับปริญญาตรีของพวกคุณทุกคน วันที่แต่ละคนต่างมองเส้นทางที่จะก้าวต่อไปข้างหน้า ว่าจะต้องไปประสบพบกับอะไรบ้าง แต่เมื่อใดก็ตามที่คุณรู้สึกเหนื่อย อยากหยุดพักผ่อน หรือมีปัญหาที่ไม่รู้ว่าจะต้องรับมืออย่างไร บางครั้ง การหันกลับมาทบทวนสิ่งที่ได้ผ่านมาในอดีต ที่คุณลืมนึกถึงมันไป ก็อาจพอช่วยคุณได้บ้าง ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์การรับมือกับเหตุการณ์ในทำนองเดียวกันก่อนหน้านั้น หรือเป็นเพียงแค่กำลังใจให้ก้าวเดินต่อไป หรือทำให้คุณระลึกถึงใครสักคน ที่อาจพอช่วยคุณได้ ... "

ผมสอนพวกเขาตั้งแต่วันแรกที่พวกเขาเข้าภาควิชา มาเป็นนิสิตปี ๒ ของภาค เป็นการสอนวิชาปฏิบัติการ ในวันแรกที่พวกเขาเข้ามาเรียนวิชาปฏิบัตการนั้น ผมก็จะถ่ายรูปพวกเขาเอาไว้ แล้วบอกว่า "อีก ๓ ปีเมื่อเรียนจบแล้ว ค่อยกลับมาดูใหม่นะ" เพื่อที่พวกเขาจะได้เปรียบเทียบว่าเวลาผ่านไป ๓ ปี กับการเรียนสาขาวิศวกรรมเคมีนั้น ทำให้พวกเขาเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยเท่าใด

และในที่สุด วันนี้ วันที่พวกเขาเสร็จสิ้นการสอบทุกวิชาอย่างเป็นทางการแล้ว เหลือเพียงแค่การรอการประกาศผลสอบ ผมก็ถือว่าได้เวลาที่ควรส่งคืนภาพความทรงจำของพวกเขาคืนให้แก่พวกเขาไป

สิ่งสุดท้ายที่ผมอยากจะขอมอบให้พวกเขาทุกคนในวันนี้คือ คำอวยพร ที่ขอให้ทุกคนโชคดี มีความสุขในชีวิตทุกคน 

ดาวน์โหลดไฟล์ภาพฉบับ pdf ได้ที่นี้ 

ไฟล์ภาพความละเอียดต่ำ (37 Mb)

ไฟล์ภาพความละเอียดสูง (70 Mb)



วันอังคารที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2561

MO Memoir รวมบทความชุดที่ ๑๙ กว่าจะเป็นวิศวกรเคมี (๒) MO Memoir : Tuesday 16 January 2561

"บันทึกเรื่องราวในอดีต เพื่อให้คนรุ่นปัจจุบันได้รู้เห็น และเพื่อให้คนรุ่นนั้นได้รำลึกถึง
บันทึกเรื่องราวที่เพิ่งเกิด เพื่อให้คนรุ่นก่อนได้รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลง และเพื่อเป็นบันทึกความทรงจำให้คนรุ่นปัจจุบันเผื่อพวกเขาจะลืม
บันทึกเรื่องราวที่เกิด ที่ไม่ได้เจาะจงไปที่เรื่องราวของใครคนหนึ่ง แต่เป็นเรื่องที่ทุกคนต่างมีส่วนร่วมกันสร้างขึ้นมา
บันทึกภาพสถานที่ธรรมดา ๆ ที่อาจเป็นเพียงแค่เส้นทางเดินทางผ่านสำหรับใครต่อใคร แต่อาจเป็นสถานที่ที่เป็นที่เกิดเหตุการณ์ที่สำหรับคนบางคนแล้ว มันมีค่าควรแก่การจดจำตลอดไป ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องที่ทำให้สุขหรือทุกข์ก็ตาม
สำหรับคนที่จบไปแล้ว เรื่องราวของชีวิต ๔ ปีในรั้วมหาวิทยาลัย เป็นเรื่องที่ไม่สามารถจะกลับมาแก้ไขได้ แต่เป็นเรื่องที่สามารถกลับมารำลึกถึงได้
สำหรับคนที่ยังเรียนอยู่ ยังสามารถใช้เวลาที่เหลืออยู่ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่ควรค่าแห่งการจดจำ ไม่ว่าจะเป็นในความทรงจำของตนเอง หรือของผู้อื่นที่อยู่รอบข้าง"


ข้อความข้างต้นมาจากส่วนเกริ่นนำ "เปิดลิ้นชักความทรงจำ" ของรวมบทความชุดที่ ๑๙ "กว่าจะเป็นวิศวกรเคมี (๒)" ที่ได้รวบรวมภาพ ๑๐๐ ภาพ (ภาพที่ ๑๐๑ - ๒๐๐) ที่ได้นำลงหน้า blog ในกล่อง "กว่าจะเป็นวิศวกรเคมี" และบทความบางเรื่องที่เกี่ยวกับเรื่องราวในมหาวิทยาลัยที่เคยนำลง blog เอาไว้แล้ว รวมทั้งสิ้นประมาณ ๒๓๐ หน้า A-4


หลายคน ที่มาเรียนที่ภาควิชานี้ เพราะอยากประกอบอาชีพทางด้านนี้
หลายคน ที่มาเรียนที่ภาควิชานี้ เพราะคิดว่าสาขาวิชาชีพนี้น่าสนใจ
หลายคน ที่มาเรียนที่ภาควิชานี้ เพราะไม่รู้ว่าจะไปเรียนสาขาไหนดี
และหลายคน ที่มาเรียนที่ภาควิชานี้ เพราะโดนกดดันให้มาเรียน
 
แต่ไม่ว่าแต่ละคนจะเข้ามาเรียนด้วยสาเหตุใด หน้าที่ของอาจารย์ผู้สอนก็คือการถ่ายทอดความรู้และแสดงให้เห็นว่าสาขาวิชาชีพนี้เป็นอย่างไร ส่วนผู้เรียนนั้นเมื่อสำเร็จการศึกษาไปแล้ว จะตัดสินใจทำงานในสาขาวิชาชีพนี้ต่อไปหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเขาเหล่านั้นเอง

วันอาทิตย์ที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2561

ภาพบันทึกความทรงจำ กว่าจะเป็นวิศวกรเคมี ๑๙๑-๒๐๐ MO Memoir : Sunday 14 January 2561

วันนี้เป็นวันที่เอาภาพที่ ๒๐๐ ของชุด "กว่าจะเป็นวิศวกรเคมี" ลงหน้า blog ก็เลยถือโอกาสนำภาพ ๑๐ รูปสุดท้ายมารวบรวมเอาไว้เลย (ไม่รวมภาพแรกที่อยู่ในหน้านี้) เพื่อที่จะได้จัดทำเป็นรวมบทความ "กว่าจะเป็นวิศวกรเคมี" อีกชุดหนึ่ง ให้ดาวน์โหลดกัน จากนั้นก็คงจะนำเอากล่อง "กว่าจะเป็นวิศวกรเคมี" ออกจากหน้า blog ไประยะหนึ่ง แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะนำเรื่องใดเข้ามาแทน
 
บางรูปที่นำมารวบรวมไว้เป็นรูปที่เพิ่งจะค้นเจอ ไม่เคยนำลงหน้า facebook มาก่อน เพิ่งจะนำมาลงที่ blog นี้เป็นครั้งแรก ภาพชุดนี้มีทั้งภาพที่ถ่ายด้วยกล้องฟิล์มแล้วนำมาสแกน (ภาพที่ไม่มีวันที่บันทึก) ภาพที่ถ่ายด้วยโทรศัพท์มือถือในยุคแรก ๆ (ภาพที่มีวันที่ที่เป็นตัวอักษรสีแดงบันทึกไว้ที่มุมล่างขวา) และภาพที่ถ่ายด้วยกล้องดิจิตอลในยุคปัจจุบัน (ภาพที่มีวันที่ที่เป็นตัวอักษรสีส้มบันทึกไว้ที่มุมล่างขวา) ทำให้สีและความคมชัดของแต่ละภาพแตกต่างอยู่บ้าง


วันอังคารที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๐ อาคารหลังเดิมของภาควิชาขณะทำการวางโครงหลังคาเพื่อสร้างหลังคาใหม่คร่อมหลังคาเดิม กำลังสงสัยอยู่เหมือนกันว่าเมื่อทำเสร็จแล้วจะมีปัญหาเรื่องการระบายอากาศใต้หลังคาใหม่หรือไม่ เพราะดาดฟ้าตึกนี้มีปล่องระบายอากาศจากตู้ควันของภาควิชาต่าง ๆ โผล่ออกมาเต็มไปหมด และมันก็อยู่ใต้หลังคาใหม่ด้วย (ที่เห็นหลังคาอาคารด้านมุมล่างซ้ายมีเงาแปลก ๆ เป็นเพราะภาพนี้ถ่ายทำมุมเฉียงผ่านกระจกห้องทำงาน)
 
2560-12-27-Wed
วันจันทร์ที่ ๖ มีนาคม ๒๕๔๙ นิสิตปี ๔ ขณะนำเสนอบอร์ด senior project ก่อนจบการศึกษา

2560-12-29-Fri
วันอังคารที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๕๒ นิสิตปี ๒ ขณะเรียนวิชาปฏิบัติการเคมีอินทรีย์ การทดลองเรื่องสารประกอบอัลดีไฮด์-คีโตน

2560-12-31-Sun
วันศุกร์ที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๕๑ นิสิตป.ตรีที่มาร่วมแสดงความยินดีกับพี่บัณฑิตในงานรับปริญญาของมหาวิทยาลัย

2561-01-02-Tue
วันพฤหัสบดีที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๑ การสอบปลายภาควิชา App Math ChE I ณ ห้อง ๓๑๙ อาคาร ๓ ตอนนี้โต๊ะเรียนแบบนี้ไม่มีใช้แล้ว

2561-01-04-Thu
วันอังคารที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๕๔ นิสิตปี ๔ รับประทานอาหารกลางวันที่โรงอาหารคณะ (ปัจจุบันถูกทุบทิ้งและสร้างใหม่แล้ว) ในวันสุดท้ายของการเรียน (การนำเสนอโครงงานปี ๔)
  
2561-01-06-Sat
วันอังคารที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๕๔ นิสิตปี ๔ รับประทานอาหารกลางวันที่โรงอาหารคณะ (ปัจจุบันถูกทุบทิ้งและสร้างใหม่แล้ว) ในวันสุดท้ายของการเรียน (การนำเสนอโครงงานปี ๔)
 
2561-01-08-Mon
 วันพุธที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๔๙ แลปเคมีวิเคราะห์ การวัดปริมาณคลอไรด์และซัลเฟตด้วยการตกตะกอน

2561-01-10-Wed
กรกฎาคม ๒๕๕๐ นิสิตปี ๒ ขณะเรียนวิชาปฏิบัติการเคมีวิเคราะห์

2561-01-12-Fri
วันอังคารที่ ๙ มีนาคม ๒๕๔๗ นิสิตปี ๔ ขณะนำเสนอรายงานการสอบซีเนียร์โปรเจค
 
2561-01-14-Sun
 วันพุธที่ ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ นิสิตปี ๒ ขณะเรียนวิชาปฏิบัติการเคมีสำหรับนิสิตวิศวกรรมเคมี