วันอาทิตย์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2555

การวัดระดับของเหลวในถัง MO Memoir : Sunday 29 April 2555


เช้าวันศุกร์ที่ ๒๗ เมษายนที่ผ่านมา ก่อนจะเริ่มการบรรยายที่หน่วยงานแห่งหนึ่ง วิศวกรผู้หนึ่งของกลุ่มหน่วยงานนั้นได้เข้ามาถามปัญหาเรื่องเกี่ยวกับตัวเร่งปฏิกิริยา โรงงานของเขาทำการผลิตพอลิเอทิลีนความหนาแน่นสูงโดยใช้เครื่องปฏิกรณ์แบบถังกวนชนิด slurry reactor รายละเอียดของคำถามของเขาและความเห็นที่ผมให้ไปจะเล่าต่อใน Memoir ฉบับหน้า แต่เนื่องจากคำถามของเขามันเกี่ยวกับอุปกรณ์วัดระดับของเหลวในถัง ดังนั้นผมจึงเห็นว่าควรที่จะปูพื้นฐานให้พวกคุณที่ยังคงไม่ค่อยจะมีหรือไม่มีความรู้เกี่ยวกับอุปกรณ์วัดระดับของเหลวในถังก่อน โดยจะแนะนำให้รู้จักเพียงบางชนิดง่าย ๆ ก่อนเท่านั้น

รูปที่ ๑ (ซ้าย) หลักของของอุปกรณ์สำหรับดูระดับของเหลวในถังแบบง่าย ซึ่งของเหลวในท่อแก้ว (หรือท่อโลหะที่มีกระจกหน้าต่างเป็นแก้ว) จะเปลี่ยนแปลงตามระดับความสูงของของเหลวในถัง แต่ถ้าหากเกิดอุบัติเหตุที่ทำให้ท่อแก้วแตกก็จะทำให้ของเหลวในถังรั่วไหลออกมา บางบริษัท (รูปขวา) จึงได้ออกแบบให้มีลูกลอยที่เป็นแม่เหล็กลอย (Float) อยู่ในท่อโลหะ (Float chamber) ลูกลอยแม่เหล็กจะลอยขึ้นลงตามระดับความสูงของของเหลวในถัง และแรงแม่เหล็กจะไปทำให้ลูกลอยอีกตัวหนึ่ง (Indicator) ที่อยู่ในท่อบอกระดับ (Indicator tube) ลอยขึ้นลงตามไปด้วย ในการใช้งานนั้นจะต้องเปิดวาล์วเชื่อมต่อกับถังทั้งตัวบนและตัวล่าง ในกรณีที่ความสูงของของเหลวในถังมีการเปลี่ยนแปลงเกินกว่าที่จะใช้อุปกรณ์เพียงตัวเดียววัดได้ ก็จะใช้อุปกรณ์ดังกล่าวหลายตัวติดตั้งที่ระดับความสูงที่แตกต่างกัน
(รูปขวามาจาก http://www.babbittlevel.com/llg.html)

แบบแรกที่จะแนะนำให้รู้จักคือแบบท่อแก้ว อุปกรณ์ชนิดนี้เป็นอุปกรณ์วัดระดับความสูงของของเหลวโดยตรง ข้อเสียของอุปกรณ์ชนิดนี้คือมีส่วนที่เป็นกระจกซึ่งเป็นวัสดุที่แตกหักง่าย ดังนั้นจึงไม่เหมาะกับการวัดระดับถังความดันหรือบรรจุของเหลวอันตรายหรือสารที่เป็นของเหลวภายใต้ความดัน ในกรณีที่ต้องการวัดการเปลี่ยนแปลงระดังที่มากก็อาจทำการติดตั้งอุปกรณ์หลายตัวให้อยู่ในระดับความสูงที่แตกต่างกัน ตัวอย่างของอุปกรณ์ประเภทนี้ผมนำมาแสดงในรูปที่ ๑ และ ๒ แล้ว

รูปที่ ๒ ตัวอย่างอุปกรณ์ดูระดับของเหลวในถังชนิดที่เป็นท่อแก้ว 
(รูปจาก http://amonton.com/gpage8.html)

ในกรณีที่เป็นถังเก็บขนาดใหญ่ จะมีอุปกรณ์บอกระดับชนิดลูกลอย (ดูรูปที่ ๓ ประกอบ) อุปกรณ์นี้จะมีลูกลอยตัวหนึ่งลอยอยู่บนผิวของเหลวในถัง โดยจะลอยขึ้นลงตามระดับความสูงของของเหลว ลูกลอยนี้จะมีลวดผูกเชื่อมพาดผ่านระบบรอกเข้ากับตัวชี้ระดับที่แขวนห้อยอยู่ด้านนอกถัง เมื่อลูกลอยลอยสูงขึ้นตัวชี้ระดับก็จะเคลื่อนต่ำลง และเมื่อลูกลอยลดต่ำลงตัวชี้ระดับก็จะเคลื่อนสูงขึ้น อุปกรณ์ชนิดนี้ก็เป็นอุปกรณ์ที่วัดระดับของเหลวในถังโดยตรง

รูปที่ ๓ อุปกรณ์วัดระดับของเหลวในถังเก็บความดันบรรยากาศ
(รูปจาก http://www.tankgauging.com/products/6700lli.html)

ในกรณีของถังบรรจุของเหลวภายใต้ความดันและ/หรืออุณหภูมิที่แตกต่างไปจากอุณหภูมิห้องมาก (ทั้งร้อนและเย็น) จะไม่ทำการวัดระดับของเหลวในถังโดยตรง แต่จะทำการวัดแตกต่างระหว่างความดันด้านบนของถัง (ซึ่งเป็นความดันที่เกิดจากความดันของแก๊สที่อยู่เหนือผิวของเหลว) และความดันที่ก้นถัง (ซึ่งเป็นความดันที่เกิดจากความดันของแก๊สที่อยู่เหนือผิวของเหลวรวมกับความดันที่เกิดจากระดับความสูงของของเหลว) และถ้าทราบความหนาแน่นของของเหลวที่บรรจุอยู่ก็จะสามารถคำนวณหาระดับความสูงของของเหลวได้ อุปกรณ์ที่ใช้วัดความแตกต่างความดันนี้เรียกว่า differential pressure transmitter (หรือบางทีก็เรียกว่า dp cell) อุปกรณ์ประเภทนี้จะสามารถส่งสัญญาณความดันไปแสดงผลยังห้องควบคุมหรือไปยังระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมได้


รูปที่ ๔ การวัดระดับของเหลวในถังด้วย Differential pressure transmitter

ในกรณีของการใช้ differential pressure transmitter ในการวัดความดันนั้น ควรที่จะพึงระลึกว่าความดันที่ก้นถังเปลี่ยนแปลงตาม 
 
(ก) ระดับความสูงของของเหลวภายในถัง และ/หรือ
(ข) ความหนาแน่นของของเหลวภายในถัง

ถ้าถังนั้นเป็นถังบรรจุสารบริสุทธิ์หรือสารผสมที่มีส่วนผสมคงที่และมีการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิไม่มาก ก็อาจถือได้ว่าความหนาแน่นของของเหลวภายในถังนั้นคงที่ แต่ถ้าเป็นถังบรรจุสารผสมที่ส่วนผสมนั้นมีการเปลี่ยนแปลงได้หรืออุณหภูมิของเหลวที่ป้อนเข้าถังนั้นมีการแตกต่างกันมาก ก็ต้องมีการพิจารณาว่าส่วนผสมและ/หรืออุณหภูมิของของเหลวที่เปลี่ยนแปลงไปนั้นส่งผลต่อความหนาแน่นของของเหลวหรือไม่ เพราะการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ความหนาแน่นสูงขึ้นจะทำให้อ่านระดับความสูงของของเหลวได้สูงเกินจริง และในทางกลับกันการเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ความหนาแน่นลดลงจะทำให้อ่านระดับความสูงของของเหลวได้ต่ำเกินจริง

การใช้เทคนิคการดูดกลืนกัมมัตภาพรังสีก็สามารถนำมาใช้ในการวัดระดับได้ ซึ่งเทคนิคการวัดการดูดกลืนกัมมันตภาพรังสีอาศัยหลักการที่ว่าวัสดุที่มีความหนาแน่นสูงจะดูดกลืนรังสีได้มากกว่าวัสดุที่มีความหนาแน่นต่ำกว่า เทคนิคนี้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับการวัดระดับของเหลว การวัดระดับของแข็งในถัง และการวัดระดับความสูงของเบดฟลูอิไดซ์

การนำการวัดการดูดกลืนกัมมันตภาพรังสีไปใช้วัดระดับความสูงของของเหลวหรือเบดฟลูอิไดซ์นั้นไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องระดับผิวบนสุด เพราะมันจะขนานไปกับพื้นโลกอยู่แล้ว แต่ในกรณีของของแข็งนั้นเวลาที่เราบรรจุของแข็งเข้าไปในถังเก็บหรือไซโล ระดับผิวบนสุดของชั้นของแข็งไม่จำเป็นต้องราบขนานไปกับพื้นโลก แต่อาจกองเป็นเนินสูงหรือเป็นหลุมยุบลงไปก็ได้ ซึ่งสามารถทำให้ผลการวัดระดับความสูงไม่ถูกต้องได้ (ดูรูปที่ ๕)

รูปที่ ๕ การวัดระดับของแข็งในถังเก็บด้วยกัมมันตภาพรังสี ในกรณีของรูปซ้ายนั้นจะให้ระดับที่ถูกต้อง แต่ถ้าผิวบนของชั้นของแข็งมีการลาดเทไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งหรือมีการยุบตัวลงตรงกลาง (ที่อาจเกิดเวลาที่ระบายของแข็งออกจากถังเก็บทางด้านล่าง การวัดระดับก็จะผิดพลาดได้ ดังนั้นวิธีที่ดีกว่าสำหรับการวัด "ปริมาณ" ของแข็งในถังเก็บคือการชั่งน้ำหนัก

เคยมีประสบการณ์ไปเยี่ยมวิศวกรรายหนึ่งที่โรงบำบัดน้ำเสียแห่งหนึ่งที่มีการใช้สารละลายกรดกำมะถันในการบำบัดน้ำเสีย ทางโรงบำบัดน้ำเสียพึ่งจะทำการติดตั้งถังเหล็กสำหรับเก็บกรดกำมะถันเข้มข้นและยังไม่มีการติดตั้งอุปกรณ์วัดระดับใด ๆ เอาไว้กลางแจ้ง หน้าที่หนึ่งของวิศวกรท่านนั้น (พึ่งจะจบมาใหม่) คือการหาว่าในแต่ละวันจะใช้กรดกำมะถันปริมาณเท่าใด เพื่อที่จะได้วางแผนการสั่งเข้ามาทดแทน ถังดังกล่าวสูงประมาณ ๒ เมตรเศษ

การหาปริมาณกรดกำมะถันที่ใช้ไปนั้นจะหาจากการเปลี่ยนแปลงปริมาตรของกรดที่เหลืออยู่ในถัง จากการวัดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของถังก็จะหาพื้นที่หน้าตัดของถังได้ และถ้าทราบความสูงของระดับของเหลวในถังก็จะคำนวณหาปริมาณของกรดในถังได้ ปัญหาของเขาในขณะนั้นคือจะรู้ได้อย่างไรว่าระดับของเหลวในถังอยู่ที่ระดับใด

ผมก็บอกให้เขาพาผมไปที่ถังดังกล่าวแล้วผมก็เอาหลังมือแตะที่ถังนั้นที่ระดับความสูงต่าง ๆ แล้วในที่สุดผมก็บอกเขาว่าตอนนี้ระดับของกรดในถังอยู่ที่ตำแหน่งนี้

ถังที่ตั้งกลางแจ้งที่ตากแดดนั้น อุณหภูมิผิวโลหะส่วนที่ต่ำกว่าระดับของเหลวจะเย็นกว่าอุณหภูมิผิวโลหะส่วนที่อยู่เหนือระดับผิวของเหลว ความแตกต่างนี้แม้ไม่มากแต่หลังมือของเราก็รู้สึกได้ สิ่งที่ผมทำก็คือเอาหลังมือแตะผิวโลหะด้านนอกของถังเพื่อหาว่าที่ระดับใดอุณหภูมิของผิวโลหะแตกต่างกัน ตรงนั้นก็จะเป็นระดับผิวบนของของเหลวในถัง

บ่อยครั้งที่วิศวกรนั้นต้องทำงานโดยไม่มีอุปกรณ์ช่วยใด ๆ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าหรือการแก้ปัญหาหน้างาน ซึ่งก็ต้องฝึกเอาไว้บ้างเผื่อจำเป็น


รูปที่ ๖ ถังที่วางตากแดดนั้นอุณหภูมิของผิวถังเหนือระดับของเหลวจะสูงกว่าอุณหภูมิของผิวถังใต้ระดับของเหลวอยู่เล็กน้อย แต่ก็มากพอที่มือของเราจะรู้สึกได้ ในกรณีที่ไม่มีอุปกรณ์วัดใด ๆ เลยเราก็สามารถใช้วิธีการนี้ระบุความสูงของของเหลวในถังได้