ปัญหาเตาของกลุ่ม
DeNOx
ที่พบว่าต้องเร่งความต่างศักย์ให้สูงขึ้นเพื่อให้ทำอุณหภูมิให้ได้สูงดังต้องการนั้นดูเหมือนว่าจะเกิดขึ้นตั้งแต่เดือนที่แล้ว
มีคนบอกผมว่าเขาแจ้งผมตั้งแต่เดือนที่แล้ว
(ผมจำไม่ได้ว่าใครเป็นคนบอกและบอกเมื่อใด
เพราะเดือนนั้นมีเรื่องวุ่นวายหลายต่อหลายอย่าง)
แล้วเขาก็บอกว่าผมบอกให้เพิ่มความต่างศักย์ให้สูงขึ้นเพื่อให้ได้อุณหภูมิดังต้องการ
ผมพึ่งจะมาเฉลียวใจในสัปดาห์นี้เมื่อได้ยินสาวน้อยหน้าบานบอกว่าเตาให้ความร้อนมันเสีย
มันไม่ค่อยร้อน
ก็เลยคิดว่าวันรุ่งขึ้นจะมาตรวจสอบสักหน่อย
แต่ปรากฏว่าในวันรุ่งขึ้นกลับมีสาวน้อยร่างสูงมาใช้ทำการทดลอง
และบอกผมว่ามันยังใช้งานได้อยู่
ผมก็เลยงงว่าตกลงว่าเรื่องมันเป็นยังไงกันแน่
เรื่องที่สอบถามได้ความคือเตามันร้อนขึ้นช้า
ซึ่งทำให้ผมสงสัยว่าขดลวดความร้อนที่มีอยู่
๒ ตัวนั้นคงจะขาดไปตัวหนึ่ง
ก็เลยคิดว่าจะให้หยุดการทดลองเพื่อซ่อมเตาก่อน
เพราะถ้าปล่อยทิ้งไว้จะทำให้ขดลวดอีกตัวขาดตามไปด้วย
เพราะต้องจ่ายไฟให้ขดลวดตัวที่เหลือมากขึ้นเพื่อให้ร้อนเท่าเดิม
แต่พบสอบถามกลับมากลับพบว่ามีแต่คนจะขอใช้ก่อนเพราะต้องรีบทำงานส่ง
(ทำนองว่าถ้ายังใช้งานได้ฉันก็ขอใช้ก่อน
เพื่อจะได้มีงานส่ง
เพราะถ้าหยุดซ่อมก็จะทำให้ไม่มีงานส่ง
คงถูกด่าแน่ ๆ)
แล้วค่อยหยุดซ่อมในคิวคนถัดไป
(ซึ่งจะต้องสูญเสียคิวในการทำงานเพื่อหยุดซ่อม
เพราะพอซ่อมเสร็จก็จะถึงคิวทำงานของคนอื่นต่อ)
ตอนแรกก็โมโหอยู่เหมือนกัน
แต่สักพักก็ทำใจคิดได้ว่าก็ดีเหมือนกัน
ปล่อยให้เครื่องเสียไปเลยก็ดี
จะได้ทำแลปกันไม่ได้
จะได้ไม่มีงานส่งบริษัท
แล้วจะรอดูว่าที่ชอบนัดบริษัทมาคุยกันบ่อย
ๆ จะเอาอะไรไปเสนอเขา
นอกจากนี้ผลการทดลองการวัดความว่องไวตัวเร่งปฏิกิริยาที่ทำกันในช่วงนี้ก็คงจะมีปัญหาแน่
เพราะ reactor
มันร้อนเพียงซีกเดียว
รูปที่
๑ (ซ้าย)
เตาตัวที่มีปัญหา
และ (ขวา)
ต้นตอของปัญหาคือสายไฟข้างหลังหลุด
(ในวงแดง)
เตาให้ความร้อนของเรานั้นใช้ขดลวดความร้อนสองเส้น ให้ความร้อนสองฝั่งของ reactor (รูปที่ ๑ ซ้าย) โดยมีเทอร์โมคับเปิลสอดอยู่ตรงกลาง reactor เพื่อวัดอุณหภูมิใต้ bed ตัวเร่งปฏิกิริยา
ซึ่งในภาวะปรกตินั้นเมื่อขดลวดความร้อนทำงานพร้อมกันทั้งสองเส้น
ก็พอจะถือได้ว่าอุณหภูมิผนังรอบ
ๆ reactor
นั้นมีความสม่ำเสมอ
และพอประมาณได้ว่าอุณหภูมิตลอดพื้นที่หน้าตัดของ
bed
นั้นเท่ากัน
(แม้ว่าในความเป็นจริงตรงกลางอาจจะเย็นกว่าได้เล็กน้อยเนื่องจากการไหลของแก๊ส)
อุณหภูมิที่เทอร์โมคับเปิลอ่านได้นั้นจะไม่สูงเกินอุณหภูมิที่ผนังท่อ
แต่ถ้าขดลวดความร้อนทำงานเพียงซีกเดียว
เตาจะร้อนเพียงข้างเดียว
อีกข้างจะเย็นกว่า
ดังนั้นแก๊สที่ไหลผ่านทางด้านผนังที่ร้อนจะเกิดปฏิกิริยาด้วยอัตราการเกิดปฏิกิริยาที่แตกต่างไปจาก
อุณหภูมิที่เทอร์โมคับเปิลอ่านได้จะต่ำกว่าอุณหภูมิผนังด้านที่ขดลวดความร้อนทำงาน
แต่อาจจะสูงกว่าอุณหภูมิผนังด้านที่ขดลวดความร้อนไม่ทำงาน
(รูปที่
๒)
รูปที่
๒ ภาพตัดขวางของ reactor
รูปซ้าย
ถ้าขดลวดความร้อนทำงานทั้งสองข้าง
ผนังของ reactor
จะมีอุณหภูมิที่สม่ำเสมอ
ส่วนรูปขวา ถ้าขดลวดความร้อนด้านขวาไม่ทำงาน
(เนื่องจากไม่มีไฟฟ้าไหลเข้า)
ผนังทางด้านขวาจะเย็นกว่าทางด้านซ้าย
และทำให้แก๊สที่ไหลผ่านทางด้านขวาเย็นกว่าแก๊สที่ไหลผ่านทางด้านซ้าย
ผมจึงบอกสาวน้อยหน้าบาน
(ทางโทรศัพท์)
ไปว่าถ้าจะทดสอบวัดการดูดซับ
SO2
ก็พอทำได้
แต่ไม่ควรจะทำการทดลองวัดความว่องไวของตัวเร่งปฏิกิริยา
เพราะอาจมีปัญหาเรื่องผลการทดลอง
ถ้าจะทำการทดสอบตัวเร่งปฏิกิริยาเมื่อใดก็ควรต้องซ่อมเตาก่อน
เมื่อวานซืนตอนเช้าแวะเข้าไปดูเตาก่อนที่สาวน้อยหน้าบานจะมาถึง
ลองเปิดเตาดูว่าขดลวดข้างในมันขาดหรือเปล่า
ก็ไม่เห็นอะไร
ก็เลยคิดว่าจะปลดสายไฟข้างหลังเพื่อที่จะวัดความต้านทาน
แต่ปรากฏว่าเห็นดังรูปที่
๑ (ขวา)
คือสายไฟที่ต่อเข้าขดลวดความร้อนอีกเส้นหนึ่งนั้นมันหลวมอยู่
พอเอาไขควงสะกิดนิดเดียวก็หลุดห้อยออกมาดังภาพ
ผมก็เลยถ่ายรูปเก็บเอาไว้เป็นที่ระลึก
ซึ่งก็พอดีกับสาวน้อยหน้าบานมาถึงพอดี
งานนี้ทำเพียงแค่ต่อสายไฟกลับเข้าที่เดิม
และให้สาวน้อยหน้าบานทดสอบให้ความร้อนแก่เตา
สักพักคิดได้ว่าเดี๋ยวพอสาวน้อยหน้าบานทำการทดลองเสร็จแล้วก็จะปลดมันออกเหมือนเดิม
(เพื่อที่จะให้ผลการทดลองของคนอื่นเขามันเหมือนเดิม)
ก็เลยกลับมาจะบอกกับสาวน้อยหน้าบานว่าอย่าเพิ่งไปบอกคนอื่นว่าเราพบแล้วว่าปัญหามันคืออะไร
แต่ปรากฏว่ากลับมาไม่ทัน
หล่อนแจ้งให้เพื่อน ๆ
ทราบหมดแล้ว
เรื่องเตาไม่ร้อนเพราะสายไฟหลุดนี่เคยเกิดขึ้นครั้งหนึ่งแล้วกับ
Autoclave(๑)
สาเหตุที่สายไฟมันหลุดง่ายก็เพราะใช้ตัวหางปลาแบบสองขา
ซึ่งถ้าใช้แบบหัวกลมสวมลงไปบนตัวนอตก็จะไม่เกิดปัญหานี้
เมื่อวานก็ได้ยินมาว่าเรื่องขั้วสายไฟหลวมนี้ทราบกันมานานแล้ว
แต่ไม่มีใครคิดจะลงมือแก้ไข
เพราะมีการบอกต่อ ๆ
กันว่าไม่สามารถซ่อมได้เพราะ
.......
ฯลฯ
ผมฟังแล้วก็รู้สึกแปลก
เวลาที่มีคนไปพบว่าอะไรมันมีปัญหา
และเขาบอกว่าไม่สามารถซ่อมเองได้
คนอื่นก็จะเชื่อทันทีโดยไม่ช่วยกันตรวจสอบว่าอันที่จริงแล้วมันสามารถซ่อมได้เองหรือเปล่า
หรือไม่ก็ควรไปถามความเห็นคนอื่นให้ช่วยตรวจสอบว่ามันเป็นจริงอย่างที่คนแรกพูดหรือเปล่า
งานนี้ก็เช่นเดียวกัน
พอมีคนบอกว่านอตที่หลวมนั้นไม่สามารถขันให้แน่นได้
ทุกคนก็เชื่อตามนั้นหมด
พอผมถามว่าแล้วทำไปผมจึงสามารถขันให้แน่นได้
ก็ไม่ได้รับคำตอบใด ๆ
ตอนนี้กำลังคิดอยู่ว่าจะทำเรื่องขอซ่อมเตาดีไหม
ว่าจะคิดค่าซ่อมสักหมื่นสองพันบาท
(เห็นกลุ่มอื่นเขาขอเบิกกันขนาดนี้)
ที่ผมแปลกใจคือทำไมรายนี้ต้องออกครึ่งหนึ่ง
แต่พอพวกเด็กอภิสิทธิ์ชนข้างบนมาทำเครื่องข้างล่างพัง
(เครื่อง
TPx
ที่พังเนื่องจากไปดัดแปลงการทำ
NH3-TPD
ให้มีการดักเก็บ
NH3
ทางขาออก
(โดยคำสั่งของอาจารย์ที่ปรึกษา)
แล้วทำให้สารละลายกรด
boric
ไหลย้อนเข้าเครื่อง)
เขากลับไม่ต้องซ่อมเอง
เล่นเผ่นหนีไปอยู่ข้างบน
ไม่แจ้งความเสียหายให้ทราบด้วย
ปล่อยให้คนข้างล่างรู้กันเองภายหลังว่าเครื่องเสีย
และต้องมาดำเนินการซ่อมกันเอง
ตัวคนก่อเรื่องก็หายหัวไป
แถมอาจารย์ที่ปรึกษาก็ปิดปากเงียบ
พยายามโยนความผิดให้คนอื่น
(ทั้งนิสิตของตัวเองและนิสิตของคนอื่น)
อีกว่าทำไมไม่ดูแลให้ดี
คนที่กำลังจะเข้ามาเรียน
ถ้าอ่านมาเจอที่นี่เข้า
ก็สืบประวัติกันเอาเองจากรุ่นพี่ก็แล้วกัน
ว่าอาจารย์ที่จะเข้ามาทำงานด้วยนั้นพฤติกรรมเป็นอย่างไร
ยังมีโอกาสที่จะเปลี่ยนใจทัน
หมายเหตุ
(๑)
Memoir ปีที่
๔ ฉบับที่ ๓๓๔ วันศุกร์ที่
๑๕ กรกฎาคม ๒๕๕๔ เรื่อง
"การทำวิทยานิพนธ์ภาคปฏิบัติ
ตอนที่ ๒๙ ปัญหา Autoclave
(อีกแล้ว)"